posttoday

บุคลิกภาพที่ดี

09 มกราคม 2560

โดย...ชลญ่า ภาพ... เอเอฟพี

โดย...ชลญ่า ภาพ... เอเอฟพี

ปีใหม่แล้วนะอะไรๆ ที่ไม่ดีๆ ไม่เข้าท่าก็ปรับเปลี่ยนใหม่ เสริมเติมแต่งใหม่กันได้แล้ว อย่างเรื่องบุคลิกภาพก็เป็นเรื่องสำคัญ คำโบราณกล่าวไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่งสามารถนำมาใช้ได้เสมอกับทุกคนกับทุกสาขาอาชีพหรือแม้แต่การเป็นผู้บริหาร เพราะการมีบุคลิกภาพที่ดีย่อมมีเสน่ห์ดึงดูดใจคนอื่นและสร้างความมั่นใจในตัวให้กับตัวเอง

บุคลิกภาพจึงเป็นเสมือนภาพลักษณ์ภายนอกที่สำคัญ ถือว่าเป็นหน้าตาและกระจกส่องภาพลักษณ์ตนเองที่มีต่อสายตาผู้อื่นการสร้างบุคลิกภาพที่ดี จึงไม่ยากขึ้นอยู่กับความพร้อมและความต้องการของเราว่าพร้อมที่จะสร้างให้เกิดมีในตัวเราแล้วหรือยัง ถ้าพร้อมก็อย่าผัดวันประกันพรุ่ง เริ่มสร้างตั้งแต่วันนี้เลย

ขอบอกก่อนว่าบุคลิกภาพที่ดีนั้นเราไม่ได้โฟกัสที่จุดใดจุดหนึ่งเป็นพิเศษ แต่ดูกันตั้งแต่หัวจรดเท้า ภายนอกตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผม การแต่งกาย อิริยาบถต่างๆ เช่น การยืน การเดิน การนั่ง การเคลื่อนไหว ตลอดจนการใช้สายตา คำพูด หรือแม้แต่พฤติกรรมอื่นๆ เช่น ผิวปาก ยักคิ้ว ก็เป็นเรื่องของบุคลิกภาพทั้งสิ้น มาดูว่าเราสามารถพัฒนาหรือเสริมบุคลิกภาพของเราตรงไหนได้บ้าง  

ทรงผมใครว่าไม่สำคัญ

อย่างที่บอกว่าบุคลิกภาพที่ดีต้องดูตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะฉะนั้นส่วนบนของร่างกายเราทรงผมก็เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้แน่นอน ก่อนออกจากบ้านอย่าลืมส่องกระจกดูว่าเห็นทรงผมตัวเองแล้วมั่นใจแค่ไหนที่จะก้าวออกจากบ้านไปทำงานหรือไปติดต่อกับบุคคลต่างๆ ถ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ก็รีบจัดการให้เรียบร้อย อ้อ ส่วนจะเป็นทรงแบบไหนนั้นควรให้เหมาะสมกับกาลเทศะ โอกาส และบุคลิกภาพของตนเองด้วย เช่น ถ้าจะเข้าพบลูกค้าที่เป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กรแล้วเลือกแต่งทรงผมแบบเอากิ๊บมาติดไว้ข้างๆ หู ก็ต้องบอกว่ามันไม่ใช่

แต่งกายเหมาะสมเรียบร้อย

การแต่งกายเป็นเรื่องที่ต้องบอกว่าสำคัญมากๆ และควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ อย่างแรกเสื้อผ้าต้องสะอาดและไม่มีกลิ่นอับหรือเหม็น เพราะแม้ว่าเสื้อผ้าจะราคาสูงแค่ไหนแต่ถ้าไม่สะอาดหรือมีกลิ่นแล้วออกจากบ้านก็ต้องบอกว่าหมดท่า เสื้อผ้าจึงต้องสะอาดถ้ามีกลิ่นหอมด้วยก็จะดี แต่ถ้าไม่มีก็ต้องไม่เหม็นอับและควรรีดให้เรียบร้อย

นอกจากเสื้อผ้าต้องสะอาดแล้วก็ควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมกับรูปร่างและบุคลิกลักษณะของเรา ที่สำคัญอย่าลืมดูความเหมาะสมของบุคคลและสถานที่ที่เราจะเข้าไปพบด้วย สมมติบริษัทอนุญาตให้พนักงานแต่งชุดฟรีสไตล์มาทำงานในวันศุกร์ได้ แต่กลับใส่กางเกงขาสั้น เสื้อยืด ทั้งที่ต้องไปหาลูกค้าข้างนอกมันก็ไม่ใช่

