‘ปู่ลอยด์’ สุนัข 3 ขา หัวใจแกร่ง

โดย  วราภรณ์ ภาพ : ทวีชัย ธวัชปกรณ์

เรื่องราวสะเทือนใจคนรักสุนัข คงยังจำข่าวครึกโครม 3 ปีก่อน ที่ “ลอยด์” สุนัขพันธุ์ชิบะเพศผู้ วัย 7 ปีในขณะนั้น สุนัขคู่ใจของ ศิก-ศิกวัสส์ ลือโสภณ ที่ปัจจุบันเขาคือเจ้าของร้านคอนเซ็ปต์ซาลอน “สลีฟ ซาลอน” ถูกทำร้ายด้วยการถูกตัดขาหน้าข้างซ้ายขาด ใบหูถูกฟันจนแหว่ง ถูกแทงที่ลำคอ ตามลำตัวมีบาดแผลบาดเจ็บอาการสาหัสเมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์เมื่อปี 2559 ขณะที่เจ้าของไปเที่ยวสงกรานต์ และคาดว่าถูกทำร้ายมาแล้ว 3 วันก่อนที่แม่บ้านที่มีหน้าที่ให้ข้าวให้น้ำจะเข้าไปพบ จากเหตุการณ์นั้นลอยด์เข้ารับการรักษานานถึง 3 เดือนกว่าจะมีร่างกายแข็งแรงเช่นทุกวันนี้

ศิกวัสส์เผยถึงความรู้สึกที่ไม่ลืมเลยว่า เมื่อทราบข่าวถึงกับช็อกทำอะไรไม่ถูก ต้องรีบบินด่วนกลับมาจากเชียงใหม่เพื่อมาดูอาการ และขอขอบคุณที่มีผู้นำสุนัขมาช่วยบริจาคเกล็ดเลือดเป็นจำนวนมากนับ 200 ตัว ทำให้เกิดปรากฏการณ์ให้เลือดสุนัขครั้งใหญ่ที่สุด และเกิดเพจ “ปู่ลอยด์” เพื่อเป็นตัวกลางในการรับบริจาคเลือดเพื่อช่วยสุนัขป่วยต่อไป ปัจจุบันลอยด์กลายเป็นเน็ตไอดอล ซึ่งกว่าพวกเขาจะผ่านเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย

ความผูกพันระหว่างคนกับสุนัข

ศิกเล่าความรักความผูกพันระหว่างเขากับลอยด์ว่า ลอยด์เป็นสุนัขพันธุ์ชิบะที่เขาอยากเลี้ยง เห็นครั้งแรกก็นึกรัก แต่ด้วยสมัยนั้นลอยด์เป็นพ่อพันธุ์ของฟาร์ม เจ้าของจึงไม่ขายให้เขา ศิกจึงนำชิบะตัวอื่นไปเลี้ยงเป็นเพศเมียตั้งชื่อว่า ยิ้ม แต่ผ่านไปอีก 2 ปี เจ้าของฟาร์มโทรมาถามว่า ยังอยากนำลอยด์ไปเลี้ยงอยู่ไหม เพราะเขาอยากให้ลอยด์ตายอย่างสุนัขที่มีคนรัก

