ชัยชนะของเพลงลาตินอเมริกา

โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง

เมื่อสัปดาห์ก่อน ลุยส์ ฟอนซี และ แดดดี แยงกี ได้รับเสียงกรี๊ดดังสนั่น เมื่อพวกเขาขึ้นเวทีบิลบอร์ด ลาติน มิวสิค อะวอร์ดส ที่ ฟลอริดา สหรัฐ พร้อมกับเพลง Despacito ซึ่งดังคับโลกอยู่ตอนนี้

หลายคนคาดว่า Despacito จะเป็นเวอร์ชั่นปี 2017 ของ Macarena เพลงแดนซ์ภาษาสเปนของ ลอส เดล ริโอ ที่ฮิตระเบิดไปทั่วโลกในช่วงปี 1995-1997

Despacito เป็นเพลงภาษาสเปน ซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดของ ลุยส์ ฟอนซี ซึ่งมีเจ้าพ่อเร็กเกตันอย่าง แดดดี แยงกี มาฟีเจอริ่งด้วย หลังจากเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจึงตามมาด้วยรีมิกซ์เวอร์ชั่น ซึ่งเพิ่มเนื้อภาษาอังกฤษเข้าไป และได้ซูเปอร์สตาร์ - จัสติน บีเบอร์ มาร่วมแจม คราวนี้เลยฟีเวอร์กันไปใหญ่

คำว่า Despacito นี้แปลว่า Slowly หรือช้าๆ เป็นเพลงเบาๆ สนุกๆ เหมาะสำหรับบรรยากาศในช่วงซัมเมอร์ โดยรวมแล้วเป็นเพลงในอารมณ์ใกล้เคียงกับ Macarena เพลงนี้เขียนโดย ลุยส์ ฟองซี กับ เอริกา เอ็นเดอร์ มาในลีลาสีสันแบบลาตินป๊อปและเร็กเกตัน เนื้อเพลงก็ค่อนข้างเซ็กซี่และโรแมนติก ติดท็อปชาร์ตในหลายประเทศทั้งอเมริกาใต้และยุโรป ก่อนจะมาอเมริกาเหนือ

ถึงตอนนี้ Despacito กลายเป็นเพลงซึ่งมีเนื้อร้องภาษาสเปนที่สามารถขึ้นถึงอันดับท็อป 5 ในชาร์ต Hot 100 ของบิลบอร์ด หลังจากที่ Macarena ของ ลอส เดล ริโอ ทำได้เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว Macarena นั้นอยู่ในอันดับท็อป 5 นานถึง 20 สัปดาห์ ซึ่งรวมถึง 14 สัปดาห์กับตำแหน่งอันดับ 1 ส่วน Despacito จะทำลายสถิตินี้ได้หรือเปล่าก็ต้องติดตาม

สำหรับ ลุยส์ ฟอนซี และ แดดดี แยงกี ทั้งสองต่างเกิดในเปอร์โตริโก ตั้งแต่พวกเขาทำงานในวงการนี้มาก็เพิ่งจะมีเพลงนี้ล่ะที่ขึ้นท็อป 20 ของบิลบอร์ดชาร์ตได้ ก่อนหน้านี้ ลุยส์ ฟอนซี นำ No Me Doy Por Vencido ขึ้นได้ถึงอันดับที่ 90 ส่วน แดดดี แยงกี เคยขึ้นท็อป 40 มาแล้ว 2 ครั้ง กับ Gasolina (อันดับที่ 32 ในปี 2005) และ Rompe (อันดับ 24 ปี 2006) เพลงนี้ยังนับเป็นเพลงที่ 3 ซึ่ง จัสติน บีเบอร์ ร่วมงานด้วยและขึ้นถึงท็อป 5 นับตั้งแต่ Cold Water ของ เมเจอร์ เลเซอร์ และ Let Me Love You - ของดีเจสเนค

สัปดาห์ที่ผ่านมา เพลง Despacito ขายผ่านการดาวน์โหลดได้ 8.6 หมื่นครั้ง เพลงนี้กระโดดไปสู่อันดับ 1 ของ Hot Digital Songs ขณะที่เอ็มวีเพลงนี้ในเวอร์ชั่นออริจินัลมีคนเปิดดูมากถึง 1,200 ล้านวิวตั้งแต่เดือน ม.ค. เป็นต้นมา

แดดดี แยงกี

แดดดี แยงกี ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า การที่เพลงของเขาประสบความสำเร็จจากการขายออนไลน์มากขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่าศิลปินลาตินนั้นสามารถเทียบเคียงกับศิลปินอเมริกันเมนสตรีมคนอื่นๆ “ผมรู้สึกมีความสุขมากที่ได้เห็นว่าอะไรเกิดขึ้น เมื่อ Dispacito กลายเป็นปรากฏการณ์ทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าเรามีกลุ่มคนฟังที่เป็นสากล ซึ่งก่อนหน้านี้เราไม่สามารถรู้จำนวนได้”

