ปรมาจารย์ไทเก๊กแท็กทีมสู้MMA กู้ชื่อแมทช์โลกตะลึงพ่ายแค่10วิ
ปรมาจารย์ไทเก๊กจีนประกาศรับคำท้าดวลนักสู้ MMA หวังกู้ชื่อเสียง หลังคลิปไวรัลสนั่นโลกถูกคว่ำใน 10 วินาที
ปรมาจารย์ไทเก๊กจีนประกาศรับคำท้าดวลนักสู้ MMA หวังกู้ชื่อเสียง หลังคลิปไวรัลสนั่นโลกถูกคว่ำใน 10 วินาที
รับคำท้าสยบคำหยาม ปรมาจารย์ไทเก๊กจีนพร้อมเพรียงตกลงดวลนักสู้ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบผสม หรือ MMA นาม สวีเสี่ยวตง ที่กำลังเป็นที่ฮือฮาจากคลิปคว่ำอาจารย์ไทเก๊กรายหนึ่งในเวลาอันรวดเร็วเพียง 10 วินาที จนศิลปะการต่อสู้อายุนับพันปีกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เชิงลบไปทั่วโลกออนไลน์
คลิปที่เป็นไวรัลอันดับต้นๆ ของโลกอินเทอร์เน็ตเมื่อสุดสัปดาห์ ปรากฏภาพการต่อสู้ที่จัดขึ้นในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวนของจีน ระหว่างสวีเสี่ยวตง นักต่อสู้แนวศิลปะการป้องกันตัวแบบผสม หรือ Mixed martial arts ที่มักเรียกกันแบบสั้นๆ ว่า MMA และเหว่ยเล่ย ผู้เชี่ยวชาญด้านไทเก๊ก หรือไทชิ ในคลิป สวีเป็นฝ่ายรุกเหว่ยที่ตั้งการ์ดมือ ก่อนที่เหว่ยจะถูกต้อนจนล้มลงกับพื้น และถูกรัวกำปั้น ก่อนกรรมการจะจับทั้งคู่แยกออกจากกัน ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นและจบลงในระยะเวลาประมาณ 10 วินาทีเท่านั้น ท่ามกลางสายตาของกองเชียร์กว่าร้อยคน
สำนักข่าวซินาของจีนรายงานว่า การต่อสู้ครั้งนี้มีการนัดแนะตกลงกันตั้งแต่เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว หลังสวี อดีตนักสู้ MMA ผู้ผันตัวเป็นโค้ชฝึกสอนศาสตร์ด้านนี้ วัย 38 ปี ไปเขียนคอมเม้นท์ในบัญชีสังคมออนไลน์ เว่ยปั๋ว ของเหว่ย อาจารย์ไทเก๊กวัย 41 ปีว่า ไทเก๊กเป็นเรื่องหลอกลวง และไม่สามารถใช้ต่อสู้หรือป้องกันตัวได้ จึงเกิดการท้าดวลกันขึ้น
เมื่อคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกมาก็เป็นที่ฮือฮาอย่างมาก โดยเฉพาะในเครือข่ายสังคมออนไลน์จีน ซึ่งเกิดคำถามขึ้นมาถึงประโยชน์ของการฝึกศิลปะไทเก๊ก ที่ถือว่าเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวอย่างหนึ่ง ต่อมาเหว่ยให้สัมภาษณ์เปิดใจกับสำนักข่าวช่วงเย็น Legal ว่า ตัวเองไม่ได้ถูกต่อยขณะยืนอยู่หรือจนล้มลง แต่ถูกหมัดของฝ่ายตรงข้ามตอนที่ล้มไปกับพื้นแล้ว และไม่บาดเจ็บด้วย ส่วนความคิดเห็นต่อแบบแผนการต่อสู้ เขายอมรับว่า ไทเก๊กเทียบไม่ได้กับการต่อสู้ท้าประลองแบบใหม่ แต่ยืนยันว่า ผู้ทรงคุณวุฒิไทเก๊กที่รวมถึงตัวเขาเองไม่ใช่พวกลวงโลกแน่นอน
ขณะที่สวีเสี่ยวตงก็ประกาศกับสื่อต่างๆ ว่า เขาใช้พละกำลังเพื่อพิสูจน์ว่าการต่อสู้ไทเก๊กเป็นสิ่งหลอกลวงจริงๆ ยืนกรานว่า บรรดาปรมาจารย์วิชานี้ล้างสมองผู้คน และพร้อมเข้าสู่สังเวียนสู้กับบุคคลกลุ่มนี้อีกครั้งด้วย
ล่าสุดจึงมีผู้เชี่ยวชาญด้านไทเก๊กอย่างน้อย 5 ราย ประกาศรับคำท้าดวลสู้แล้ว ได้แก่ อาจารย์ด้านไทเก๊ก ลู่ซิง และหวังจั้นไห่ หลี่ชางเสี้ยน ผู้เชี่ยวชาญวิชากังฟูจากเส้าหลิน จวงเหมยฮัว อาจารย์ด้านมวยจีน และอี้หลง นักบวชผู้มีชื่อเสียงด้านศิลปะการต่อสู้
ทั้งนี้ เจตนาหลักของผู้รับคำท้ารายใหม่ ต้องการลบคำสบประมาทถึงศาสตร์เก่าแก่ของพวกเขา ลู่ซิงให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวธุรกิจเฉิงตู ว่า ต้องการสั่งสอนสวี ที่มีอคติกับศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิม และพูดจาดูหมิ่น โดยมั่นใจประมาณ 80% ว่าจะชนะสวี ด้วยการใช้กำปั้นและแผ่นหลังที่แข็งแกร่งดุจเหล็ก รวมถึงฝีเท้าที่โจมตีได้ไว้ในอากาศ ซึ่งฝึกฝนมานานกว่า 20 ปี
ส่วนหวังจั้นไห่ ผู้ท้าชิงอีกรายจากมณฑลเหอหนาน ตั้งใจใช้ไทเก๊กแบบเฉินสู้กับนักสู้ MMA เพื่อจัดการกับคำวิจารณ์โจมตีไทเก๊กในโลกออนไลน์ โดยสไตล์เฉินจะมีลักษณะการเคลื่อนที่ช้าเร็วสลับกัน และการปล่อยพลังใส่คู่ต่อสู้
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านไทเก๊กในจีนเองก็ยอมรับว่า ศิลปะการต่อสู้แขนงนี้วิวัฒนาการตัวเองจนกลายเป็นการออกกำลังเพื่อสุขภาพ มากกว่าเป็นเทคนิคการต่อสู้เหมือนในอดีต โดย เจียงลู่กุ่ย ประธานสถาบันวิจัยไทเก๊กเถาฮัว ในมณฑลเสฉวนของจีน มีความเห็นว่า ไทเก๊กในปัจจุบันไม่เหมือนอดีตดังที่กล่าวมาข้างต้น และเน้นการแสดงท่วงท่า จนเกรงว่าเหล่าผู้ช่ำชองที่รับคำท้าจะพ่ายแพ้การต่อสู้ เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ฝึกฝนด้านการโจมตี
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญไทเก๊กจากสมาคมศิลปะการป้องกันตัวกรุงปักกิ่งแนะว่า คู่แข่งระหว่าง MMA และไทเก๊กไม่ควรประลองกันเลย เพราะศาสตร์สองอย่างไม่ได้ใช้กฎกติกาแบบเดียวกัน จึงไม่อาจตัดสินวัดผลใดๆ ได้
ที่มา www.m2fnews.com