“วันหนึ่งเจ้าของฟาร์มโทรมาหาบอกว่า เขาอยากให้ลอยด์ได้อยู่กับคนที่รักและสามารถดูแลรักลอยด์อย่างดี เขาอยากให้ลอยด์ได้ใช้ชีวิตอย่างหมาจริงๆ ซึ่งศิกเห็นลอยด์ครั้งแรกรู้สึกหลงรักเลย เขาเข้ามาซุกไซ้ทั้งๆ ที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน เขาเป็นหมาที่น่ารักมาก วันที่ศิกไปรับลอยด์มาอยู่ด้วย เขาเห็นศิก เขากระดิกหาง ศิกเดิน เขาก็เดินตาม แล้วก็วิ่งนำหน้าไปยืนรออยู่หน้ารถทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้ว่า ศิกขับรถคันไหน พอเปิดประตูรถลอยด์กระโดดขึ้นรถเลย ด้วยเป็นหมาที่อยู่แต่ในคอก เขาไม่รู้จักแม้แต่การขึ้นบันไดบ้าน เจอทีวีครั้งแรกก็ตกใจเห่าใหญ่เลย แต่พอลอยด์ปรับตัวได้เขาก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีของศิก เวลาศิกไปไหนลอยด์จะเดินตามเป็นเงาตามตัว คอยตามทุกย่างก้าว คอยมองว่าศิกไปทำอะไร ศิกอยู่ในสายตาเขาตลอด”

วินาทีแรกที่ได้ยินข่าวลอยด์ถูกตัดขา

ตอนลอยด์โดนตัดขาอายุ 7 ขวบ หลังจากมาอยู่กับศิกได้ 2 ปี

“ช่วงที่ลอยด์โดนฟันขา ศิกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่เชียงใหม่ช่วงสงกรานต์ โดยเลี้ยงลอยด์ไว้ในรั้วบ้าน พอเช้าวันที่ 15 แม่บ้านโทรมาบอกว่า ลอยด์ขาขาด โดนตัดขาทิ้งหมดเลย ศิกก็มันคืออะไร ศิกไม่รู้ว่าลอยด์อาการหนักแค่ไหน แล้วใครทำลอยด์ ตอนนั้นงงไปหมด โดยลอยด์น่าจะโดนตัดขาผ่านมา 30 ชั่วโมงแล้ว มันอาการหนักมาก ตอนนั้นลอยด์เริ่มเป็นข่าวดังแล้ว ที่ดังเพราะขณะที่ศิกรอขึ้นเครื่องบินด่วนกลับกรุงเทพฯ ศิกถ่ายคลิปตลอด และที่ดังอีกครั้งคือลอยด์ต้องการเลือดมาก แล้วต้องแมตช์เลือดกัน กว่าจะเจอกรุ๊ปเลือดที่เข้ากันได้ก็นาน มีดาราและเจ้าของเพจดังๆ ช่วยกันแชร์ขอบริจาคเลือดให้ลอยด์ จนเกิดเป็นปรากฏการณ์ให้เลือดหมาแห่งชาติ เกิดปรากฏการณ์มีหมา 200 ตัว มาบริจาคเลือด แล้วพอลอยด์หายจากที่หยุดหายใจไปแล้ว ณ วินาทีนั้นไม่อยากให้หมอปั๊มหัวใจลอยด์ขึ้นมาแล้ว เพราะรู้ว่าเขาทรมานมาก ถ้าเขาจะเจ็บขนาดนี้ ให้เขาไปก็ได้

พอถึงกรุงเทพฯ ก็รีบไปหาลอยด์ ครั้งแรกที่เข้าไปเห็นลอยด์นอนป่วยอยู่โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน ศิกจะเป็นลม ตอนนั้นเหมือนเขาเจ็บจะตาย ศิกรู้สึกเฟลมากเพราะเขาเป็นหมาน่ารัก ลอยด์สามารถเล่นกับเด็กๆ ได้ เขาเป็นหมาใจดี เป็นเพื่อนที่ดี เวลาลูกค้ามาที่ร้าน
ลอยด์จะคอยต้อนรับ มารับมาส่ง ลูกค้ารักลอยด์ทั้งนั้น ลอยด์ไม่เคยเห่าเสียงดังรบกวนเลย มีแฟนคลับลอยด์เยอะมาก ตอนลอยด์มาอยู่กับศิกลอยด์อายุ 4 ขวบกว่าๆ เท่านั้นเอง

เรื่องราวลอยด์ถูกทำร้าย ยังหาสาเหตุไม่ได้ ศิกรู้แค่ว่าลอยด์อยู่ในบ้าน มีโจรปีนเข้ามาตัดขาลอยด์ แต่ของในบ้านไม่ได้สูญหาย ขณะที่รอขึ้นเครื่อง ศิกได้โทรเล่าเรื่องให้ญาติๆ รีบรุดไปเมืองนนท์ มาดูบ้านที่เกิดเหตุ เห็นรอยเลือดเต็มไปหมด

“พอแม่บ้านมาพบลอยด์ก็พาไปโรงพยาบาลสัตว์ที่ใกล้ที่สุด คือ โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน พอกลับมาถึงกรุงเทพฯ ศิกรีบไปที่โรงพยาบาล นักข่าวก็มาเต็มบ้าน มีตำรวจมารออยู่ที่บ้าน แต่ศิกรุดไปที่โรงพยาบาลก่อน เห็นภาพลอยด์เหมือนหมาวัดเลย โดนพันขา เห็นภาพขาหายไป 1 ขา เลือดยังเต็มตัวไปหมด แต่หมอกำลังทำแผลอยู่ พอศิกเปิดกรงเขาร้องหงิงๆ ในระหว่างนั้นศิกก็หาทางรักษาลอยด์ สำหรับเหตุการณ์ศิกย่ามใจไปหน่อย ไม่ได้ติดกล้องวงจรปิดในร้าน ต้องมาคุยกับตำรวจ ช่วงนั้นจึงเกิดทีมลอยด์อาสาเพื่อไขปริศนาว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วหาทางรักษาลอยด์ไปด้วย แต่เรื่องสาเหตุก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายเท่าที่ควร ช่วงนั้นโดนคนในหมู่บ้านต่อต้านศิกเยอะมาก ไม่มีใครให้ความร่วมมือสืบหาคนร้าย หลักฐานก็มีเพียงเลือดลอยด์เต็มบ้าน ไม่มีของหาย ไม่มีร่องรอยงัดแงะ มีแต่ขาลอยด์ขาด มีหลักฐานแค่นี้”

ต้องใช้สติและความนิ่ง

ช่วงเวลาที่ลอยด์บาดเจ็บ ทุกคนอยากรู้คำตอบว่า ทำไมลอยด์ถูกตัดขา ทั้งๆ ที่ลอยด์เป็นหมานิสัยดีและศิกก็ไม่มีเรื่องบาดหมางกับใคร หมาใครใครก็รัก ช่วงนั้นเขาพยายามนิ่ง และใช้สติให้ได้มากที่สุด เพราะเขาต้องรับมือกับทั้งตำรวจ คนรอบข้างร่วมทั้งสื่อด้วย ควบคู่กับพยายามรักษาลอยด์ให้ดีที่สุด และต้องดูแลพนักงานในร้านทำผมของเขาไปด้วย

“ศิกก็ไม่รู้ว่าผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาได้อย่างไร แต่พยายามนิ่งให้ได้มากที่สุด ช่วงนั้นก็สัมภาษณ์สื่อเกี่ยวกับอาการของลอยด์ไปตามอาการ อะไรที่มีหลักฐานเราพูด แต่ช่วงอาทิตย์แรกที่เกิดเรื่องมีหลายเรื่องรุมเข้ามาหมดเลย มีทั้งผู้หวังดีและผู้ไม่หวังดีพยายามพิสูจน์ว่าทีแรกจากการสันนิษฐานว่าลอยด์โดนตัดขากับโดนไซบีเรียนข้างบ้านกัด ก็มีคนพยายามพิสูจน์ว่าไซบีเรียนกัดได้จริงไหม บางคนก็บอกว่าศิกตัดขาหมาเอง สร้างเรื่องกันเป็นตุเป็นตะ และมีข่าวลืออีกมากมาย มีทั้งผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้ายเยอะมาก เราและเพื่อนๆ จากเพจอื่นๆ พยายามช่วยกันสืบหาหลักฐาน เราพยายามพูดกับตำรวจว่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ตำรวจรับฟัง แต่เหมือนไม่ช่วยอะไรเลย หลายฝ่ายอยากให้กลายเป็นหมากัดกัน”