สำหรับ แดดดี แยงกี เขาเป็นศิลปินซึ่งเป็นที่รู้จักระดับโลกมานานกว่า 10 ปี ด้วยแรงหนุนจากอัลบั้ม Barrio fino และเพลง Gasolina เขาเป็นผู้ชนะรางวัลลาตินแกรมมี่อะวอร์ด ทั้งยังเป็นผู้ทรงอิทธิพล และทำให้แนวเพลงเร็กเกตันเป็นที่รู้จัก

ปีที่แล้ว แดดดี แยงกี ก็มีเพลง Shaky Shaky ที่โด่งดังขึ้นมา และในปีนี้เขาก็นับเป็นแรงผลักดันสำคัญ ซึ่งทำให้ Despacito ขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ โดยผู้สันทัดกรณีระบุว่า แดดดี แยงกี นั้นทำให้ตัวเองอยู่ในเทรนด์ดนตรีตลอดเวลา เขายังเป็นเจ้าแห่งการโปรโมทและการตลาด ไม่ว่าจะแบบเดิมๆ หรือในยุคดิจิทัล ซึ่งก็ต้องขอบคุณ “แพสชั่น” ทางดนตรีที่เขามีอย่างเหลือเฟือ ทั้งยังมองเห็นโอกาสที่ท้าทายอยู่ข้างหน้าเสมอ “ผมอยากจะสร้างสรรค์เพลงที่ดีกว่าเพลงก่อนหน้าอยู่ตลอด นั่นเป็นสิ่งที่ท้าทาย”

ลุยส์ ฟอนซี

ส่วน ลุยส์ ฟอนซี เขาเป็นนักร้องนักแต่งเพลงที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในประเทศที่ใช้ภาษาสเปน กระทั่งมายึดครองโลกและสร้างประวัติศาสตร์ด้วยเพลง Despacito

“เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมาก เรารู้เสมอว่าเพลงนี้มีพลัง และมีส่วนผสมที่ถูกต้องสำหรับการเป็นเพลงยอดนิยมทางวิทยุ แต่เราไม่เคยคิดเลยว่า มันจะได้รับการตอบรับมากมายขนาดนี้” 

การที่มี จัสติน บีเบอร์ มาร่วมทำเวอร์ชั่นรีมิกซ์สร้างมิติซึ่งแตกต่าง และทำให้เพลงไปได้กว้างไกลยิ่งขึ้น การทำงานร่วมกันของพวกเขาเริ่มต้นระหว่างที่ จัสติน กำลังออกทัวร์อยู่ในโคลัมเบีย เขาได้ยินเพลงนี้ในคลับ และเห็นว่าคนฟังกรี๊ดกร๊าดคลั่งไคล้มากขนาด จัสติน เป็นฝ่ายติดต่อเข้ามาที่สังกัดของ ลุยส์ ก่อนจะกลายเป็นเพลง Despacito ซึ่ง จัสติน ร้องเนื้ออังกฤษในตอนต้นเพลง และมาร่วมร้องท่อนฮุกภาษาสเปนกับ ลุยส์ ด้วย “เนื้อภาษาสเปนของเพลงนี้ไม่ง่ายเลยนะ แต่จัสตินก็ทำได้ดีมาก คนลาตินต้องตบมือให้เขาเลย”

ลุยส์ ยังบอกอีกว่า “ผมมีความสุขมาก อยากขอบคุณสำหรับการสนับสนุน ผมภูมิใจที่เพลงภาษาสเปนประสบความสำเร็จ นี่เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ไม่เฉพาะสำหรับผมในฐานะศิลปินหรือเจ้าของเพลง แต่เป็นชัยชนะสำหรับดนตรีลาติน ผมมีความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง ได้เห็นชื่อของผมอยู่เคียงข้างกับเพลงอย่าง Macarena ซึ่งเป็นเพลงภาษาสเปนเพลงสุดท้ายที่ติดอันดับท็อป 10 ในชาร์ต  Hot 100 ตอนที่เพลงนี้ออกมาผมเพิ่งจะอายุ 10 ขวบ มันดังมากและมีความสำคัญทางวัฒนธรรมด้วย แม้คนอาจจะไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเนื้อพูดถึงเกี่ยวกับอะไรก็ตาม การที่ผมก้าวมาอยู่ตรงนี้ได้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ปลื้มสุดๆ ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำมัน ผมตั้งใจที่จะทำงานให้หนัก และหวังว่าผู้คนจะรู้จักเพลงของผมมากขึ้น...”

ลุยส์ ฟอนซี ปล่อย Despacito ออกเป็นซิงเกิ้ลแรก และซิงเกิ้ลที่ 2 ก็เตรียมไว้แล้ว ส่วนอัลบั้มเต็มนั้นมีแผนจะวางจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้