posttoday

ห้วงเวลาสุนทรียทัศน์และโสตทัศน์ ณ วังพญาไท

11 พฤษภาคม 2560

ในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.นี้ ช่วงย่ำค่ำ 1 ทุ่มตรง ความรื่นรมย์กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ณ พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ พระราชวังพญาไท

โดย...ปอย ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข

ในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.นี้ ช่วงย่ำค่ำ 1 ทุ่มตรง ความรื่นรมย์กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ณ พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ พระราชวังพญาไท โดยมูลนิธิอนุรักษ์พระราชวังพญาไท ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จะจัดแสดงดนตรี The Princess Galyani Vadhana Concert ในชื่อว่า Rising Stars at The Palace เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงสนพระทัยและให้การสนับสนุนกิจกรรมด้านดนตรีคลาสสิกมาโดยตลอด

ขณะมีพระชนม์ชีพได้เสด็จมาเป็นประธานในงานดนตรีคลาสสิกซึ่งจัดขึ้นในพระราชวังพญาไทถึง 12 ครั้งตามคำกราบทูลเชิญของมูลนิธิ ซึ่งจัดงานแสดงดนตรีคลาสสิกเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนนี้ โดยเป็นเดือนประสูติของพระองค์ โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2551 เป็นปีแรก และจัดแสดงต่อเนื่องมาแล้ว 9 ปี

ปีนี้ครบรอบ 10 ปี มูลนิธิอนุรักษ์พระราชวังพญาไทให้ความสำคัญกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งในการเลือกเฟ้นสองนักเปียโนทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ ภูมิ พรหมชาติ ชญณัฐ วิสัยจร เพิ่มไฮไลต์คอนเสิร์ตปีนี้มีการเชิญนักร้องระดับเสียง Tenor ณัฐพร ธรรมาธิ มาร่วมแสดงด้วย หากย้อนกลับไปดูรายการแสดงดนตรีทั้ง 9 ครั้งที่ผ่านมา คอเพลงคลาสสิกล้วนยกนิ้วให้กับศักยภาพนักดนตรีไทยได้พัฒนาอย่างก้าวหน้าและมีมาตรฐานทัดเทียมอารยประเทศ สมดังพระปณิธานของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

ห้วงเวลาสุนทรียทัศน์และโสตทัศน์ ณ วังพญาไท

สุนทรียทัศน์ ณ พระราชวังอายุร้อยปี

หอคอยสูงและหลังคายอดแหลมของพระที่นั่งพิมานจักรี คือสถาปัตยกรรมโดดเด่นของพระราชวังพญาไท พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น พระราชทานนามให้ว่า “พระตำหนักพญาไท” หรือ “วังพญาไท” ปัจจุบันคงเหลือพระที่นั่งที่สร้างในรัชกาลที่ 5 เพียงองค์เดียว คือ พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ และพระที่นั่งที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 คือ พระที่นั่งไวกูณฐเทพยสถาน พระที่นั่งพิมานจักรี พระที่นั่งศรีสุทธาวาส พระที่นั่งอุดมวนาภรณ์ พระตำหนักเมขลารูจี สวนโรมัน และศาลท้าวหิรัญพนาสูร ความไพเราะคล้องจองกันของชื่อพระที่นั่งทำให้พระราชวังพญาไททวีความงดงาม

วังพญาไท เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2452 ตระหง่านงดงามร่วมร้อยปี พล.ท.ธำรงรัตน์ แก้วกาญจน์ ประธานมูลนิธิอนุรักษ์พระราชวังพญาไท กล่าวถึงประวัติพระราชวังแห่งนี้ว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่เสด็จทอดพระเนตรการทำนา การปลูกผัก การเลี้ยงสัตว์ และสร้างตำหนักเป็นที่ประทับ ส่วนพื้นที่ด้านตรงข้ามกับพระตำหนัก โปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีแรกนาขวัญหลายครั้ง

“การจัดแสดงดนตรีคลาสสิกขึ้นที่พระราชวังแห่งนี้ ก็เพื่อให้คนไทยได้เข้ามาเรียนรู้โบราณสถานที่สำคัญของไทย หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าพระราชพิธีแรกนาขวัญครั้งแรกก็มีขึ้นที่นี่นะครับ ส่วนพระที่นั่งเทวราชสภารมย์ ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ต ก็เคยประกอบพระราชพิธีสำคัญต่างๆ ใช้เป็นสถานที่รับแขกส่วนพระองค์ รวมทั้งใช้เป็นสถานที่แสดงละคร พระที่นั่งจึงเหมาะสมมากกับการจัดแสดงดนตรีคลาสสิก รับรองได้ถึง 230 ที่นั่ง แล้วการจัดในช่วงค่ำ ก็จะได้เข้ามาชมพระราชวังกันตั้งแต่ช่วงเย็นบรรยากาศดีมาก มีอาหารรสดีจัดเลี้ยงก่อนชม บะหมี่วังพญาไทต้องมาชิมกัน พอช่วงค่ำพระที่นั่งประดับประดาไฟสวยงามมากครับ”

