posttoday

พิภู พุ่มแก้ว วันที่เหตุผลเหนือความรู้สึก

27 ธันวาคม 2560

ผู้ประกาศใหม่แกะกล่องสำหรับช่อง GMM 25 แต่น้ำเสียงและฝีมือไม่ใหม่สำหรับคนในวงการข่าว

 

ถือว่าเป็นผู้ประกาศใหม่แกะกล่องสำหรับช่อง GMM 25 แต่น้ำเสียงและฝีมือไม่ใหม่สำหรับคนในวงการข่าว สำหรับ “ต๊ะ- พิภู พุ่มแก้ว” ผู้ประกาศข่าวฝีมือดีที่หลังจากประกาศอำลาเรื่องเล่าเช้านี้ หลายคนก็จับตามองว่า เขาจะไปนั่งที่เก้าอี้ข่าวของทีวีช่องไหน สุดท้ายมาลงตัวที่จีเอ็มเอ็มนิวส์ ที่นำทัพโดย ดร.อั๋น-ภูวนาท คุนผลิน ที่ออกปากว่าต๊ะจะมาเป็นผู้ประกาศข่าวหลักที่เข้มแข็งในทีมหลักของข่าวช่วงเช้าที่นี่ในปี 2561

เพราะชีวิตในวงการข่าวเดินทางเข้าสู่ปีที่ 10 ที่เขาเอ่ยปากว่าผ่านอะไรมาพอสมควร ระหว่างสองเดือนที่หายหน้าจากจอโทรทัศน์ เหมือนชีวิตของต๊ะ พิภู จะช้าลงเล็กน้อย นอกจากงานที่ทำอยู่ประจำดีเจจัดรายการเพลง ที่คลื่น 97.5 MHz นอกจากนี้ยังเป็นพิธีกรรายการสโมสรสุขภาพ เป็นอาจารย์พิเศษเกี่ยวกับสื่อสารมวลชน มีเวลาได้ท่องเที่ยวพักผ่อน ควบคู่กับทำงานอื่นๆ ที่ทำมาโดยตลอด หลังจากทบทวนตัวเองแล้วก็ได้คำตอบว่า ตัวเขาต้องการอะไร

“ผมจะต่างจากคนอื่น ผมอาจจะซื่อไปหน่อย ปกติก่อนจะเปลี่ยนงานเขาจะหาทางหนีทีไล่ก่อนจะออกจากที่เก่า เพราะเราได้ที่ใหม่แล้ว แต่ผมอยากพักผ่อน อยากมีชีวิตที่ มีเวลา หยุดเดินชีวิตเร็วๆ อยากทบทวนตัวเองหลายๆอย่าง เพราะฉะนั้นผมก็หยุดก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ หลังจากคิดทบทวนตัวเองสักพัก จริงๆ มีข้อเสนอหลายที่การตัดสินใจมาร่วมงานกับ GMM 25 ผมใช้หลายเหตุผล ซึ่งหลายเหตุผลอยู่เหนือความรู้สึก ผมไล่มาตั้งแต่เรื่องคุณธรรม ความจริงใจ ความเหมาะสม เวลา รวมถึงเรื่องเงินด้วย

ผมมีโอกาสไปวิ่งกับพี่ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย ช่วงภาคใต้ 2 วัน ไปทางภาคเหนือมาอีก 2 วัน ผมไปสองครั้งก็วิ่งได้ระยะรวมเกือบๆ 150 กิโลเมตร ถือว่าไม่มาก เพราะผมวิ่งเท่าที่ผมจะวิ่งไหว ยอมรับว่าช่วงปีกว่าๆ ที่ผมทำงานที่เก่าเรียกว่าแทบไม่มีเวลาได้วิ่งเลย ไม่ได้ซ้อมวิ่งเลย ช่วงนี้พอเวลาลงตัวก็เริ่มกลับมาวิ่งใหม่ ความรู้สึกไม่ต้องถามเลย เอาแค่เวลาที่ได้วิ่งตามหลังผู้ชายที่ชื่ออาทิวราห์ก็เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ แล้ว ทุกก้าวปราศจากความสงสัยว่าเราทำไปทำไม เพราะเป้าหมายชัดเจน อย่างถ้าผมไปวิ่งมาราธอนเพื่อตัวเอง ผมจะมีความรู้สึกว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ แต่ตอนวิ่งตามหลังพี่ตูนไม่มีคำถามนี้เลย

 

พิภู พุ่มแก้ว วันที่เหตุผลเหนือความรู้สึก

 

