มีสไตล์แบบ... แฮร์รี สไตล์ส

โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง

หนึ่งในหนุ่มฮอตจากเกาะอังกฤษ “แฮร์รี สไตล์ส” แห่งวงวันไดเรคชั่น

เขาเริ่มต้นในวงการด้วยจากการเข้าประกวดในรายการ ดิ เอ็กซ์ แฟคเตอร์ ก่อนจะออกอัลบั้มร่วมกับเพื่อนๆ ที่พบกันในรายการ กลายเป็น วันไดเรคชั่น บอยแบนด์อันดับ 1 ขวัญใจวัยรุ่นทั่วโลก

วันนี้ แฮร์รี สไตล์ส คือ หนึ่งในอภิมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในวงการเพลง เขามีทรัพย์สินราว 56 ล้านปอนด์ (คิดเป็นไทยไม่ถูกเลยทีเดียว) พ่อหนุ่มเนื้อหอมนี้เคยเป็นแฟนกับ เทย์เลอร์ สวิฟต์, คาโรไลน์ แฟลค และ เคนดัล เจนเนอร์ ล่าสุดเขาเพิ่งจะประกาศเป็นโสดอีกครั้งเมื่อความสัมพันธ์กับ เทสส์ วอร์ด เชฟและบล็อกเกอร์ชื่อดังได้สิ้นสุดลง ระหว่างนี้ แฮร์รี จึงมีเวลาเต็มที่กับงานโซโลอัลบั้มชุดแรก และอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าหนังเรื่องแรกของเขาคือ Dunkirk (กำกับโดย คริสโตเฟอร์ โนแลน) ก็จะออกฉาย

ด้วยวัย 23 ปี แฮร์รี ในฐานะศิลปินเดี่ยว ปล่อยซิงเกิ้ลแรก Sign of the Times ตามด้วยอัลบั้มชื่อเดียวกับชื่อศิลปิน ออกขายเมื่อกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะเขียนต้นฉบับนี้ แฮร์รี สไตล์ส กำลังอยู่ระหว่างช่วงเศร้าโศกเพราะ โรบิน ทวิสต์ พ่อเลี้ยงของเขาเสียชีวิต โดยเพื่อนๆ ร่วมวงวันไดเรคชั่นคือ เลียม เพย์น, ไนออล ฮอแรน และ หลุยส์ ทอมลินสัน ต่างก็มาร่วมแสดงความเสียใจกับเขาผ่านสื่อ

หลังฟังอัลบั้มนี้และได้ชมคลิปการแสดงเพลงของเขา จากที่ไม่ได้เป็นแฟนคลับวันไดเรคชั่น รวมทั้งไม่ได้ชื่นชอบ แฮร์รี สไตล์ส มากมายก่อนหน้านี้ เราก็หันมามองหนุ่มคนนี้ในมุมที่แตกต่างออกไป

อัลบั้มนี้ประกอบด้วย 10 แทร็ก ซึ่งมีชื่อ แฮร์รี สไตล์ส ในเครดิตคนแต่งทุกเพลง เขาทุ่มเทและภาคภูมิใจกับงานชุดนี้ เพราะทำด้วยตัวเอง และได้สร้างบางอย่างที่เป็นตัวเองจริงๆ ในฐานะนักดนตรี ตอนนี้ทั้งเพลง Sign of the Times และอัลบั้มก็ได้รับการตอบรับอย่างเยี่ยมยอด ติดอันดับ 1 ใน Billboard 200 รวมทั้งขึ้นชาร์ตอันดับสูงๆ ในหลายประเทศ

เพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้ม Harry Styles เป็นซอฟต์ร็อก/ป๊อป มีผสมโฟล์ก ไซคีเดลิค ฯลฯ ส่วนเนื้อหาเพลงนั้นเป็นประเด็นที่เราไม่คิดว่าจะมีในเพลงของ แฮร์รี อย่างเช่นเรื่องการสูญเสีย การละทิ้งอดีตแล้วก้าวต่อไปข้างหน้า งานของเขาเหมือนเป็นภาคขยายของ วันไดเรคชั่น ผสมผสานกับรสนิยมและอิทธิพลส่วนตัว

เพลงของ แฮร์รี สไตล์ส มีกลิ่นอายวินเทจหรือย้อนยุคเจือปน บางทีด้วยโทนเพลง ด้วยลุคของเขาก็ทำให้นึกถึงศิลปินรุ่นพ่อรุ่นลุงอย่างเช่น มิก แจ็กเกอร์ (หรืออื่นๆ) อยู่เหมือนกัน ตัวแฮร์รีเองเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่อยากให้คนพูดว่า เขาพยายามนำงานทศวรรษ 1960-1990 มาสร้างสรรค์ใหม่ แต่ตัวเขารักและได้รับอิทธิพลจากงานเก่าๆ เหลือเกิน “เพลงที่น่าทึ่งมากมายเขียนขึ้นตอนนั้น แต่ผมก็ไม่ได้บอกว่า อยากไปอยู่ในยุคนั้น ผมแค่อยากจะทำอะไรบางอย่างที่มี ‘ซาวด์’ เป็นตัวผมเอง”

ถึงแม้ว่าทั้ง 10 เพลงจะไม่แข็งแกร่งนักในความเป็นอัลบั้ม ด้วยขาดการปะติดปะต่อหรือเชื่อมต่อ แต่ก็นับเป็นงานเดี่ยวชุดแรกที่ไม่เลวเลย (แม้ลุง เลียม กัลลาเกอร์ แห่งโอเอซิสจะบอกว่า เพลงอย่างนี้นะเหรอ แต่ง 10 นาทีก็เสร็จแล้ว! ก็อย่าเพิ่งไปปักใจเชื่อ ลองฟังกันดูก่อน) ด้วยงานชุดนี้บอกว่า แฮร์รี สไตล์ส มีรสนิยมทางดนตรีที่ดี ทั้งยังมีความสามารถในการถ่ายทอด ไม่ว่าจะในการแต่งเพลง หรือแสดงเพลง

เหนือกว่าสิ่งอื่นใดคือ เขาเป็นคนมีเสน่ห์ จากที่เคยน่ารักแบบเด็กวัยรุ่น เขากำลังย่างเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว นี่นับเป็นการก้าวย่างไปข้างหน้า เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญสำหรับคนๆ หนึ่ง

สำหรับแฟนๆ ของ แฮร์รี สไตล์ส เขาจะเดินทางมาแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทยในวันที่ 7 พ.ค.ปีหน้า ซื้อตั๋วและหัดร้องเพลงของเขารอไว้เลย