posttoday

กิเลนท้าชนทุกทีม

12 พฤษภาคม 2560

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มสมราคาแชมป์จากประเทศไทย กรุยทางผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ (16 ทีมสุดท้าย)

โดย...ชมณัฐ

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มสมราคาแชมป์จากประเทศไทย กรุยทางผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ (16 ทีมสุดท้าย) ศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2017 ในฐานะรองแชมป์กลุ่มอี ด้วยผลงานชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 1 ซึ่งแน่นอนว่าด้วยศักยภาพอันยอดเยี่ยม “กิเลนผยอง” ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวคู่ต่อกรทีมใดๆ ในเอเชีย

พอล เมอร์ฟี ผู้สื่อข่าวจากอีเอสพีเอ็น ที่ฝังตัวอยู่ในประเทศไทยมานาน 9 เดือน ออกโรงวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่เอสซีจี เมืองทองฯ จะสามารถต่อกรกับทุกทีมในเอเชียในรอบต่อๆ ไปได้ว่าเป็นเพราะทีมมีขุมกำลังอันแข็งแกร่งในทุกแดน แม้ก่อนหน้านี้จะปล่อยผู้เล่นหลักไปหลายคนทั้ง เคลตัน ซิลวา, มาริโอ อบรานเต และ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ รวมถึงการบาดเจ็บยาวของ สารัช อยู่เย็น

“กุญแจสำคัญอย่างแรกคือความยอดเยี่ยมของกุนซือ ธชตวัน ศรีปาน ขณะที่ตัวผู้เล่นก็มีศักยภาพ เซลิโอ ซานโตส เซ็นเตอร์ฮาล์ฟชาวบราซิลเหนือกว่าอบรานเต ลีโฮ ที่มีประสบการณ์ระดับบิ๊กเกมมาโชกโชนในบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับช่วยให้แฟนๆ ลืมธนบูรณ์ได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ วัฒนา พลายนุ่ม กับ รัชพล นาวันโน ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถทดแทนสารัชได้อย่างดี รวมถึง ซิสโก ฆิเมเนซ, ธีรศิลป์ แดงดา และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่อุดช่องว่างของเคลตันได้ไร้ที่ติ”

กูรูดังยังกล่าวชมผลงานอันโดดเด่นของ 2 ฟูลแบ็กซ้าย-ขวา ธีราทร บุญมาทันกับ ทริสตอง โด ที่เป็นกุญแจสำคัญในเกมรับและรุกของทีม ซึ่งที่สำคัญหาก “กิเลนผยอง” สามารถผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้จะมี เฮแบร์ตี แฟร์นานเดส ศูนย์หน้าบราซิเลียน เข้ามาเป็นตัวเลือกในแดนหน้าอีกราย

ด้าน “โค้ชตุ้ม” รังสิวุฒิ ชโลปถัมภ์ อดีตนักเตะทีมชาติไทยและนักวิเคราะห์ฟุตบอลชื่อดัง กล่าวเสริมว่า การที่ผู้เล่นของเอสซีจี เมืองทองฯ ติดทัพ “ช้างศึก” หลายคนพร้อมถูกสอนให้เล่นด้วยสไตล์ต่อบอลสั้นและสปีดบอลเร็วทำให้เกิดความเข้าขาและรู้ใจกัน ที่สำคัญยังมีประสบการณ์จากการผ่านเวทีฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้ายโซนเอเชียมาแล้ว

“ผู้เล่นไทยเกือบทั้งทีมของเอสซีจี เมืองทองฯ ผ่านเกมทีมชาติกับทีมใหญ่ๆ ทั้งญี่ปุ่นและออสเตรเลียมาแล้ว ดังนั้นจึงรู้ว่าหากต้องเจอกับคู่แข่งจากชาติเหล่านี้จะมีวิธีรับมืออย่างไร ผมจึงเชื่อว่าเอสซีจี เมืองทองฯ จะสามารถสู้ได้ทุกทีมในระดับเอเชียและสามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบลึกๆ ได้ แต่สิ่งสำคัญคือตัวหลักและผู้เล่นต่างชาติซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญต้องไม่เจ็บ โดยเฉพาะกองหลังที่ต้องเป็นตัวชน” โค้ชตุ้ม เผย

เอสซีจี เมืองทองฯ ยังได้รับข่าวดีเมื่อ “เจ้าตังค์” สารัช ที่ข้อเท้าขวาหักต้องพักยาว 8 เดือน ล่าสุดสามารถเดินลงน้ำหนักได้ตามปกติแล้ว และคาดว่าอีกราว 1 เดือนจะกลับมาวิ่งเบาๆ ได้ ส่วน “เจ้ากอล์ฟ” อดิศักดิ์ ไกรษร กองหน้าที่เจ็บข้อเท้า ล่าสุดเริ่มวิ่งได้แล้ว คาดว่าอีกราว 2 สัปดาห์จะกลับมาซ้อมได้เต็มรูปแบบ