ถามว่าตกผลึกอะไรไหมระหว่างวิ่งก็มีนะครับ เพราะปกติผมก็จะเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ที่ผมชอบวิ่งเพราะผมเป็นคนอยู่นิ่งๆ ไม่ค่อยได้ เวลาผมคิดอะไรไม่ออกจะชอบเดิน ผมก็เลยเปลี่ยนเป็นการวิ่ง เวลาที่วิ่งเหมือนการทำจิตใจให้สงบเพียงแต่เราได้บริหารหัวใจบริหารกล้ามเนื้อไปด้วย แปลกไหมตัวเราเคลื่อนไหวไป แต่ใจเรากลับนิ่งลง ทำให้เราได้คิดว่าเราอยู่จุดไหน ไปต่อยังไง หรือควรทิ้งมันไว้แค่นี้ ผมทบทวนหลายอย่างจนออกมาว่า โอเคนะ เราจะทำงานในสายนี้ต่อ ที่ไหนสักแห่งหนึ่ง และลองไปให้สุดดูอีกสักตั้ง เพราะผมยังรู้สึกว่ายังไปไม่สุด ผมยังเชื่อมั่นว่าตัวเองมีดีมากกว่านี้และยังพัฒนาได้อีก ผมรู้สึกว่าผมยังไปไม่สุด ยังต้องทำต่อ

ยอมรับว่าแวบหนึ่งอยากหยุด เพราะรู้สึกว่ามันเหนื่อยจัง แล้วก็รู้สึกว่าหาคนเข้าใจเรายาก ไม่รู้ว่าถ้าทำต่อไปจะเวิร์กหรือไม่เวิร์ก การเปลี่ยนแปลงหลายอย่างไม่นิ่ง ไม่เหมือนงานสายอื่นที่อาจจะโตช้า แต่อาจจะโตไปได้เรื่อยๆ พอผ่านไป 10 ปี เอ๊า! เพิ่งตกงาน มันจะต้องมีอารมณ์ให้คิด แต่ผมรู้สึกว่าการตกงานของผมไม่ได้แย่ เพราะมันเป็นการตัดสินใจของผม ผมกลับไปดูสถิติมาพบว่าช่วงพีกของคนที่ทำงานในสายนี้จะอายุประมาณ 40 ปี ผมยังมีเวลากว่าจะไปถึงจุดนั้นอีกหลายปีพอสมควร เพราะฉะนั้นก็ยังไม่ควรจะรีบถอดใจ เหมือนกับการวิ่งมาราธอนที่ผมไปวิ่งมา ตอนนี้ระยะของผมอาจจะเปรียบได้แค่ครึ่งทาง ยังอีกไกลที่ผมจะถึงระยะมาราธอน ยังต้องมีระยะที่ต้องเก็บระยะและฝึกฝนจิตใจกันต่อไป (ยิ้ม)”

หนุ่มที่เคยตกอยู่ในหลายฐานะทั้งการเป็นคนไปแทนที่คนอื่นและมีคนอื่นมาแทนที่ ดังนั้นแน่นอนว่าเหตุผลเรื่องค่าตอบแทนแม้จะอยู่ในข้อที่ใช้ตัดสินใจ แต่ไม่ใช่ปัจจัยแรกที่เขาเอามานำหน้า เพราะในระยะที่เขาเรียกว่าเก็บสะสมชั่วโมงบิน ต้องประกอบด้วยหลายเหตุผล

“ผมขอหยุดตัวเองเพื่อไปทบทวนเพื่อให้การตัดสินใจครั้งต่อไปของผมเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด พอผมบอกว่าจะมา GMM 25 หลายคนทักท้วงบอกว่ามีตัวเลือกที่ดีกว่านี้ แต่นี่คือความท้าทาย ผมชอบอะไรที่ท้าทาย ผมชอบอะไรที่ทำให้รู้สึกว่าเราได้สู้ และสิ่งแรกที่ผมยึดถือคือคุณธรรม การเดินทางในสายงานของผมที่ไปมาหลายที่ ทุกครั้งที่ผมไปที่ไหนก็ตามจะต้องมีคนได้รับผลกระทบ คือมีคนกระเด็นไปจุดอื่นซึ่งผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เพราะผมรู้ว่าวงการนี้อยู่ยากพอสมควรไม่อยากให้กระทบกับใครและความเหมาะสมคือเรื่องเวลา การแบ่งพาร์ตในชีวิตของผม

 

พิภู พุ่มแก้ว วันที่เหตุผลเหนือความรู้สึก

 

มันมีข้อเสนออื่นที่ดีกว่าก็จริง แต่ว่าบางที่ผมไม่อยากอยู่ตรงนั้นในเวลานั้น ผมอยากอยู่เช้าเพราะผมตื่นเช้า ผมตั้งใจไว้แล้วว่าถ้าจะอ่านข่าวที่ใหม่ก็ตั้งใจจะอ่านช่วงเวลาเช้า เพราะผมกำลังจะมีรายการกับ The Standard ซึ่งเป็นรายการข่าวออนไลน์ ซึ่งผมจะมีส่วนร่วมทั้งหมด ทั้งการออกแบบ การคิด การซักถาม ผมคนเดียวทั้งโชว์ กำหนดออกอากาศในปี 2561 แต่ยังไม่ได้กำหนดวันที่แน่นอน รูปแบบของรายการจะเป็น News Plus Show มูดแอนด์โทน คือ จะเป็นสมาร์ทแอนด์สมายล์ ข่าวที่เลือกมาจะเป็นข่าวที่คนจะไม่ค่อยได้เห็นในข่าวทั่วๆ ไป จะเป็นข่าวที่ให้ความรู้ระดับหนึ่ง ขณะเดียวกันก็มีลูกเล่นของการเล่า เพื่อให้ข่าวไม่เครียดจนเกินไป”