การรักษาลอยด์

อาการของลอยด์ หลังจากพาตัวลอยด์ไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน นายสัตวแพทย์สันนิษฐานว่าเจ้าลอยด์น่าจะโดนตัดขามาเกิน 24 ชั่วโมงแล้วกว่าจะมีคนมาพบ แต่ลอยด์โชคดีที่มีเนื้อตายบริเวณบาดแผลมีเนื้อตายมาอุดเส้นเลือดใหญ่พอดีทำให้เลือดไหลออกไม่มาก ประกอบกับกล้ามเนื้อบริเวณต้นขาแข็งแรงมากๆ ไม่อย่างนั้นอาการจะแย่จนถึงเสียชีวิตได้

“ศิกสันนิษฐานว่า ลอยด์น่าจะโดนตัดขาตั้งแต่วันที่ 13 เพราะวันที่ 12 ศิกปิดออฟฟิศ และวันที่ 13 แม่บ้าน ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของยามในหมู่บ้านว่า เขาได้ยินเสียงหมาร้องโหยหวนตอนกลางคืน แต่ไม่ได้เข้ามาดู คุณหมอบอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่ช่องรั้วเพียงไม่กี่เซนติเมตรแล้วลอยด์จะยื่นขาออกไปให้หมาข้างบ้านกัดขาแล้วโดนกระชากได้เลย แต่มีคนเจอขาลอยด์ที่ถูกตัดโยนอยู่ในบ้านที่เลี้ยงสุนัขไซบีเรียน ซึ่งศิกไม่รู้ว่าใครพยายามทำให้หลักฐานเป็นแบบนั้น ลอยด์รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชันกระทั่งอาการหนักจนคุณหมอรักษาไม่ได้แล้ว ต้องย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ใหญ่ๆ เราจึงย้ายลอยด์มาที่โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตร เพราะลอยด์ต้องได้รับเลือด เป็นครั้งแรกที่ศิกรู้ว่าเลือดหมาหายากมาก ศิกก็ต้องอุ้มร่างลอยด์ขึ้นแท็กซี่รับส่งสุนัขไปรักษาที่นั่น ตอนนั้นคนเริ่มรู้จักลอยด์ เราต้องการเลือดตอนเช้าเก้าโมง เพจดังต่างๆ เกือบทุกเพจช่วยประกาศหาเลือดในระหว่างทางที่พาลอยด์ไปรักษาต่อ พอไปถึงเกษตรเกิดปรากฏการณ์คนจูงหมามาเป็นร้อยตัวเพื่อมาบริจาคเลือดให้ลอยด์เยอะมากเป็นประวัติศาสตร์ เป็นการให้เลือดหมาที่ใหญ่มาก ทำให้ศิกรู้สึกซาบซึ้งมาก แต่ด้วยหมามีกรุ๊ปเลือดทั้งหมด 8 กลุ่ม ต้องดูความเข้ากันของเลือดด้วย มีหมามาบริจาคเลือดเพื่อนำเกล็ดเลือดมาให้ลอยด์จำนวนร้อยกว่าตัว ตั้งแต่เช้ายันกลางคืนยังแมตช์เลือดไม่หมด”

ช่วงเวลาที่แมตช์เลือดศิกบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่บีบคั้นหัวใจมากที่สุด เขาไม่ได้กินข้าวกินน้ำเพราะเป็นห่วงลอยด์มากกว่า และรู้ว่าลอยด์ต้องการกำลังใจจากเจ้าของ

