เรื่องราวดีๆ "เภสัชกร" เผยประสบการณ์ "ปฏิเสธขายยาแก้ไอให้วัยรุ่น"
สังคมออนไลน์ชื่นชมการทำหน้าที่ของเภสัชกร หลังปฏิเสธขายยาแก้ไอให้กับวัยรุ่น เนื่องจากกลัวนำไปใช้ในทางที่ผิด
สังคมออนไลน์ชื่นชมการทำหน้าที่ของเภสัชกร หลังปฏิเสธขายยาแก้ไอให้กับวัยรุ่น เนื่องจากกลัวนำไปใช้ในทางที่ผิด
เมื่อวันที่ 16 ก.ค. สังคมออนไลน์พากันเเชร์เรื่องราวดีๆ จากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Wittaya Jan ซึ่งมีอาชีพเป็นเภสัชกร
เขาเล่าว่า ปัจจุบันเด็กนักเรียน วัยรุ่น เยาวชนนิยมการนำยารักษาโรคไปใช้ในทางที่ผิด (Drug Abuse) โดยมักนำไปเสพในปริมาณมากและติดต่อกันนานๆ เพิ่มขึ้นมากมาย ส่งผลเสียต่อร่างกาย จิตใจและสังคม
บ่อยครั้งที่มีข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ บางรายเกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตเรื่่องเล่าต่อไปนี้คือสิ่งที่พวกเราหลายๆ คนได้ทำและทำอย่างต่อเนื่องมาตลอดและจะทำต่อไป พวกเรารับใช้ชุมชน รับผิดชอบต่อสังคมแต่ไม่ได้ออกมาบอกใครให้ทราบ เก็บความรู้สึกที่ดีๆและความภาคภูมิใจ ปลื้มใจ สุขใจไว้ในใจของพวกเราเอง
เภสัชกรรายนี้ ยกตัวอย่างเรื่องราวให้ฟังว่า เคยเจอวัยรุ่นเข้ามาในร้านเพื่อซื้อยาแก้ไอให้พ่อจำนวนมาก แต่เมื่อซักถามว่าอาการคนไข้เป็นอย่างไร รวมถึงจะขอโทรกลับไปสอบถาม เด็กคนดังกล่าวกลับไม่พอใจและเดินออกจากร้านไปพร้อมกับตะโกนด่า
ต่อมาไม่นาน พ่อขอเด็กคนกล่าวเดินทางมาที่ร้านขายยาด้วยตนเอง เพื่อสอบถามว่า ทำไมเภสัชกรไม่ขายยาแก้ไอให้ลูกของตน
"ผมให้ลูกมาซื้อยาแก้ไอ ทำไมไม่ขายให้ห๊า !!" ชายหนุ่มถามด้วยความไม่พอใจ
หลังจากนั้นเภสัชกรได้อธิบายสาเหตุอย่างละเอียดให้พ่อของเด็กเข้าใจว่าเหตุผลอะไรถึงต้องถามรายละเอียดจำนวนมาก
"ใจเย็นๆคุณพ่อ คุณพ่อทราบไหมว่า ทำไมไม่ขายยาให้น้องไป แล้วทำไมต้องพ่อมาเอง คุณพ่อทราบไหมว่า ไอ้ยาแก้ไอเด็กซ์โตรที่ลูกมาซื้อเนี่ย ....เด็กบางคนเอาไป กินเสพติด
"ผมต้องถาม เพราะสงสัยว่า ทำไมเด็กถึงมาซื้อเองโดยบอกชื่อยาได้ถูกต้องและซื้อตั้ง 20 เม็ด และน้องยังเป็นวัยรุ่น ผมเกรงว่าจะนำไปกินเองอาจเป็นอันตรายต่อตัวเด็กเองจึงไม่ขายให้ไป
"เด็กกินทีละ 10 เม็ด บางคน 20 เม็ดเมาเคลิ้มเลย และที่ต้องถามอาการก็เพราะเป็นหน้าที่ของเภสัชกรที่จะต้องซักประวัติผู้ป่วย เพื่อประโยชน์ของคนไข้เอง วันหลังคุณพ่อมาซื้อยาเอง อย่าฝากเด็กมาซื้ออีกนะครับ”
หลังจากบทสนทนาดังกล่าว สุดท้ายพ่อของเด็กเข้าใจ พร้อมขอบคุณเภสัชกรที่ช่วยดูแลลูกของตนเเละคนอื่นๆ
เภสัชกรรายนี้ บอกด้วยว่า ปัจจุบันกลุ่มเด็กวัยรุ่นได้นำยาเดกซ์โทรเมทอร์แฟนไปใช้ในทางที่ผิดมากขึ้น โดยใช้ยาเดี่ยวๆในปริมาณสูง หรือนำไปผสมกับยาเสพติดอื่น เพื่อให้เกิดอาการเคลิ้มสุขเป็นสาเหตุของการติดยาทางจิตใจแต่ไม่ทำให้ติดทางร่างกาย จึงเป็นหน้าที่ของเภสัชกรประจำร้านขายยาที่จะกลั่นกรองผู้มาซื้อยาว่าถูกนำไปใช้เพื่อแก้ไอจริงๆ ขณะนี้ปัญหารุนแรงมากจนกระทั่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ออกมาตรการควบคุมการขายยานี้ จนทำให้คนที่จำเป็นต้องใช้ยานี้เดือดร้อนไปด้วย