‘เลี้ยงลูกอิงธรรมชาติ’ ชัชนิต มุสิกไชย มหาคุณ
เวิร์กกิ้งวูเมนและสาวสังคมมากความสามารถ "แอน" ชัชนิต มุสิกไชย มหาคุณ
โดย ฤดูกาล ภาพ : ชัชนิต มุสิกไชย มหาคุณ
เวิร์กกิ้งวูเมนและสาวสังคมมากความสามารถ "แอน" ชัชนิต มุสิกไชย มหาคุณ เล่าเรื่องราวความผูกพันของเธอและลูกสาว "น้องอเล็กซี่" วัย 4 ขวบ ที่เธอขอเลือกธรรมชาติให้ลูกรักได้สัมผัสและเรียนรู้
ทริปแรกๆ ของน้องอเล็กซี่เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเตาะแตะ โดยเธอได้พาไปเปลี่ยนบรรยากาศที่บ้านพักตากอากาศของครอบครัวที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา "เวลาอยู่บ้านเขาใหญ่เราจะไม่ให้เขาเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อะไรเลย" เธอเล่าถึงทริปประจำของครอบครัว
"แต่จะให้น้องลองถอดรองเท้าเดินบนหญ้า เพราะเราอยากเลี้ยงลูกแบบอิงธรรมชาติให้มากที่สุด ให้เขาเรียนรู้ต้นไม้ เรียนรู้ธรรมชาติ เล่นกับสุนัขที่เรารับเลี้ยงมา ได้สัมผัสอากาศหนาว อากาศร้อน และหลังจากนั้นเราก็ปลูกฝังเขาว่า ถ้าไปบ้านเขาใหญ่เราจะไปเล่นดินเล่นทรายกัน ทำให้น้องเป็นเด็กไม่กลัวเลอะ แต่จะเล่นกับธรรมชาติเต็มที่ และเราก็ปล่อยให้เขาเรียนรู้ด้วยการสัมผัสจริงให้มากที่สุด"
แอน กล่าวต่อว่า การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัดยังเป็นการฝึกลูกเรื่องความอดทนในการนั่งรถนานๆ 2-3 ชั่วโมง ฝึกการรอก่อนถึงจุดหมายปลายทาง และเป็นการเตรียมตัวลูกสาวก่อนขยับไปเที่ยวต่างประเทศในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งเธอวางแผนไว้ว่าจะพาลูกไปเที่ยวฮ่องกงเมื่ออายุครบ 5 ขวบเต็ม
"นอกจากเขาใหญ่ อีกสถานที่ที่ประทับใจคือ สวนผึ้ง เพราะลูกได้ให้อาหารอัลปาก้าด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก ได้ใกล้ชิดสัตว์แปลกๆ ที่เขาไม่เคยเห็น ทำให้ลูกกล้าเข้าใกล้ธรรมชาติมากขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาชอบมาก"
แอนยังกล่าวถึงเหตุผลในการพาลูกไปเที่ยวแบบอิงธรรมชาติว่า เนื่องจากเธอมีลูกในยุคอินเทอร์เน็ตทำให้มีความกังวลเรื่องสายตาและภาวะสมาธิสั้น เธอจึงพยายามหาสิ่งที่เป็นธรรมชาติที่สุดให้แก่ลูกรัก เพื่อให้ลูกสาวได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ซึ่งเป็นสิ่งที่ธรรมชาติให้มาสำหรับการดำรงชีวิตในธรรมชาติ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้และทุกครั้งที่มีเวลา เธอจึงเลือกสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติให้ลูก
"เราชอบพาลูกไปเดินบนหญ้า นั่งบนดิน มากกว่าพาเขาไปโรงหนัง ไปห้าง หรือหยิบยื่นหน้าจอให้เขาเล่นตลอดเวลา เพราะยุคนี้ลูกเข้าถึงอิเล็กทรอนิกส์ได้ง่ายมากทำให้ลูกมีสมาธิสั้น ใจร้อน ไม่อดทนรอ เราจึงอยากปลูกฝังชีวิตอีกด้านที่ไม่ติดอยู่กับกรอบสี่เหลี่ยมและไว-ไฟ ให้ลูกเป็นเด็กที่มีสุขภาวะที่ดีทั้งร่างกายและอารมณ์"
การไปเที่ยวแบบครอบครัวจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพราะเป็นช่วงเวลาที่ลูกจะได้อยู่กับพ่อแม่ตลอดเวลา ต่างจากวันธรรมดาที่อาจไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะหน้าที่การงาน
"เรื่องที่แอนให้ความสำคัญมาก คือเราจะมีเวลาบ่มสอนและเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกได้กี่ชั่วโมงในชีวิตนี้ เพราะเมื่อลูกโตขึ้นเราไม่สามารถไปควบคุมเขาได้แล้ว ลูกต้องมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่สิ่งที่เราจะฝังให้เขา เราจะทำได้นานแค่ไหน