“ช่วงเวลาแมตช์เลือดศิกห่างลอยด์ไม่ได้เลย เพราะเขาต้องการกำลังใจมาก ถ้าศิกหายไปมันร้อนรน พอแมตช์เลือดหมาได้ 5 ตัว จากจำนวน 200 ตัว ที่มาบริจาคเลือด และกำลังให้เลือดตัวหนึ่งอยู่ ศิกวิ่งขึ้นไปบนชั้น 3 ไปขอบคุณเจ้าของหมาที่นั่งกันเต็มห้องโถงโรงพยาบาล ศิกแทบจะกราบขอบคุณเขาเลย คนไม่เคยเจอกันแต่ทำไมเกิดปรากฏการณ์ให้เลือดสุนัขที่ร่วมมือร่วมใจกันดีมากๆ ทำให้ศิกได้เรียนรู้ว่า แม้มีคนบางกลุ่มประสงค์ร้ายกับเรา แต่ยังมีเรื่องดีเกิดขึ้น โลกไม่ได้เลวร้ายเสมอไป ในสังคมมีทั้งคนดีและไม่ดี” หลังจากนั้นแม้ลอยด์จะอยู่ในอาการโคม่าอยู่ในขั้นวิกฤตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด โดยสัตวแพทย์ยังให้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาตามอาการ และคอยทำความสะอาดแผลทุกๆ 6 ชั่วโมง โดยมีค่าเกล็ดเลือดที่สูงขึ้น แต่ยังต้องรักษาอาการอย่างใกล้ชิดเพราะอาจเกิดอาการช็อกได้ตลอดเวลา

“ระหว่างที่ลอยด์อยู่ในการดูแลของคุณหมอ เราก็ยังหาสาเหตุ มีคุณหมอมาแถลงข่าวหลังจากเอาขาลอยด์ที่ถูกตัดไปตรวจที่โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า โดนของมีคมตัด 100% ไม่ได้เกิดจากหมากัดแน่นอนเพราะกระดูกไม่แตก ชิ้นเนื้อที่หัวไหล่เรียบ สองคือเหตุการณ์เกิดขึ้นในบริเวณบ้าน แต่คนที่พยายามให้เหตุการณ์นี้เป็นหมากัดกันก็ยังเชื่อแบบนั้นอยู่ จะได้ปิดคดีง่ายขึ้น จริงๆ เราไม่อยากให้หาคนร้าย แต่เราอยากให้เสนอข่าวตามข้อเท็จจริงมากกว่า

เกิดเพจ “ปู่ลอยด์” สื่อกลางรับบริจาคเลือดสุนัข

ปัจจุบันเพจปู่ลอยด์ยังคงเป็นตัวกลางในการช่วยเหลือสุนัขที่บาดเจ็บและต้องการรับการบริจาคเลือดต่อไป เพื่อให้ลอยด์ทำความดีตอบแทนสังคมบ้าง

“จากเหตุการณ์ศิกจึงเปิดเพจปู่ลอยด์เพื่อให้คนได้ติดตามข่าวสารของปู่ลอยด์ แล้วก็เกิดเป็นทีมลอยด์ขึ้น เวลาเกิดเหตุการณ์หาเลือดให้สุนัข เพจเราก็ช่วยกันประชาสัมพันธ์ ทำกิจกรรมพาหมาไปหาหมอ เพราะเราอยากเป็นตัวกลางในการให้เลือดสุนัข แชร์เท่ากับช่วย ใครมีหมา เราลงพื้นที่และเป็นช่องทางหนึ่งที่รับบริจาคและให้เลือดสุนัขเท่านั้น ปัจจุบันเพจปู่ลอยด์มีสมาชิกกว่า 7 หมื่นคน เราถือเป็นเพจการกุศล คนที่อยู่ในเพจล้วนเป็นคนที่อยากช่วยสุนัขจริงๆ เพจเราทำมาได้ 2 ปีแล้ว เราสามารถช่วยสุนัขได้เกือบ 200 ตัวแล้วในการขอบริจาคเลือด”

ลอยด์ในปัจจุบันยังคงร่าเริงและแข็งแรง

สุขภาพลอยด์ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จากความพยายามรักษาของหลายๆ ฝ่าย