เมื่อถามว่าอะไรคือความท้าทายในบ้านหลังใหม่ “ผมมองว่าทุกที่มีความท้าทาย อย่างที่เก่าที่ผมมาก็คือจะช่วยดึงให้เขากลับขึ้นมาในจุดที่เขาเคยอยู่ได้มากแค่ไหน ซึ่งเวลาที่ผมอยู่คงไม่เพียงพอที่ผมจะสามารถช่วยอะไรได้ แล้วผมก็ต้องยอมรับว่าผมเจ๋งไม่พอที่จะทำได้สำเร็จในจุดนั้น และเมื่อไม่มีโอกาสให้ทำต่อ ผมก็ต้องหาความท้าทายใหม่ ซึ่งความท้าทายที่นี่ก็จะแตกต่างออกไป

ความท้าทายที่เก่าก็เหมือนรถที่กำลังแล่นถอยหลังลงจากยอดเขา ผมต้องเข้าไปช่วยพยุง ขับยังไงก็ได้ให้มันไหลลงมาช้าที่สุดหรือขับกลับขึ้นไปให้ได้ ซึ่งผมทำไม่สำเร็จ แต่ความท้าทายที่ใหม่ที่ผมกำลังจะเริ่มต้นก็เหมือนเรายืนมองยอดเขาอยู่ไกลๆ และเราอยู่ที่ตีนเขา เรากำลังค่อยๆ ขับขึ้นไปด้วยกันว่า เอาน่า! ไม่ว่าปีหน้าเราจะไปได้สูงสุดแค่ไหน แต่เราค่อยๆ ไต่ไปด้วยกัน ผมประเมินตัวเองแล้วคิดว่าน่าจะมีความสามารถ ณ ตรงนี้ แน่นอนว่าเป้าหมายของคนทุกคนต้องไปถึงยอดสูงสุด แต่เราจะไปได้แค่ไหนต้องดูกันอีกที แต่ถ้าเราใส่เต็มที่แล้ว เราพยายามสุดตัวแล้วก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ ผมเชื่อแบบนั้น

จุดแข็งที่เรานำมาเสริมทัพกับทีมข่าวจีเอ็มเอ็มมีอะไรบ้าง “ผมไม่กล้าพูดอะไรที่เป็นการอวยตัวเองมากนัก แต่สำหรับผมจะมีภาพลักษณ์ของความขึงขังจริงจัง ด้วยความที่ผมไม่เคยเล่นละครไม่เคยอยู่ช่องทางบันเทิงอื่นๆ มากนัก ยกเว้นการเป็นพิธีกรประสบการณ์ที่สั่งสมมา 9 ปีเต็มๆ น่าจะเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้คนรู้สึกว่าดูแล้วเชื่อมากขึ้น คนไทยจะติดภาพลักษณ์บางอย่าง บางคนจะดูที่ตัวคนก่อน บางคนดูลุคดีแต่จริงๆ แล้วพูดมั่วไปหมดแต่คนยังเชื่อ ในขณะที่บางคนอาจจะดูทะเล้นไม่น่าเชื่อถือแต่สิ่งที่เขาพูดเชื่อได้ทุกคำ แต่ปัญหาคือคนอาจไม่เชื่อเขาเพราะไม่เชื่อที่ตัวตนเขา ผมโชคดีที่จุดแข็งของผมมีตัวตนที่คนน่าจะเชื่อถือพอสมควร” พิภู กล่าวด้วยเสียงทุ้มน่าฟัง

ผมมาจุดนี้เพราะผมอยากทำหลายๆ อย่าง อยากเริ่มเติบโตและสร้างไปด้วยกัน GMM มีจุดแข็งเยอะนะครับแต่ผมคิดว่ายังไม่ใช่ข่าว ถ้าผมช่วยสร้างตรงนี้ได้ผมก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ผมก็ทำการบ้านมาพอสมควรถึงขั้นค้นหาตัวเลขเก่าๆ ว่าทุกเช้าที่ผมจะมาอยู่ที่นี่ มีคนดูประมาณกี่คน ตั้งเป้า 3 เดือนแรกอยากเพิ่มเท่าไร ผมก็ทำการบ้านของผมเอง เอาตรงๆ ก็เตรียมแค่ตัวกับหัวใจที่เหลือเดี๋ยวมาลุยกันหน้างาน”

ข่าวล่าสุด

ผลบอล โยเคเรสซัดโทษ! อาร์เซน่อล1-0 เอฟเวอร์ตัน,ลิเวอร์พูล 2-1