posttoday

ประวัติศาสตร์ดนตรี ผ่านชีวิต'ไคล์ฟ เดวิส'

22 ตุลาคม 2560

ตั้งชื่อเรื่องได้ดี และก็เป็นจริงตามนั้น ... เพราะว่า บทเพลง (และศิลปิน)

โดย แหนง-ดู

ตั้งชื่อเรื่องได้ดี และก็เป็นจริงตามนั้น ... เพราะว่า บทเพลง (และศิลปิน) ที่ ไคล์ฟ เดวิส มีส่วนในการสร้างสรรค์นั้นล้วนเป็นผลงานซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี เป็นเพลงฮิตเพลงดังที่บรรเลงประกอบทุกช่วงอายุของเรา ตั้งแต่เด็กจนโต ไม่เชื่อก็ลองมาดูสารคดีเรื่องนี้ Clive Davis: The Soundtrack of Our Lives 

สารคดีชีวิตของผู้เฒ่า ไคล์ฟ เดวิส ซึ่งปัจจุบันอายุ 85 ปี ดำรงตำแหน่งซีซีโอของโซนี่ มิวสิค เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และยังไม่พร้อมที่จะเกษียณตัวเอง เขาเขียนอัตชีวประวัติ The Soundtrack of My Life ออกมาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และปีนี้หนังสารคดีซึ่งนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตและการทำงานของเขาก็ออกฉาย ผลงานการกำกับโดยนักตัดต่อและกำกับหนังสารคดี - คริส เพอร์เคล ก่อนที่แอปเปิ้ลมิวสิคจะซื้อไปจัดจำหน่ายในรูปแบบดิจิทัล

ประวัติศาสตร์ดนตรี  ผ่านชีวิต'ไคล์ฟ เดวิส'

หนังเรื่องนี้ให้รายละเอียดที่หลากหลายรอบด้าน แต่อาจจะไม่ลึกนักเกี่ยวกับ “ไอคอน” แห่งอุตสาหกรรมดนตรีผู้นี้ หนังพาเราไปรู้จักกับอาชีพการงานของ ไคล์ฟ เดวิส ในฐานะผู้บริหารค่ายเพลง โปรดิวเซอร์ (และผู้จัดงานปาร์ตี้แกรมมี่) แนะนำคนดูให้รู้ว่า เขาคือผู้นำพาโคลัมเบียเรคอร์ดส ซึ่งแต่เดิมเชี่ยวชาญดนตรีแจ๊ซและบลูส์ เดินทางมาสู่วงศ์วานร็อก ป๊อป ฮิปฮอป และอื่นๆ ในเวลาต่อมา เขายังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งค่ายเพลงอริสตา ผู้อยู่เบื้องหลังเพลงฮิตและศิลปินดังมากมายนับไม่ถ้วนตลอด 5 ทศวรรษที่ผ่านมา เขาผู้ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับกาลเวลา บางครั้งออกจะล้ำกว่ากาลด้วยซ้ำ

ประเด็นหนึ่งที่หนังนำเสนอ แต่ไม่ลงลึกนักก็คือ เรื่องราวชีวิตส่วนตัวของ ไคล์ฟเดวิส ผู้ที่เกิดในครอบครัวยิว และสูญเสียพ่อแม่ไปตอนเป็นวัยรุ่น จากทนายความกลายมาเป็นประธานค่ายเพลงโคลัมเบีย เรคอร์ดส (ปัจจุบันเป็นค่ายเพลงที่เก่าแก่ที่สุดในโลก) ซึ่งเป็นงานที่เขาไม่คิดหรือฝันถึงมาก่อน

