ศาลาพระราชศรัทธา สุขร่ำเย็นใจในสวนธรรม

โดย...วรธาร

 ใครที่กำลังมองหาสถานที่สงบในเมืองและอยู่ในเส้นทางคมนาคมที่สะดวกตามแนวรถไฟฟ้า ไม่ต้องขับรถยนต์ส่วนตัวไป ขอแนะนำสวนป่าพระราชศรัทธา วัดปทุมวนาราม ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างห้างเซ็นทรัลเวิลด์ กับสยามพารากอน 

 บางวัดอาจมีคนพลุกพล่านขึ้นอยู่กับกิจกรรมของวัดนั้นๆ เช่น วัดหัวลำโพง มีกิจกรรมให้คนได้ทำบุญหลากหลาย ในแต่ละวันก็จะมีประชาชนเดินทางไปทำบุญเยอะหน่อย ต่างกับวัดปทุมวนารามที่คนละฟิว คนละสไตล์ หรือคนละคาแรกเตอร์ แม้เป็นวัดที่อยู่ใจกลางเมืองแต่ก็เป็นวัดที่มีความสงบร่มรื่น ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน จึงเหมาะกับคนที่ต้องการความสงบและอยู่กับธรรมชาติที่เย็นสบาย

 แน่นอน ด้วยความที่เป็นพระอารามหลวงและมีความเกี่ยวพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย จึงทำให้วัดปทุมวนารามเป็นวัดที่มุ่งเน้นความสงบร่มเย็น เน้นการให้ธรรมะ และวิถีแห่งการปฏิบัติแก่ทุกคนที่ต้องการความสุขและความสงบเป็นหลัก

 ประการแรก เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างขึ้นในปี 2400 เพื่ออุทิศถวายสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี

 ประการที่สอง เป็นวัดที่ตั้งของพระเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิ พระราชสรีรางคารและพระอัฐิของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์หลายพระองค์ อาทิ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นต้น

 สัญลักษณ์ที่โดดเด่นของวัดปทุมวนาราม คือ สวนป่าพระราชศรัทธา ซึ่งอยู่ด้านหลังบริเวณวัด เป็นสวนป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยแผ่กิ่งก้านปกคลุมไปทั่วบริเวณ บรรยากาศร่มรื่น ในสวนมีม้านั่งและเก้าอี้วางตามจุดต่างๆ ผู้คนที่เข้ามาเลือกนั่งได้ตามสะดวก ในสวนจะมีพระพุทธรูปหลายองค์ประดิษฐานให้คนได้กราบไหว้ด้วย

 สวนป่าพระราชศรัทธา มิเพียงเป็นสวนเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจของคนเมืองแต่ยังเป็นที่ที่สงบเงียบเหมาะแก่การทำสมาธิหรือนั่งในอาการสงบดีมาก นอกจากนี้ผู้ที่เข้ามายังจะได้ธรรมะและแง่คิดดีๆ กลับไปด้วยเนื่องจากตามต้นไม้ในสวนจะมีป้ายธรรมะและข้อคิดในพระพุทธศาสนาและของบุคคลต่างๆ มาติดไว้

 บางอันพิมพ์ในกระดาษและเคลือบด้วยพลาสติกใสเพื่อป้องกันฝนเปียก เช่น ธรรมะของสมเด็จย่า “คนดีของฉันต้องเป็นคนที่ไม่พูดปด ไม่สอพลอ ไม่ริษยา ไม่คดโกง และไม่มีความทะเยอทะยานอย่างบ้าๆ แต่พยายามทำหน้าที่ของตนเองให้ดีในขอบเขตของศีลธรรม” เป็นต้น เรียกว่าใครเข้าไปในสวนนอกจากความสงบสุขยังได้ข้อคิดดีๆ จากป่าด้วย

 ที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือ “ศาลาพระราชศรัทธา” เข้าในสวนป่าจะอยู่ด้านหน้าซ้ายมือ ข้างบนศาลาประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุด้วย ศาลาแห่งนี้ใช้เป็นสถานที่ในการประกอบกิจกรรมต่างๆ เช่น ปฏิบัติธรรม ทำบุญ นั่งสมาธิ ของประชาชน เป็นต้น 

 ที่มาของศาลาพระราชศรัทธา ย้อนไปเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2533 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ มาทอดผ้าพระกฐิน ณ วัดปทุมวนาราม ในวโรกาสดังกล่าวได้เสด็จฯ ไปยังลานปฏิบัติธรรมสวนไผ่แล้วได้มีพระราชปรารภถึงสถานที่ปฏิบัติธรรมว่าควรจะสร้างขึ้นถาวร ไม่ใช่หลังคาจาก หรือให้อยู่กันตามธรรมชาติแบบที่เป็นอยู่ เพื่อว่าเมื่อมีสถานที่สัปปายะพอสมควรแล้วจะได้เป็นที่พักใจของคนเมืองกรุงด้วย

 จากพระราชปรารภนั้น ต่อมาวัดปทุมวนารามจึงได้สร้างศาลาพระราชศรัทธาขึ้นในที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และได้รับพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญตรา ภปร.ประดิษฐานไว้ที่หน้าบันศาลาทั้งสองด้าน

 ปัจจุบัน ศาลาพระราชศรัทธาเปิดทุกวันเพื่อให้คนได้ไปปฏิบัติธรรม ฟังเทศน์ ทำบุญ แต่ถ้าจะปฏิบัติธรรมค้างคืนรับเฉพาะสุภาพสตรีเท่านั้นไม่รับสุภาพบุรุษเนื่องจากไม่มีที่พัก อีกอย่างผู้ที่ควบคุมดูแลในการปฏิบัติก็คือแม่ชี จึงไม่สะดวกสำหรับผู้ชาย

 หากใครสนใจไปปฏิบัติธรรมที่ศาลาพระราชศรัทธา ให้ติดต่อไปที่เบอร์โทร. 02-251-6325