สู่ขวัญ บูลกุล ไอคอนผู้หญิงยุคดิจิทัล

เรื่อง พุสดี สิริวัชระเมตตา

ถ้าไม่นับกระแส “บุพเพสันนิวาสฟีเวอร์” ที่ดันให้แม่หญิงการะเกด ซึ่งรับบทโดย เบลล่า ราณี กลายเป็นสาวฮอตแห่งยุค (กรุงศรีอยุธยา) ที่ใครๆ ก็หลงรัก อีกหนึ่งสาวสวยที่ต้องยกตำแหน่งไอคอนแห่งยุคดิจิทัลให้เลย เพราะนาทีนี้ใครๆ ก็อยากทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น จะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ ขวัญ-สู่ขวัญ บูลกุล สาวเก่งมากความสามารถที่พิสูจน์ฝีมือให้เห็นมาแล้วในหลากหลายบทบาททั้งนักข่าว พิธีกรข่าว นักแสดง จนก้าวสู่อินฟลูเอนเซอร์ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ในฐานะเจ้าของวลีเด็ดแห่งยุคอย่าง #ของมันต้องมี ล่าสุดเธอยังสวมบทแบรนด์ไอคอนคนแรกของลังโคม ประเทศไทย

“เวลาใครเจอขวัญ จะมีคนถามเยอะมากว่าดูแลตัวเองอย่างไร ขวัญเชื่อว่าเราไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ว่ากินอย่างนี้ซิ ใช้แบบนี้ซิ อย่าไปเครียดซิ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในชีวิตของเราล้วนเกี่ยวพันกันหมด ตั้งแต่การกินการอยู่ การพักผ่อน ทัศนคติ การใช้ชีวิต การออกกำลังกาย การดูแลตัวเอง รวมไปถึงพันธุกรรม ขวัญเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เราใช้ชีวิตมา มันคงจะถูกต้องสักอย่างหนึ่ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรนะคะ แต่เราก็พยายามทำทุกอย่างดีที่สุด เท่าที่เรารู้สึกว่าเรายังรักษาสมดุลและความสุขของชีวิตเอาไว้ได้” สาวสวยที่วัยไม่เป็นอุปสรรค เปิดฉากถึงเคล็ดลับความสวยที่สาวๆ ทุกคนต้องฟังอย่างออกรส จนชวนให้สงสัยว่าเธอเริ่มดูแลตัวเองครั้งแรกตั้งแต่เมื่อไหร่

“ขวัญเริ่มดูแลตัวเอง ตั้งแต่สมัยประถม เริ่มจากทาโลชั่นบำรุงผิว เพราะเป็นคนผิวเแห้ง จนพอเริ่มเป็นวัยรุ่นถึงเริ่มใช้ครีมบำรุงผิวหน้า ทำเป็นกิจวัตรทุกวันเช้าเย็นจนทุกวันนี้ ถามว่าใช้เวลากับการดูแลตัวเองนานมั้ยในแต่ละวัน ก็ต้องตอบว่าไม่ เพราะทาแบบเร็วๆ ไม่ได้ถึงขั้นต้องนวดกดจุด แต่ถ้าถามสามี (โชค บูลกุล) คงบอกว่านาน (หัวเราะ)” สู่ขวัญ บอกเล่าอย่างอารมณ์ดี พร้อมโปรยยิ้มอย่างมีเสน่ห์ จนแทบจะคลายคำถามคาใจไปได้พอสมควรว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นผู้หญิงร่าเริง ออกจะตลกนิดๆ แบบที่หลายคนเห็นในรายการ Celeb Blog ที่กำลังฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมืองหรือไม่

“ตัวจริงก็เป็นแบบที่เห็นในคลิปค่ะ (ยิ้ม) หลายคนที่ได้ชมแรกๆ อาจจะแปลกใจ เพราะที่ผ่านมา บทบาทที่คนในสังคมคุ้นเคย เวลาอยู่หน้าจอคือ ขวัญจะดูจริงจัง ซีเรียส ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะบทบาทของเรา เริ่มจากเป็นนักข่าวสายเศรษฐกิจ เป็นพิธีกรข่าว จนพอมาแสดงภาพยนตร์ก็เป็นแนวดราม่าหนักๆ อีก แต่พอมาทำคลิปในรายการ ทุกอย่างสดมาก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแต่ละวันจะเกิดอะไรขึ้น ทีมงานจะถามแค่ว่า ขวัญอยากไปไหน อยากทำอะไร เขาก็ถ่ายตาม ไม่มีสคริปต์”

ด้วยความเป็นธรรมชาติ พอบวกกับเสน่ห์ของรอยยิ้มหวานๆ และน้ำเสียงอันน่าฟัง ชวนให้เคลิ้มตาม เลยทำให้คลิปของสู่ขวัญครองใจชาวโซเชียลได้ในชั่วข้ามคืน จนขึ้นแท่นเป็น “คลิปที่ต้องดู” ไปแล้ว หากใครจะรู้ว่าเบื้องหลังของสาวฮอตที่ทรงอิทธิพลเหลือเกินบนโลกออนไลน์ เธอไม่มีเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเพียงอินสตาแกรมและทวิตเตอร์ไว้ติดตามข่าวสารจากสื่อต่างๆ