เรื่องราวและเส้นทางของ ไคล์ฟ เดวิส บอกเล่าผ่าน คนร่วมงาน ศิลปิน นักวิจารณ์ ผู้บริหารค่ายคู่แข่ง ลูกๆ และตัวของเขาเอง โดยมีภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวซึ่งน่าสนใจมาประกอบ ที่สำคัญคือ มีบทเพลงมากมายหลากหลายยุคให้ได้ฟัง ส่วนใหญ่จะตัดมาแบบสั้นๆ แนะนำว่า ถ้ายังค้างคาอยากจะฟังเต็มๆ ยาวๆ ก็ไปหาซาวด์แทร็กประกอบสารคดี ซึ่งรวม 34 เพลงจากหลากหลายศิลปินไว้ให้ฟังจนอิ่มเลยทีเดียว

ประวัติศาสตร์ดนตรี  ผ่านชีวิต'ไคล์ฟ เดวิส'

สำหรับบรรดาคนดังซึ่งพร้อมใจกันมาปรากฏตัวในสารคดีเรื่องนี้รวมถึง แบร์รี มาริโลว์, พอล ไซมอน, อาร์ต การ์ฟังเกล, เจนิส จอปลิน, แพตตี สมิธ, บรูซ สปริงสทีน, เดวิด เกฟเฟน, อรีธา แฟรงคลิน, ร็อด สจวร์ต, คาร์ลอส ซานตานา, เบบีเฟซ, ไซมอน โคเวลล์,
ฌอน พัฟฟี คอมบ์ส, อลิเซีย คีย์ส ฯลฯ

สารคดีเน้นเรื่องราวความสัมพันธ์ (ที่เกือบจะเหมือนพ่อ-ลูก) ระหว่าง ไคล์ฟ เดวิส และ วิทนีย์ ฮิวสตัน นับตั้งแต่วันที่เขาพบเธอตอนเป็นวัยรุ่น ก่อนนำมาเจียระไน กลายเป็นนักร้องหญิงที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกยุคนั้น เรื่อยมาถึงยุคตกต่ำ ก่อนจะจากไปอย่างช็อกโลก

แน่นอนว่า ในเมื่อหนังเรื่องนี้ ไคล์ฟเดวิส เข้ามามีส่วนร่วมด้วย การวิพากษ์วิจารณ์หรือพูดถึงในแง่ลบจึงออกมาอย่างเบาบาง รายละเอียดเรื่องการทำงานร่วมกับศิลปิน การให้คำแนะนำกับทีมงาน การวิเคราะห์คาดเดาว่า เพลงไหนจะมา แทร็กไหนจะโด่งดัง ประเด็นนี้ไม่ได้เจาะลึกเข้าไป ซึ่งน่าเสียดาย เพราะหลายคนน่าจะอยากรู้ รวมไปถึงการมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมดนตรีจากมุมของผู้อยู่มาเนิ่นนานก็ขาดหายไปเช่นกัน

ประวัติศาสตร์ดนตรี  ผ่านชีวิต'ไคล์ฟ เดวิส'

แต่ถึงอย่างไร หนังเรื่องนี้ก็ยังมีคุณค่าน่าชมในแง่ที่เป็นมุมมองเกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นทนายความที่ไม่มีแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจเพลงใดๆ มาก่อน ภายหลังกลับกลายมาเป็นชายผู้เป็นแรงผลักดันมหาศาลต่อทิศทาง และความเป็นไปในวงการเพลงมานานหลายทศวรรษ  

Clive Davis: The Soundtrack of Our Lives เป็นหนังที่มิวสิคเลิฟเวอร์ (โดยเฉพาะคนที่ชอบหลากหลายแนวทางดนตรี แจ๊ซ ร็อก ฮิปฮอป อาร์แอนด์บี คันทรี่ ฯลฯ) น่าจะเพลิดเพลิน เหมือนกับได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์วงการดนตรีไปด้วย ได้เปิดตาและเปิดหู รับรู้เบื้องลึกเบื้องหลังงานเพลงหรือศิลปินที่ชื่นชอบ

และ ณ จุดหนึ่งสารคดีเรื่องนี้ถึงกับทำให้คนดูหลั่งน้ำตาได้อย่างไม่คาดคิด

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2