ห้วงเวลาสุนทรียทัศน์และโสตทัศน์ ณ วังพญาไท

พล.ท.ธำรงรัตน์ กล่าวว่า หลายคนสนใจศึกษาประวัติสถานที่แห่งนี้ ก็คงรู้ว่าสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของพระราชวังพญาไท ที่นี่คือดุสิตธานี เมืองประชาธิปไตยย่อส่วน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็นเมืองจำลองขึ้นเพื่อทดลองการปกครองระบอบประชาธิปไตย เคยเป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งแรกของไทย ในสมัยรัชกาลที่ 7 เป็นโรงแรมชั้นหนึ่งสำหรับให้ชาวต่างประเทศพัก สร้างเป็นโรงพยาบาลทหาร และได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้ามาจนปัจจุบัน

พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ เคยเป็นที่ประทับของพระพันปีหลวง สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ออกแบบโดยวิศวกรชาวอิตาลี พระที่นั่งองค์นี้มีสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างคลาสสิกและอาร์ตนูโวสร้างด้วยโครงสร้างคอนกรีตหน้าตัดหน้าบัน ทางทิศใต้มีพระปรมาภิไธยย่อ ส.ผ. (เสาวภาผ่องศรี) ทำให้พระที่นั่งองค์นี้มีชื่อเรียกว่าท้องพระโรง ส.ผ. หลังคาเป็นทรงโดม สถาปัตยกรรมแบบโรมันชายคาประดับลวดลายฉลุเป็นความงามคู่ควรชม

ห้วงเวลาสุนทรียทัศน์และโสตทัศน์ ณ วังพญาไท พล.ท.ธำรงรัตน์ แก้วกาญจน์

รื่นรมย์โสตทัศน์ ณ วังพญาไท

สมัยที่ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ มีพระชนม์ชีพอยู่นั้นก็ได้เคยเสด็จทอดพระเนตรคอนเสิร์ต และเสด็จไปเยี่ยมนักเรียนทุนถึงห้องเรียน ได้ทรงก่อตั้งทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกขึ้นเมื่อปี 2543 ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อพัฒนาวงการดนตรีคลาสสิกของไทยให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยพระปณิธาน “พัฒนาพรสวรรค์ สรรค์สร้างคีตกวี ผลิตนักดนตรีสู่สากล” ทรงรับเป็นองค์ประธานและทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์ นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการถึงปัจจุบันมีนักเรียนทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ฯ แล้วมากกว่า 50 คน

คอนเสิร์ตครั้งที่ 10 จะเปิดเวทีโดยการเดี่ยวเปียโนนักดนตรีที่มีชื่อเสียงในวงการดนตรีคลาสสิก ภูมิ พรหมชาติ และเดี่ยวเปียโนโดย ชญณัฐ วิสัยจร สองนักเรียนทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ ปิดท้ายด้วยการร้องโดย ณัฐพร ธรรมาธิ นักร้องไทยระดับเสียง Tenor ที่ไปทำงานมีชื่อเสียงอยู่ในเมืองซาลซ์บูร์ก ประเทศออสเตรีย

นักร้องและนักดนตรีขึ้นเวทีคัดสรรเป็นพิเศษ เพื่อฉลองการจัดแสดงครบ 10 ปี พล.ท.สุปรีชา โมกขะเวส ประธานจัดงานคอนเสิร์ต และครูเปียโนคร่ำหวอดในวงการดนตรีคลาสสิก พีรพงศ์ สุรวรรณ กรรมการผู้ช่วยประสานงาน อธิบายรายละเอียดเรื่องนี้

“ปีที่ผ่านมาซึ่งเป็น Chamber Music การแสดงวงดนตรีขนาดเล็กเหมาะสำหรับบรรเลงในห้อง แต่ปีนี้พิเศษกับการแสดงเดี่ยวเปียโน ทั้งสามคนเป็นนักดนตรีไทยมีชื่อเสียงในระดับสากล คุณภูมิเป็นนักดนตรีได้รับทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ เปิดเวทีด้วยการเดี่ยวเปียโนราว 30 นาที 3 เพลง คือ L’Entretien des Muses เพลงที่สอง Romance in a Flat Major, K.Anh 205 และเพลงที่สาม Piano Sonata No.3 ต่อด้วยการเดี่ยวเปียโนโดยคุณชญณัฐ ในเพลง Piano Concerto No.3 Op.37 (1st Movement)