ขณะที่เกมในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในระบบเหย้า-เยือน เอสซีจี เมืองทองฯ จะพบกับคาวาซากิ ฟรอนตาเล ทีมดังจากเจลีก โดยเลกแรกจะได้เล่นในบ้านก่อนวันที่ 23 พ.ค. และเลกสองบุกไปชี้ชะตาที่ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 30 พ.ค.

เมอร์ฟี มองว่า หากเอสซีจี เมืองทองฯ คว้าแชมป์กลุ่มในรอบที่แล้ว ในรอบต่อไปจะต้องเจอกับกว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ยักษ์ใหญ่จากจีน ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี กุนซือประสบการณ์สูง และมีสตาร์ดังทั้ง เปาลินโญ, แจ็กสัน มาร์ติเนซ และ ริคาร์โด กูลาร์ต ดังนั้นการเจอฟรอนตาเลจึงเป็นเรื่องที่ดีกว่า

“เอสซีจี เมืองทองฯ มีความยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์นี้ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นรองฟรอนตาเลแต่อย่างใด เกมรับที่ยอดเยี่ยม กองกลางดุจดังเหล็กกล้า แนวรุกที่มีไหวพริบและยังไว้ใจได้ อีกทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยังได้พิสูจน์มูลค่าของตัวเองแล้วจากการคว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ถึง 3 ครั้ง” เมอร์ฟี ระบุ

ขณะที่ “โค้ชตุ้ม” เชื่อว่าปัจจุบันสโมสรจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนแต่ก่อน เนื่องจากผู้เล่นเก่งๆ ส่วนใหญ่จะย้ายไปเล่นในลีกยุโรปหมดแล้ว

สำหรับ ฟรอนตาเล ผลงานในรอบแบ่งกลุ่มชนะ 2 เสมอ 4 ไม่แพ้ใคร มี 10 แต้ม เท่ากับกว่างโจว แต่ได้เปรียบจากอเวย์โกล บุกไปยิงเสมอ 1-1 และกลับมายันในบ้าน 0-0 โดยเป็นทีมที่มีสถิติการผ่านบอลมากที่สุดในรอบแบ่งกลุ่ม ทั้งหมด 4,052 ครั้ง สำเร็จ 85% มี เคนโก นากามูระ กองกลางที่แอสซิสต์ 4 ครั้งจาก 8 ประตูที่ทีมทำได้เป็นทีเด็ด ร่วมกับ ยู โคบายาชิ ศูนย์หน้ากัปตันทีมที่ยิงไป 2 ประตู และ รายเนอร์ ซานโตส มิดฟิลด์ตัวรุกชาวบราซิล ปัจจุบันรั้งอันดับ 6 ของตารางคะแนนเจลีก

อดีตรองบรรณาธิการ เดลี เอ็กซ์เพรส สื่อดังของประเทศอังกฤษ ทิ้งท้ายว่าการผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ของ “กิเลนผยอง” ในครั้งนี้นับเป็นการฟื้นฟูความภาคภูมิใจของประเทศไทย หลังจากที่เมื่อปี 2016 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ผูกขาดการลงเล่นถ้วยใบนี้ทำผลงานผิดฟอร์มเก็บได้เพียง 1 แต้ม จาก 6 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม ขณะที่ชลบุรี เอฟซี บุกไปโดนเอฟซี โตเกียว (ญี่ปุ่น) ถล่มเละ 0-9 จอดป้ายเพียงรอบเพลย์ออฟ เช่นเดียวกับเอสซีจี เมืองทองฯ ที่ปราชัยต่อเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี (จีน) 0-3 ในรอบเดียวกัน

ทั้งนี้ โปรแกรมอีก 3 คู่ ในสายตะวันออก ประกอบด้วย กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ (จีน) พบ คาชิมา แอนท์เลอร์ส (ญี่ปุ่น), เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี (จีน) พบ เจียงซู ซูหนิง (จีน) และเจจู ยูไนเต็ด (เกาหลีใต้) พบ อุราวะ เรด ไดมอนด์ส (ญี่ปุ่น)

ข่าวล่าสุด

ผลบอล โยเคเรสซัดโทษ! อาร์เซน่อล1-0 เอฟเวอร์ตัน,ลิเวอร์พูล 2-1