ทางออกพระรับเงินและสิกขาบทมหายาน
พระรับเงินเป็นอาบัติแน่นอน ชัดเจนในข้อวินัยทั้งฝ่ายเถรวาทและมหายาน ล้วนแต่ระบุว่า ห้ามพระสงฆ์รับเงิน
โดย...กรกิจ ดิษฐาน
พระรับเงินเป็นอาบัติแน่นอน ชัดเจนในข้อวินัยทั้งฝ่ายเถรวาทและมหายาน ล้วนแต่ระบุว่า ห้ามพระสงฆ์รับเงิน ถือเป็นอาบัตินิสสัคคียปาจิตตีย์ในพระวินัยเถรวาทและมหายานกำหนดอาบัติตรงกัน ไปพลิกอรรถกถา ฎีกา อนุฎีกา ปกรณ์ต่างๆ บอกตรงกันหมดว่า อาบัติโดยไม่มีข้อแม้
แต่ไม่ใช่ว่าจะทำบุญด้วยเงินไม่ได้ การที่จะไม่ให้เงินพระเลย มันสุดโต่งเกินไปพอๆ กับประเคนเงินให้พระแบบไม่ยั้งคิด
วัดในยุคใหม่ขาดผู้อุปถัมภ์ที่เป็นชนชั้นสูงและกระฎุมพี พระอารามหลวงเองแม้จะได้รับพระราชูปถัมภ์ก็ยังไม่ทั่วถึง เงินจากปัจเจกชนชาวพุทธจึงสำคัญต่อวัดมากในแง่การบำรุงรักษา ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในการเผยแพร่ธรรมะ ฯลฯ ที่สำคัญเดี๋ยวนี้ของฟรีหายาก
ความจริงผมอยากรู้ว่า ถ้าไม่มีเงินศาสนาพุทธจะพังพินาศไหม หรือว่าจะบริสุทธิ์ผุดผ่องกว่าเดิม แต่พอจะเดาได้ว่าคงจะพังและไม่ผุดผ่องกว่าเดิม เงินกลายเป็นของจำเป็นไปเสียแล้ว อันที่จริงมันจำเป็นมาตั้งแต่ครั้งหลังพุทธกาล หาไม่แล้วคงไม่เกิดกรณีวัตถุ 10 ประการของพวกวัชชีบุตร หนึ่งในนั้นคือการสนับสนุนให้พระถือเงินได้ จนเกิดการสังคายนาครั้งที่ 2
ผมเดาว่าภิกษุวัชชีบุตรคงจะไม่โลภเงินเท่านั้น แต่คงเห็นว่าเงินจำเป็น เพียงแต่ฝ่ายพระเถระเห็นว่าการถือเงินเป็นโทษมากกว่าคุณสำหรับพระ
ในเมื่อพระสงฆ์รับเงินไม่ได้ วิธีแก้คือมอบให้โดยผ่านไวยาวัจกร หรือผู้จัดการวัดนั่นแหละ ทุกวัดควรจะกำหนดเรื่องนี้ให้ชัด พระสงฆ์เองก็ควรจะบอกกับโยมให้ชัดว่ารับเงินไม่ได้ ส่วนโยมก็ควรจะรู้ว่าพึงถวายแก่ใคร (วิชาพระพุทธศาสนาควรจะสอนเรื่องนี้)
ไม่เห็นจะยาก ยกเว้นว่าโยมสะเพร่า เจ้ากูละโมบในทรัพย์
ผมบอกว่าพลิกอรรถกถา ฎีกา อนุฎีกา ปกรณ์ต่างๆ บอกตรงกันหมดว่า อาบัติไม่มีข้อแม้ แต่จริงๆ แล้วมีตำรายุคใหม่ที่วิเคราะห์หาทางออกในเรื่องนี้แบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่นเหมือนกัน เช่น หนังสือ The Buddhist Monastic Code ของหลวงพ่อเจฟฟรีย์ ฐานิสฺสโร
ท่านวิเคราะห์ได้อย่างแยบยลว่าพระสงฆ์ควรจะจัดการกับเงินอย่างไรโดยผ่านไวยาวัจกร หรือให้ความรู้โยมว่า สามารถนำเงินถวายไปจัดการของจำเป็นถวายพระแทน หรือสร้างถาวรวัตถุให้เลย แล้วแจ้งความคืบหน้ากับพระสงฆ์ ไม่ให้ท่านต้องลำบากเรื่องเงิน และอีกหลายวิธี โดยสรุปก็คือมีวิธีที่จะให้เงินพระโดยไม่อาบัติ นั่นคือไม่ให้โดยตรง และหากเงินถึงกองกลางเป็นสังฆทาน พระสงฆ์พึงใช้จ่ายอย่างประหยัดเพื่อเลี้ยงตัวให้รอดเท่านั้น ใน
