คิงคอง ต่อต้านสงครามเวียดนาม

โดย...เพรงเทพ

จากปฐมบทในปี 1933 คิงคอง โดย แมเรียน ซี.คูเปอร์ จนมาถึง คิงคอง ของ ปีเตอร์ แจ็กสัน ในปี 2005 เรื่องราวของคิงคองที่นำเสนอบนแผ่นฟิล์มยังมีเสน่ห์ตราตรึงผู้ชมเสมอ ไม่ว่าจะตีความหรือดัดแปลงไปอย่างไร? แต่หัวใจและชีพจรของหนังทั้งหมด จุดศูนย์กลางยังอยู่ที่ลิงยักษ์ใหญ่ตัวนี้

 แต่เมื่อมองให้ลึกลงไป จากหนังเพื่อความบันเทิงแนวแอ็กชั่นแฟนตาซี ที่มีสัตว์ประหลาดดึกดำบรรพ์เน้นความตื่นเต้นและลุ้นกับการต่อสู้ระหว่างคนกับสัตว์ยักษ์ และสัตว์ประหลาดยักษ์ด้วยกันเอง ผสมผสานลีลาเขย่าขวัญเข้าไปอาจจะมีสารที่ผู้กำกับการแสดงและคนเขียนบทตั้งใจซ่อนอยู่อย่างแนบเนียน ไม่โจ่งแจ้ง แต่ก็ไม่ยากที่จะล้วงลงไปรับรู้ความรู้สึกในส่วนนี้ได้ในคิงคองแต่ละเวอร์ชั่น

 “Kong : Skull Island” (คอง มหาภัยเกาะกะโหลก) คิงคองเวอร์ชั่นล่าสุด มีการตีความของคิงคองเวอร์ชั่นนี้ นำไปผูกโยงกับสงคราม 2 สงครามที่อยู่ห่างกัน 29 ปี

 คือในปี 1944 ซึ่งเป็นสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามเวียดนามในปี 1973 ผ่านตัวละครนักบินแห่งกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ร.ท.แฮงค์ มาร์ลโลว์ ซึ่งติดอยู่ที่เกาะกะโหลกมนุษย์แห่งนี้กับชนเผ่าพื้นเมือง โดยมีคิงคอง เปรียบประดุจเทพเจ้าคอยปกป้อง 

 การมาถึงใน 29 ปีต่อมา ในนามของนักสำรวจที่มีวาระซ่อนเร้นและผลประโยชน์แอบแฝง โดยเฉพาะการพิสูจน์ความเชื่อของตัวเอง ผ่านทีมของบิล แรนด้า นักวิทยาศาสตร์อาวุโสจากลุ่มโมนาร์ช ที่เชื่อว่าเกาะกะโหลกในมหาสมุทรแปซิฟิกคือประตูเชื่อมโลกใต้พิภพที่มีบรรดาสัตว์ดึกดำบรรพ์อาศัยอยู่มากมาย

 เมื่อมองจากด้านบนจะเห็นเป็นรูปหัวกะโหลก ไม่ปรากฏในแผนที่ เพราะท้องฟ้าและบรรยากาศถูกฝนฟ้าคะนองพายุฟ้าร้องฟ้าผ่าปกคลุมเป็นม่านหนาทึบล้อมรอบ

 คิงคองเวอร์ชั่นนี้ ตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมานับตั้งแต่ในหนังฉบับแรกที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 83 ปีก่อน และปะทะกับตัวร้ายที่เป็นกิ้งก่าอสูรกาย สกัลคลอว์เลอร์ สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่จากยุคบรรพกาล น่ากลัวและดุร้ายที่สุดอีกสายพันธุ์หนึ่งบนเกาะหัวกะโหลก ซึ่งเป็นศัตรูตัวเอกของคิงคอง และฆ่าพ่อแม่ของคิงคอง

ดาราแสดงในหนังเรื่องนี้เยอะมาก เป็นทีมใหญ่ แต่ก็ไม่มีใครโดดเด่นออกมามากมาย มีการเสริมเอา เทียน จิง นางเอกชาวจีนจากหนัง “The Great Wall” เข้ามาเสริมเพื่อเอาใจคอหนังชาวจีนและคนเอเชียไปในตัวด้วย รวมถึงการถ่ายทำที่ใช้สถานที่คือ โกลด์โคสต์ ออสเตรเลีย โอวาฮู ในฮาวาย และฮาลอง ในเวียดนาม ซึ่งก็น่าจะส่งเสริมการท่องเที่ยวตามรอยหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยากนัก

 ว่าไปแล้วถ้าจะตีความหนังเรื่องนี้ให้ลึกไปอีกมิติหนึ่ง โดยข้ามผ่านหลักใหญ่ใจความเดิมคือเรื่องการผจญภัย คิงคองและสัตว์ประหลาดดึกดำบรรพ์ใหญ่ยักษ์ที่อาศัยอยู่ในโลกใต้พิภพ ผู้กำกับการแสดง จอร์แดน โวกต์-โรเบิร์ต ซึ่งเป็นมือรางวัลจากเทศกาลหนังซันแดนซ์ เทศกาลหนังอิสระในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมากำกับ หนังฮอลลีวู้ดเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก โดยที่เขาพยายามจัดวางสมดุลคิงคองแบบเดิมๆ ให้เข้ากับแก่นความคิดต่อต้านสงครามของเขา โดยใช้สงครามเวียดนามเป็นตัวจุดปะทุ

จะเห็นได้ว่า ผู้พันเพรสตัน แพคการ์ด ที่รับบทโดย ซามูเอล แอล.แจ็กสัน จะเป็นตัวแทนของพวกบ้าอำนาจ รักพวกพ้องแบบอเมริกันนิยม มีอัตตาสูงล้ำโดยไม่สนใจผลเสียที่จะตามา ซึ่งเป็นสัญญะที่แทนสงครามเวียดนามที่อเมริกันพ่ายแพ้ สิ่งนี้ถูกตอกย้ำไปในหลายช่วงของหนัง โดยเฉพาะในบทสนทนาอย่าง “คุณคงไม่เดินเข้าบ้านของคนอื่นแล้วทักทายด้วยการทิ้งระเบิดใส่” เปรียบเทียบการบุกเวียดนามกับการบุกเข้าเกาะกะโหลกของคิงคอง

 หากสงครามเวียดนามคือการบุกรุกของอเมริกา และเป็นความอัปยศของประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ชัยชนะของนักต่อต้านสงคราม ซึ่งมีสัญญะผ่านรูปตุ๊กตาหัวสั่นหน้าเฮลิคอปเตอร์ อีกด้านสงครามโลกครั้งที่ 2 คือวันชื่นคืนสุขของอุดมการณ์สงครามเพื่อโลก ผ่านตัวละคร ร.ท.แฮงค์ มาร์ลโลว์ นักบินกองทัพอากาศอเมริกาที่ได้กลับบ้านพบครอบครัวในชิคาโกในอีก 30 ปีต่อมา