ชินพรรธน์ กิติชัยวรางค์กูร เล่นกีฬาทีม ต้องรู้ใจ เข้าใจ
เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่เห็นมาตั้งแต่เด็กอายุ 4 ขวบ จนตอนนี้จากเด็กชายหน้าตาจิ้มลิ้ม กลายเป็นหนุ่มน้อยหน้าใส วัย17 ปี
โดย มัลลิกา
เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่เห็นมาตั้งแต่เด็กอายุ 4 ขวบ จนตอนนี้จากเด็กชายหน้าตาจิ้มลิ้ม กลายเป็นหนุ่มน้อยหน้าใส วัย17 ปี ขวัญใจสาวๆ ไปแล้ว สำหรับ ฟลุท-ชินพรรธน์ กิติชัยวรางค์กูร นักแสดงในสังกัดค่ายบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น
ตอนนี้ฟลุทมีละครที่ได้เห็นหน้ากันเป็นประจำ คือ น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ นอกจากนี้มีผลงานทางช่อง 3 อีกหลายเรื่องที่กำลังถ่ายทำ เช่น คมแฝก ซีรี่ส์ลูกผู้ชาย ตอน เพชร และกำลังถ่ายทำภาพยนตร์อีก 1 เรื่องผลงานละครนอกช่อง 3 ก็มี จัดเป็นนักแสดงเนื้อหอมของวงการบันเทิงอีกคน
บทบาทที่ได้รับในละคร ตอนนี้เป็นตัวสอง ตัวสาม หากแต่ในอนาคตไม่แน่ว่า บทพระเอก คงจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
“ก็มีแอบๆ คิดบ้างครับ ผู้ใหญ่ก็มีบอกว่า มีวางตัวให้เราอยู่บ้าง แต่ยังไม่ถึงช่วงที่เหมาะสม เพราะพระเอกอายุน่าจะ 20 ขึ้น ช่วงนี้ก็เริ่มได้รับบทที่โตขึ้นแล้ว ทำให้การแสดงของเราพัฒนาตามด้วย เพราะเรามีประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น เข้าใจความคิดของคนในวัยนี้ได้ดีขึ้น เวลาเล่นเราก็จะรู้สึกจริงแสดงออกมาได้ดีกว่าเมื่อก่อน แล้วพอเล่นละครมาเยอะ ก็ได้รับบทบาทที่ต่างกัน ตรงนี้ทำให้เราได้ฝึกฝนการแสดงอยู่ตลอด
เรื่องรูปร่างหน้าตาก็อยู่ในช่วงต้องปั้นเหมือนกัน ผิวพรรณ หน้าตา ก็ดูแลเหมือนคนอื่นๆ มีไปคลินิกบ้าง ตอนนี้หนัก 60 สูง 175
ก็มีเล่นฟิตเนสบ้างให้รูปร่างแข็งแรง เพราะตอนนี้รูปร่างผมยังดูเหมือนวัยรุ่น ผอมบาง ต้องการมีกล้ามเนื้อ ให้ร่างกายดูโตกว่านี้ครับ
ซื้ออุปกรณ์มาเล่นที่บ้าน เพราะช่วงที่ถ่ายละครแทบทุกวัน ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาไป ถ้ามีอยู่ที่บ้าน เราว่างตอนไหนก็เล่นได้เลย
เล่นก่อนนอนสัก 30 นาที หรือวันว่างก็เล่นนานหน่อย 1-2 ชั่วโมง แล้วพัก ค่อยกลับมาเล่นใหม่ผมจะเล่นเวตเป็นหลักเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ ไม่ค่อยวิ่งเพราะจะยิ่งทำให้ผอม”
ปกติฟลุทชอบเล่นกีฬาอยู่แล้ว ซึ่งก็มีส่วนช่วยในการทำให้รูปร่างเฟิร์มขึ้น “ก็มีหาหมอปรึกษาเรื่องความสูง เขาก็บอกสูงได้อีก แต่ไม่ 100% โชคดีก็ได้อีก 5 เซนติเมตร
