หุ่นยนต์ ‘คนแห่งอนาคต’

โดย...สมแขก

 กระแสการพัฒนาหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์แบบก้าวกระโดด เป็นหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่า เทคโนโลยีได้พัฒนาขึ้นอีกหนึ่งขั้น

 แต่ใครจะคิดว่าในงานสถาปนิก'60 ซึ่งจัดโดยสมาคมสถาปนิกสยาม ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี นับเป็นแหล่งรวมบุคคลในวงการวิชาชีพที่เกี่ยวเนื่องมากที่สุดในเมืองไทย เป็นเวทีแห่งโอกาสในการเชื่อมโยงสานสัมพันธ์ทางธุรกิจเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลและเทคโนโลยีใหม่ๆ

 ปีนี้มีไฮไลต์อยู่ที่การใช้หุ่นยนต์มาช่วยสร้างบ้าน ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ รวมทั้งสถาปนิกได้นำนวัตกรรมนี้ไปใช้ในการออกเพิ่มขึ้น เพื่อลดต้นทุน เวลาและลดแรงงาน

เทรนด์การสร้างบ้านในปีนี้ให้ความสนใจการก่อสร้างที่อยู่อาศัย ที่มีการใช้นวัตกรรม ทั้งการผลิต การออกแบบ และรูปแบบที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นิทรรศการคบหุ่นสร้างบ้าน (Tectonic and Techonology) โดย FabCafeBangkok ที่ขอท้าดวลการวางเรียงก้อนอิฐกับหุ่นยนต์แขนกล (Robotic Arm) ที่ส่วนใหญ่จะใช้กันในงานอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์เท่านั้น

จากข้อสงสัยที่ว่า หากนำหุ่นยนต์มาใช้แทนหรือทำงานร่วมกับแรงงานมนุษย์ในงานสถาปัตยกรรม นวัตกรรมนี้ทำมาเพื่อให้เหล่าสถาปนิกได้เห็นตัวอย่างของเทคโนโลยี และนำไปใช้งานจริงในกระบวนการออกแบบ

โดยช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยนำนวัตกรรมการสร้างบ้านมาใช้ในการก่อสร้างและออกแบบ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มสถาปนิก และกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้าน

ไม่เพียงแค่นวัตกรรมการสร้างบ้านเท่านั้น แต่หุ่นยนต์และสิ่งประดิษฐ์ด้านหุ่นยนต์ได้แทรกซึมและเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ด้านต่างๆ เช่น การใช้งานในครัวเรือน การแพทย์ การบริการ ด้านการศึกษา การวิจัย และด้านอุตสาหกรรม

ทั้งหมดนี้อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด เช่น บริษัท เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม หนึ่งในบริษัทกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) นวัตกรรมหุ่นยนต์เจียวไข่ ที่สามารถผสมและทำไข่เจียวให้เสร็จสวยงามได้ใน 5 นาที ช่วยอำนวยความสะดวกให้พ่อบ้านแม่บ้านที่มีปัญหาเวลาเข้าครัว

หรือหุ่นยนต์บริกร ผลงานจากบริษัท เซียซัน (SIASUN) ผู้ผลิตหุ่นยนต์อันดับหนึ่งของจีน ที่สามารถบังคับทิศทางเดินได้อย่างอิสระ ความสามารถคือกล่าวต้อนรับลูกค้า แจกโบรชัวร์ ให้ข้อมูลโปรโมชั่น และเดินเสิร์ฟอาหาร และแสดงสีหน้าในรูปแบบดิจิทัล ที่ล้วนเป็นการสร้างสีสันและเพิ่มอรรถรสในการบริการได้ไม่น้อย

ร้านอาหารในเมืองเฉิงตูและเมืองเหอเฟย ประเทศจีน ใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าในร้านมานับตั้งแต่ปีที่แล้ว ขณะที่อีกหลายร้านนำหุ่นยนต์มาช่วยเชฟเตรียมอาหาร เช่น หั่นผัก ลวกลูกชิ้น หรือทำเส้นก๋วยเตี๋ยว

ความก้าวหน้าดังกล่าวของหุ่นยนต์จึงนับเป็นสัญญาณว่า ในอีกไม่ช้าเราอาจได้เห็นหุ่นยนต์ตามร้านฟาสต์ฟู้ดหรือร้านอาหารมากยิ่งขึ้นก็เป็นได้

สิ่งที่ตอกย้ำว่าหุ่นยนต์กำลังจะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้โลก คือ ตัวเลขสถิติความต้องการใช้หุ่นยนต์จากทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปเอเชีย ซึ่งเป็นผู้นำการขับเคลื่อนและกำหนดทิศทางภาคอุตสาหกรรมหุ่นยนต์โลก ได้แก่ จีน คิดเป็น 25% ญี่ปุ่น 13% เกาหลีใต้ 11% รองลงมาจึงเป็นสหรัฐ 11%  และเยอรมนี 9% 

นอกจากนี้ เอเชียยังแสดงตัวเลขความต้องการใช้หุ่นยนต์สูงกว่าทวีปอื่นๆ ถึง 3 เท่า ขณะที่ทวีปยุโรปและอเมริกา มีความต้องการประมาณ 6.6 หมื่นตัว และ 48 หมื่นตัว ตามลำดับ

ทั้งหมดนี้สะท้อนภาพถึงโอกาสที่ประเทศไทยสามารถผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเท่าทันเทคโนโลยีดังกล่าว และสามารถพัฒนา คิดค้น ประยุกต์ใช้นวัตกรรม

เป็นที่มาของการที่พีไอเอ็ม (สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์) เปิดตัวหลักสูตรวิศวกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งผู้เรียนจะได้มีโอกาสสัมผัสกับนวัตกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติที่ทันสมัยที่สุดระดับนานาชาติ พร้อมคลุกคลีกับเนื้อหา การปฏิบัติงาน และเครือข่ายบริษัทผู้ผลิตชั้นนำของโลกตลอดระยะเวลา 4 ปีของหลักสูตร เพื่อให้สามารถก้าวสู่การเป็นบุคลากรด้านนวัตกรรมหุ่นยนต์ที่ตอบโจทย์ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมสำคัญในยุคปัจจุบัน