มาตรวจสอบฮอร์โมนอายุยืนกันเถอะ!

โดย...บีเซลบับ ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์

สิ่งที่คนอายุยืนมีเหมือนกันหรือสิ่งที่จะเป็นจุดสังเกตความชรา คือตัวบ่งชี้ทางกายภาพหรือไบโอมาร์กเกอร์ (Biomarker) ค่านี้จะทำให้เราทราบตัวเองว่า จะมีอายุยืนยาวหรือไม่! วันนี้ลองมาเชิญชวนคุณผู้อ่านโพสต์ทูเดย์ ให้ทำการตรวจสอบไบโอมาร์กเกอร์ดูซิว่า เราท่านจะอายุยืนยาวอีกแค่ไหน

สถาบันวิจัยผู้สูงอายุแห่งชาติเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา ได้สำรวจสุขภาพของประชากรในเมืองบัลติมอร์แบบต่อเนื่องและยาวนานมาตั้งแต่ปี 1978 ผลการเก็บสำรวจข้อมูลจากผู้ชายสุขภาพดี มีอายุเกิน 65 ปี ในระยะเวลา 35 ปี พบว่า คนที่อายุยืนและมีสุขภาพดีจะมีจุดหรือปัจจัยร่วมกันที่เหมือนกันใน 3 ประการคือ

1.อุณหภูมิร่างกายต่ำ

2.ความเข้มข้นของอินซูลินในเลือดต่ำ

3.ค่า DHEA-S ในเลือดสูง

ในประเด็นเรื่องอุณหภูมิร่างกายต่ำ ลองนึกย้อนไปเรื่องการค้นพบยีนอายุยืน Sir-2 ที่ยีสต์ในตู้เย็นดู ซึ่งตู้เย็นก็มีอุณหภูมิต่ำอยู่แล้ว ขณะที่ลิงซึ่งเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตที่มีอายุยืนและแข็งแรงในการทดลองจำกัดปริมาณแคลอรี ก็พบว่ามีอุณหภูมิร่างกายต่ำเช่นกัน

สำหรับความเข้มข้นของอินซูลินในเลือดระดับต่ำ มนุษย์เราเมื่ออยู่ในสภาวะที่ร่างกายอุณหภูมิต่ำการเผาผลาญของร่างกายจะลดลง ร่างกายจึงสามารถควบคุมการทำงานให้น้อยที่สุด ไม่ต้องใช้พลังงานส่วนเกิน ซึ่งมีผลต่อระดับอินซูลินในร่างกาย ดังนั้น หนึ่งในเคล็ดลับการมีอายุยืนก็คือ การไม่ใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลืองนั่นเอง

ปัจจัยสุดท้าย คือ ค่า DHEA-S (Dehydroepiandrosterone Sulfate) ดีไฮโดรอิพิแอนโดรสเตอโรน ซัลเฟต เป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนเพศ ได้แก่ เทสโทสทอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย และเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง ทั้งนี้ ฮอร์โมน DHEA-S มีค่าต่ำมากในช่วงก่อนเข้าสู่วัยรุ่น แต่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังช่วงวัยรุ่นจนขึ้นสูงสุดเมื่ออายุประมาณ 20 ปี จากนั้นจะลดลงตามอายุที่มากขึ้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ กลุ่มนักวิจัยของศาสตราจารย์นาวาตะ ฮาจิเมะ แห่งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยคิวชูได้ตรวจสอบผู้หญิงสูงอายุที่มีอายุเกิน 90 ปี พบว่ามีผู้หญิงที่ค่า DHEA-S สูงพอๆ กันกับคนอายุ 40 ปี ปรากฏว่าสุภาพสตรีผู้นั้นมีสุขภาพที่แข็งแรงมาก ไม่มีโรคจากการใช้ชีวิต และเมื่อให้ทำแบบทดสอบโรคสมองเสื่อม ก็ไม่มีปัญหาด้วย

แม้ในปัจจุบันยังไม่แน่ชัดว่า DHEA-S ทำงานอย่างไรในร่างกายของเรา แต่ศาสตราจารย์นาวาตะได้วิเคราะห์ผลการศึกษาร่างกายที่ได้รับ DHEA-S ชี้ว่า ฮฮร์โมนดังกล่าวมีผลและปัจจัยเกี่ยวเนื่องในการช่วยลดการอักเสบในร่างกาย มีผลในการป้องกันหลอดเลือดแข็งตัวและช่วยในการทำงานของอินซูลิน ดังนั้น ถ้ามีฮอร์โมนชนิดนี้มากๆ จะไม่เพียงเป็นโรคจากการใช้ชีวิตอย่างเช่นหลอดเลือดแข็งตัวยาก แต่ยังอาจช่วยต่อต้านพยาธิสภาพโรคอื่นๆ ได้ด้วย

สุดท้ายยังมีข้อมูลด้านอินซูลินที่ระบุว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่อายุเกิน 100 ปีมีจำนวนน้อยมาก นอกจากนี้พบว่าพยาธิตัวกลมที่ตัวรับสัญญาณอินซูลินไม่ทำงาน พยาธิตัวกลมในกลุ่มนี้จะมีอายุขัยเพิ่มเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับพยาธิตัวกลมในสภาพแวดล้อมเดียวกัน ในกรณีของพยาธิตัวกลมที่เมื่อตัวรับสัญญาณอินซูลินไม่ทำงาน แม้พวกมันมีอาหารอยู่รอบตัวก็จะคิดว่าไม่มีอาหารและเข้าสู่ภาวะจำศีล การเผาผลาญลดลงจนมีอายุยืน

รายงานจากคณะคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยคิวชู ยังระบุต่อไปว่า ในมนุษย์มีความผิดปกติเกี่ยวกับอินซูลินใน 2 กรณี กรณีแรก แม้ว่าจะมีน้ำตาลกลูโคสเข้ามาในกระแสเลือด อินซูลินก็ไม่หลั่งออกมาหรือออกมาน้อย อีกกรณีคืออินซูลินที่หลั่งออกมาไม่มีประสิทธิภาพ ร่างกายจึงออกคำสั่งให้หลั่งอินซูลินเพิ่มอีก เป็นเหตุให้ตับอ่อนที่มีหน้าที่หลั่งอินซูลินรับภาระหนักจนมีสภาพแย่หรือเสื่อม

“ถ้ามีปริมาณอินซูลินน้อยก็แปลว่าตับอ่อนมีปัญหา ไม่ว่าแบบไหน ก็คือโรคเบาหวาน แต่หากระดับอินซูลินในเลือดต่ำ ก็หมายความว่า อินซูลินมีประสิทธิภาพดี จึงเพียงพอในปริมาณน้อยนั่นเอง”

อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า ฮอร์โมนทั้งสองชนิดนี้ คือฮอร์โมนที่ตัดสินการมีอายุยืนของเรา ตามโรงพยาบาลทั่วไป สามารถวัดค่าเหล่านี้ให้เราได้ ทั้งระดับอินซูลินในเลือด และค่า DHEA-S ในเลือด เพราะฉะนั้นจึงน่าที่จะได้ไปลองวัดดูสักครั้ง เพื่อประเมินสุขภาพและอายุที่ยืนยาว