อรรถกถาระบุไว้ชัด
ปัญหาคือโยมไม่มีเวลา และพระกลัวว่าไม่มีเงินแล้วจะทำกิจไม่ได้ แล้วศาสนาจะพัง น่าเห็นใจทั้งสองฝ่าย
บางคนบอกว่า หน้าที่ของพระสงฆ์คือการสละออก สลัดตนให้พ้นจากความเกี่ยวพันทางโลก แล้วปฏิบัติให้พ้นๆ ไป ถึงวัดจะพัง คัมภีร์จะสูญ ก็พึงตั้งจิตใจไว้ที่ไตรลักษณญาณ ให้เป็นธุระของโยมจะดีกว่า
แต่ไม่ใช่พระสงฆ์ทุกรูปที่อยากจะไปนิพพานชาตินี้ หลายท่านคิดจะช่วยสัตว์โลก ค้ำชูพระศาสนาก่อน เงินเป็นปัจจัยสำคัญในการทำตามปณิธานช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากในทางธรรม แต่ระดับนี้มีไม่มาก ถ้าปณิธานไม่แข็งแกร่ง ตกเป็นทาสเงินเอาง่ายๆ
แล้วคนจะมองศาสนาเสียหาย จนกลายเป็นข้อเรียกร้องให้ปฏิบัติตามสิกขาบทอย่างเคร่งครัด ดังที่เป็นอยู่
ป.ล.
ผมแปลสิกขาบทของฝ่ายมหายานที่เกี่ยวกับเงินไว้ จากพระวินัย 4 ฉบับที่ใช้กันในเอเชียตะวันออก เผื่อจะสงสัยกันว่า พระมหายานจับเงินได้ ที่จริงจับไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด
ในมหาสางฆิกวินัย ผูกที่ 10 กล่าวว่า “พระพุทธองค์ตรัสว่า สมณศากยบุตรไม่ควรครอบครองเงินทอง หากมีผู้กล่าวว่า พึงถือครอบครองเงินทอง คำนั้นเป็นคำคนตู่เรา ไม่ใช่คำจริง ไม่ใช่ธรรม ไม่พึงกระทำตาม” (佛言:「沙門釋子不應畜金銀。若有人言:『應畜金銀。』是誹謗我,非實、非法、非隨 順)
พระภควันตรัสว่า “สมณพระชินบุตรไม่ควรครอบครองเงินทอง หากครอบครองเงินทอง ไม่ใช่สมณธรรม ไม่ใช่ธรรมของศากยบุตร” (如世尊說:『沙門釋子不應畜金銀。若畜金銀者,非沙門法、非釋種法。)
ในคัมภีร์พระวินัยยังแนะว่า “หากมีผู้จะถวายเงินทองให้ภิกษุพึงกล่าวว่า อาตมาสละทางโลก คนในทางธรรมไม่จำเป็นต้องใช้” (我出家人法不得用。)
ในมูลสรวสติวาทวินัย ผูก 60 มีดังนี้ว่า “ถามว่าเงินทองของสมบัติเป็นของบริสุทธิ์หรือไม่ ตอบว่า ภิกษุเมืองเวสาลี (กรณีพระอุปนันทะ) รับเงินทองของสมบัติ กล่าวถึงความบริสุทธิ์ สมบัติที่ครอบครองบริสุทธิ์หรือ? ตอบว่า ไม่บริสุทธิ์” (還問:「云何金銀寶物淨?」 答:「毘耶離諸比丘,取金銀寶物,言是事淨。 實淨不?」答:「不淨。」) และในมูลสรวสติวาทวินัยวิภังค์ ความว่า “เรา (พระพุทธองค์) ยังกล่าวว่า สมณศายบุตรไม่ควรรับถือไว้ซึ่งเงินทองและรูปิยะ” (我 亦說言:沙門釋子不應受捉金銀錢等)
ในธรรมคุปตกวินัย ผูก 50 กล่าวว่า “ท่านทั้งหลายพึงรู้ไว้ สมณศกยบุตรไม่พึงครอบครองเงินทอง” (汝等當知,沙門釋 子不應受取金銀)
ในมหีษาสกวินัย ผูก 5 กล่าวว่า “ภิกษุใช้เงินทองและรูปิยะสิ่งซื้อขายต่างๆ ถือเป็นอาบัตินิสสัคคีย์ ให้ภิกษุสละออก จึงพ้นมลทิน” (比丘,以金銀及錢賣買, 犯捨墮。今於僧中捨。白如是。)