“ผลกระทบจากเหตุการณ์นั้นที่เกิดขึ้นกับจิตใจของลอยด์ไม่มีเลย เพราะหลังจากรักษาตัวอยู่ 3 เดือนในโรงพยาบาล ลอยด์ก็กลับมาเป็นหมาที่น่ารักเหมือนเดิม จากแต่เดิมชีวิตเขามีแต่ศิก ปัจจุบันเขากลายเป็นหมาเซเลบ เขาร่าเริงขึ้นเพราะได้คุ้นเคยและพบปะผู้คนมากมาย สุขภาพแข็งแรงมากขึ้น เพราะคุณหมอบอกว่าร่างกายเขาจะปรับให้สามารถเดิน 3 ขาได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งก็เป็นแบบนั้น มีหลายคนบอกว่า ทำไมไม่ใส่ขาให้ลอยด์ล่ะ มันใส่ไม่ได้เพราะลอยด์ถูกตัดขาจนไม่เหลืออะไรเลยที่ต้นขาข้างซ้าย แต่ลอยด์ก็สามารถปรับตัวได้ และเดินได้ปกติมาก แต่สำหรับศิกจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ศิกสามารถนำประสบการณ์ที่ดูแลลอยด์ตอนป่วยไปให้คำแนะนำกับคนอื่นๆ ได้ แต่ศิกอยากบอกว่า การที่จะเลี้ยงหมาสักตัวเราต้องอยู่กับเขาทั้งชีวิต ดังนั้นก่อนนำเขามาเลี้ยงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลนิสัยของสุนัขก่อน เวลานำเขามาเลี้ยงก็ต้องดูแลและใส่ใจ เอาเขามาเราต้องมั่นใจว่าเราต้องเลี้ยงเขาได้ดี เพราะต้องใช้ทั้งเงิน และให้เวลากับสุนัขด้วย”

ปัจจุบันลอยด์เป็นที่รักของลูกค้าที่ไปเย่ือนเยียนที่ร้าน “สลีฟ ซาลอน” ย่านพหลโยธิน 5 ใครไปใครมาลอยด์จะเดินต้อนรับอย่างอารมณ์ดี ไม่เคยเห่าลูกค้าเลย และแขกหลายคนเป็นแฟนคลับของปู่ลอยด์มาใช้บริการที่ร้านอีกด้วย

“ด้วยลอยด์เป็นหมาน่ารัก คนจึงเอ็นดูเยอะ ลอยด์เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เราทำโครงการทำหมันให้หมาสำเร็จ ลอยด์มีไปออกงาน กอดหมา เพื่อนำรายได้ไปบริจาคทำหมันให้สุนัขจรที่มีอยู่ในกรุงเทพฯ ราว 3 แสนตัวได้ทำหมันเพื่อไม่ให้เขาแพร่พันธุ์ ตอนนี้สุขภาพจิตลอยด์ดีมาก เราเปิดร้านศิก สลิฟ ซาลอน ร้านนี้จะดังไม่ได้เลยถ้าไม่ได้คนรักลอยด์มาเยี่ยมเยือน พอเขาเมตตาลอยด์ คนมาอุดหนุนพ่อศิก ตอนนี้เรียกว่าลอยด์เป็นพีอาร์ตัวแม่ไปแล้ว เขาไม่เห่าใครให้รำคาญเลย แล้วเขาไม่เคยกัดใคร เขาไม่ก้าวร้าวเลย ซึ่งความจริงทุกวันนี้ได้เผย
ออกมาแล้ว จากที่เคยเกิดคำถามว่า ลอยด์เป็นหมาก้าวร้าวรึเปล่าถึงได้โดนคนใจร้ายตัดขา ซึ่งลอยด์เป็นหมาไม่ยุ่งกับใคร ความจริงก็ได้ออกสู่สังคมแล้ว”