ก็ดูแลเรื่องของโภชนาการ อาหารเสริม มีคอร์สนวดกระดูก จัดกระดูก เล่นกีฬาที่ช่วยในเรื่องความสูง อย่าง แทรมโพลีน บาสเกตบอล ก็พยายามหาเวลาเล่นให้มากที่สุด”
ฟุตบอล คือกีฬาที่ชอบที่สุด “ส่วนตัวชอบมากๆ เล่นมาตั้งแต่ 7 ขวบ ชอบดูบอลก่อน เชียร์ทีมอาร์เซนอล ชอบระบบการเล่นของทีม ทีมนี้ไม่มีซุป’ตาร์เยอะ แต่เน้นเล่นระบบไว
อีกทีมที่ชอบ บาร์เซโลนา ชอบนักเตะเมสซี กับ เนย์มาร์ ถ้า 2 ทีมนี้เจอกัน ผมจะเชียร์อาร์เซนอล เพราะถ้าเราเชียร์ทีมเก่งกว่าจะดูเกมไม่สนุก
ฟลุทเล่าถึงที่มาของความชอบเล่นฟุตบอล “ตอนเด็กๆ เตะเล่นหน้าบ้านกับพ่อ แล้วไปเล่นกับเพื่อน พอผมเล่นอะไรได้เก่ง เล่นแล้วชนะคนอื่น ลีลาเราดีกว่า ทักษะเรามี ก็จะรู้สึกอยากทำมันให้ดีอีก
จนโตๆ มา ก็ได้เป็นนักฟุตบอลกีฬาสีโรงเรียนตั้งแต่ประถมเลย แต่ไม่ถึงขั้นนักกีฬาโรงเรียน เพราะผมไม่มีเวลา ต้องถ่ายละครด้วย แต่ถ้ามีเวลาก็จะเล่นฟุตบอลกับเพื่อนเสมอ
มาเริ่มเล่นฟุตบอลจริงจังตอน ป.5พาเพื่อนออกไปเตะนอกโรงเรียน ไปเช่าสนามเตะกันข้างนอก ตอนนั้นไปกันแค่ 4 คนเอง เล่นเหนื่อยมาก สนามใหญ่มาก ที่จริงมันควรจะรวมให้ได้อย่างน้อย 10 คน แต่พอโตขึ้นก็รวมกันได้เยอะขึ้น”
กีฬาที่ฟลุทชอบ ทั้งฟุตบอล บาสเกตบอล ล้วนเป็นกีฬาที่ใช้ผู้เล่นหลายคน ซึ่งฟลุทบอกว่า ต้องมีสปิริต
“ต้องเป็นทีมเวิร์กมากๆ ต้องรู้ใจกัน ต้องเข้าใจ อย่างฟุตบอล จังหวะนี้เพื่อนเลี้ยงบอลต้องปล่อยให้เขาเลี้ยง ไม่ใช่ห่วงบอล หรืออยากให้เขาส่งให้เราอย่างเดียว ต่อให้ในทีมมีคนเก่งทุกคนเลย แต่ต่างคนต่างเล่น ก็สู้ทีมเวิร์กที่ดีไม่ได้
ถ้าเล่นกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียนเก่า ไม่ค่อยมีปัญหา เพราะเราสนิทกันมาตั้งแต่ยังไม่เล่นบอล พอเล่นบอลเรารู้ใจ แทบไม่ต้องบอกอะไรกัน เข้าใจกันได้ง่าย
พอไปเล่นข้างนอก กับคนไม่รู้จัก ก็จะเจอปัญหาจังหวะไม่ตรงกันบ้าง เราต้องเข้าใจเขา เพราะถ้าเป็นเพื่อนกัน ไม่ไหวจริงๆ ก็มีเตือนบอกกัน
กับคนอื่น ถ้าผมเล่นด้วยไม่สบายใจก็ไม่ไปเล่นอีก เพราะเราไม่รู้จักกันจะไปเตือนเขาสอนเขาไม่ได้ แล้วส่วนใหญ่ที่ไปเล่นด้วยเขาก็โตกว่าเรา
ก็ไปหาสนามใหม่ที่เล่นแล้วไม่เครียดไม่กดดัน เพราะบางทีเราเล่นฟุตบอลกับเพื่อน เราไม่ได้จริงจังขนาดนั้น เราเล่นขำๆ ผ่อนคลาย ได้เจอกัน ได้ออกกำลังกายด้วยกัน”
แม้ช่วงนี้จะถ่ายละคร ภาพยนตร์ รวมถึงกำลังทำซิงเกิ้ลของตัวเองกับครอบครัว เรียกว่าหน้าที่การงานรัดตัว แต่ฟลุทก็พยายามหาเวลาว่างไปเตะฟุตบอล และไฟที่ทำให้อยากออกไปสนาม ก็แค่ได้ดูเกมแข่งขันสักแมตซ์ แค่นั้นก็คันไม้คันมือยกหูโทรศัพท์ชวนเพื่อนๆ หาวันว่างตรงกันไปเตะฟุตบอล