ห้วงเวลาสุนทรียทัศน์และโสตทัศน์ ณ วังพญาไท ซ้าย พีรพงศ์ สุรวรรณ ขวา พล.ท.สุปรีชา โมกขะเวส

ช่วงไฮไลต์คือการร้องของคุณณัฐพร นักร้องที่มีชื่อเสียงและบินมาเพื่อขึ้นคอนเสิร์ตครั้งนี้จากออสเตรีย เพลงปิดเวทีด้วยบทเพลงไพเราะมากครับ คือ Nessun Dorma (Turandot) เป็นเพลงอุปรากรใช้เปียโนแทนวงออร์เคสตราได้เลยครับ คนชื่นชอบเปียโนได้ฟังเต็มอิ่ม ส่วนคนชอบเพลงร้องครึ่งหลังก็มีบทเพลงไพเราะให้ฟังตั้งแต่เพลงเปิด Torna a Surriento แม้ไม่ใช่คอเพลงคลาสสิกก็เป็นเพลงที่หลายคนคุ้นหู เป็นส่วนผสมที่ดีของความบันเทิงไม่หนักเกินไปนะครับ” พีรพงศ์ อธิบายรายละเอียดเพลงบนเวทีคอนเสิร์ต

พล.ท.สุปรีชา อธิบายเพิ่มเติมว่าคัดบทเพลงที่คุ้นหูมากว่าครึ่ง โดยเฉพาะเพลงร้อง ส่วนคอเปียโนจะได้ชมการโชว์ฝีมืออย่างเต็มที่

“ทั้งสามเพลงของคุณภูมิ แบ่งเป็น 3 ยุค ตั้งแต่เพลงแรกยุคเก่าอายุ 300 กว่าปี เพลงที่สองของโมสาร์ท ส่วนเพลงที่สามต้องบอกว่าทันสมัยเจี๊ยบเลยครับ Piano Sonata No.3 โดยนักประพันธ์เพลง Carl Vine ยังมีชีวิตอยู่ อาจจะฟังยากปีนบันไดฟังกันสักหน่อยครับ ซึ่งนี่คือพระปณิธานสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ คือนอกจากการสร้างนักดนตรีแล้วต้องสร้างฐานคนฟังด้วย คนฟังต้องฝึกฟังเพลงคลาสสิกและเพลงโมเดิร์นด้วยครับ เพราะวาทยกรทั่วโลกเลือกเพลงโมเดิร์นขึ้นมาบรรเลงโชว์กันมากขึ้น

เพลงแนวนี้คนฟังอาจยังไม่คุ้นหูกัน ก็ร้อง...จ๊ากกันเป็นแถว (หัวเราะ) แต่ผมแนะนำโซนาต้า เบอร์ 3 ลองฟังกัน นักประพันธ์เพลงนี้ คาร์ล ไวน์ ยังมีชีวิตอยู่ จึงไม่ต้องมีการตีความในแบบการบรรเลงเพลงสมัยเก่า ที่นักประพันธ์เสียชีวิตไปหมดแล้วนักดนตรียุคนี้จึงต้องตีความกันเอง การบรรเลงของคุณภูมิเป็นศิลปะสมัยใหม่ที่น่าสนใจมากครับ” พล.ท.สุปรีชา กล่าวทิ้งท้าย

คอนเสิร์ตได้ชมความงามของวังโบราณ ได้ชื่นชมความสามารถของนักดนตรีไทยและมีส่วนสนับสนุนกิจกรรมดนตรีคลาสสิกในประเทศไทย สนใจสำรองที่นั่งได้ที่ โทร.02-354-7987 02-354-7732 บัตรราคา 1,500/1,000 บาท นักเรียน-นักศึกษา 500 บาท

ช่วงค่ำคืนวันอาทิตย์นี้ วังพญาไทจะถูกปลุกให้เปี่ยมชีวิตชีวาอีกครั้งด้วยท่วงทำนองแสนคลาสสิก

ข่าวล่าสุด

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และเวสเทิร์นดิจิตอลยินดีผู้สำเร็จหลักสูตรเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อผลิตอัจฉริยะร่วมกับบีโอไอ