“ขวัญไม่รู้นะ ว่าเราเป็นอินฟลูเอนเซอร์ หรือทรงอิทธิพลแค่ไหนในโลกโซเชียล ส่วนใหญ่จะได้ยินจากน้องๆ ที่มาสัมภาษณ์ หรือคนรอบตัวที่บอก ทุกวันนี้พี่มีแต่อินสตาแกรม ซึ่งเจี๊ยบ (โสภิตนภาชุ่มภาณี) เป็นคนสมัครให้ ตอนที่ไปทริปญี่ปุ่นด้วยกัน เพราะฉะนั้นต้องบอกว่าถ้าไม่มีเจี๊ยบก็คงไม่มีอินสตาแกรม (ยิ้ม)”

สาวสวยทรงเสน่ห์ ยังบอกด้วยว่า เธอพอใจกับการเป็นเจ้าของพื้นที่เล็กๆ ในโลกออนไลน์ ก่อนหน้านี้มีหลายคนทาบทามให้เธอเปิดยูทูบ แชนแนล แต่สุดท้ายเธอก็ปฏิเสธไป เพราะหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่า ทำไมต้องมี

“ทุกวันนี้ทำคลิปรายการ เพราะสนุก เป็นสิ่งที่เราเองก็สนใจและอยากลองทำ ไม่ได้คิดว่าต้องต่อยอดไปไกลถึงขั้นเป็นรายการโทรทัศน์ ทุกวันนี้รู้สึกขอบคุณกับทุกกระแสตอบรับที่กลับมา ขวัญชอบทุกบทบาทที่ทำมานะ เพราะทุกบทบาทหล่อหลอมให้เราเป็นเราในทุกวันนี้ ขวัญมองว่าทุกสิ่งในชีวิตเป็นบทเรียน ขั้นตอนและการเรียนรู้ ถ้าขาดไปสักบทบาทใดบทบาทหนึ่ง เราอาจจะดีกว่านี้ หรือแย่กว่านี้ แต่ที่แน่ๆ คือ ไม่ใช่เราในวันนี้ ขวัญเชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเราคือประสบการณ์และบทเรียนที่ทำให้เรารู้จักตัวเองและคนรอบข้าง ที่สำคัญเข้าใจชีวิตมากขึ้น”

เพราะฉะนั้นถ้าย้อนไป 3-5 ปีที่แล้ว มีใครมาบอกว่าวันนี้ สู่ขวัญ จะกลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ เธอจะเชื่อหรือไม่ “ขวัญคงหัวเราะ และบอกว่าไม่จริง เพราะอย่างที่บอกว่าวิถีชีวิตที่เราชอบไม่ใช่ทางนี้ ขวัญชอบอยู่เงียบๆ อย่างไตรมาสแรกของปีนี้ ขวัญรู้สึกว่ายุ่งเกินไป เมื่อไหร่ที่เกิดความรู้สึกว่าเกินไป นั่นหมายความว่าชีวิตของเรากำลังขาดสมดุล เรากำลังลิดรอนบางอย่าง เพื่อทำบางอย่าง ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ก็จะทำให้ชีวิตไม่มีความสุข ซึ่งขวัญเองก็ตระหนักเรื่องนี้มาตลอด และคิดว่าหลังจากนี้ไปทุกอย่างจะเบาลง”

ถึงจะถ่อมตัวว่า ไม่ใช่ผู้ทรงอิทธิพล แต่นาทีนี้เธอได้กลายเป็นขวัญใจของคนทุกวัยไปแล้ว แถมยังกลายเป็นไอดอลของใครหลายๆ คน งานนี้ เธอจึงถือโอกาสทิ้งท้ายอย่างน่าประทับใจถึงแฟนๆ...

“สู่ขวัญในวันนี้ที่ทุกคนเห็น คือภาพที่สมบูรณ์แบบแล้ว จริงๆ แล้วขวัญไม่ได้เกิดมาเป็นคนเก่ง มีพรสวรรค์ ขวัญเป็นเด็กธรรมดา เรียนดีบ้าง ซ่อมบ้าง ตอนมาเป็นนักข่าว ก็ไม่ได้มองว่าตัวเองเริ่มจากศูนย์นะ แต่เริ่มจาก -100 ต้องอาศัยความพยายามให้มากกว่าคนอื่น เพื่อไปให้ถึงจุดที่คู่ควรกับงานที่ทำ ทุกครั้งที่เจอปัญหา ขวัญจะคิดเสมอว่าจะมีกี่คนบนโลกใบนี้ที่ประสบความสำเร็จไปหมด ความจริงของชีวิตก็แบบนี้ เพราะฉะนั้นอย่ามองปัญหาให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ต้องพยายามก้าวผ่าน

ขวัญไม่แคร์เรื่องความสำเร็จ แต่จะไม่ใช้ชีวิตในแบบที่ผ่านไป 10 หรือ 20 ปีแล้วค่อยมามองย้อนแล้วรู้สึกเสียใจ การมองกลับไปเพื่อชื่นชมกับอดีตไม่ใช่สิ่งที่ผิด และไม่ใช่วันนี้เราจะทำดีกว่าวันวานไม่ได้ แต่อย่างน้อยเราต้องรู้ว่า เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต วันนั้นเราได้ทำสุดความสามารถที่เรามีแล้ว”

สำหรับเป้าหมายต่อไปของสู่ขวัญ คือ หาเวลาเดินทางออกไปเห็นโลกให้มากที่สุด “ขวัญชอบท่องเที่ยว ประสบการณ์ชีวิตอาจสอนให้เรารู้ว่า ชีวิตนี้คืออะไร ซึ่งเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แต่สิ่งที่จับต้องได้ คือ ความสุขจากการได้ไปชมความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อทำความรู้จักกับโลกกลมๆ ใบนี้ให้มากขึ้น”