ยืน เดิน นั่งสง่าเข้าไว้

สามอิริยาบถนี้ใครว่าไม่สำคัญ เพราะท่าเดิน นั่ง ยืน สามารถบ่งบอกได้ถึงลักษณะนิสัยใจคอของคนคนนั้นได้ว่าเป็นคนอย่างไร คนบางคนเดินแกว่งแขนไปมาเหมือนอยากหาเรื่อง บางคนยืนหรือเดินห่อไหล่เหมือนขาดความมั่นใจ เพราะฉะนั้นสามอิริยาบทที่ว่าควรสง่าเข้าไว้ เดินตัวตรง รู้จักจังหวะในการเดิน อย่าให้มีเสียงดัง การยืนก็ควรยืนให้สง่า ตัวตรง แขนวางลงข้างตัวตามธรรมชาติ เวลานั่งสำรวมกิริยาอาการให้มาก มีความสุภาพ หลักง่ายๆ ก็คือยืนนั่งยืดตัวหน้าตรง เดินแกว่งแขนไปมาเล็กน้อยแค่นี้ก็งามแล้ว ถ้ามากกว่านั้นก็ไม่น่าดู

สายตาและแววตาเปี่ยมด้วยพลัง

สายตาและแววตาที่แสดงออกมาเป็นเสน่ห์ดึงดูดใจผู้อื่นได้ แต่ต้องมีพลังในตาคู่นั้นคือ ต้องไม่ดูเศร้าหมอง สลดหดหู่ หรือสีหน้าอิดโรยเหมือนคนไม่ได้หลับได้นอน ลองคิดดูว่า ถ้าเรามีสายตาและแววตาอย่างนี้คนอื่นที่เห็นจะรู้สึกอย่างไรและคงไม่มีใครอยากจะคุยด้วยแน่

นอกจากนี้ เวลาคุยกับใครก็ควรสบตากับผู้ที่พูดเป็นการให้เกียรติ ไม่ควรหลบหรือหลีกเลี่ยงการปะทะสายตา แต่ว่าการสบสายตานั้นจะต้องมิใช่ลักษณะของการจ้องเขม็งเหมือนคนจะหาเรื่อง แต่ควรเป็นการแสดงออกด้วยความรู้สึกเอาใจใส่และความปรารถนาที่อยากจะพูดคุยด้วย รวมถึงการมีแววตาที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ ความเป็นกันเอง และความร่วมมือต่างๆ

คำพูดและน้ำเสียงสุภาพน่าฟัง

หลายคนตายเพราะน้ำเสียงและคำพูดของตัวเอง เพราะใช้คำพูดที่ไม่สุภาพหรือแสดงถึงความก้าวร้าวต่อคนอื่น เช่น มีสมองไว้คั่นหูอย่างเดียวหรือไงเนี่ย ถ้าใครถูกว่าด้วยคำอย่างนี้คงรู้สึกแย่มากๆ เพราะฉะนั้นมีหลายวิธีที่จะป้องกันมิให้เราตายเพราะคำพูด สิ่งแรกคือ นิ่งเงียบ ใช้สถานการณ์ของการเงียบสยบความรู้สึก ไม่พูดจะดีกว่าพูดออกมา แต่ถ้ารู้สึกอึดอัดทนไม่ไหวต้องพูดก็ควรใช้คำพูดแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น หรือหลีกเลี่ยงการใช้คำพูดเชิงดูถูก เหน็บแนม หรือคำพูดก้าวร้าว

นอกจากนี้ ในการพูดควรพูดให้เกิดความน่าสนใจและน่าติดตาม แต่ควรต้องฝึกการพูดให้มีจังหวะจะโคน ต้องรู้ว่าเวลาไหนควรเงียบ เวลาไหนควรพูดต่อ ต้องมีการเว้นวรรค มีเสียงดัง เสียงเบา เสียงเน้น เสียงย้ำ มีการยืดเสียง อย่าลืมว่า ผู้พูดที่มีจังหวะในการพูดมักจะประสบความสำเร็จมากกว่าผู้พูดที่พูดติดต่อกันไปเรื่อยๆ ยาวๆ โดยไม่มีจังหวะในการพูด

ระวังพฤติกรรมอื่นที่ไม่เหมาะสม

การแสดงพฤติกรรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการเอามือล้วงกระเป๋า ผิวปาก ยักคิ้ว ยักไหล่ เวลาพูดคุยกับผู้อื่น หรือแสดงพฤติกรรมอื่นๆ ที่แปลกไปจากคนอื่น ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรกระทำ เพราะจะทำให้ดูแล้วเสียบุคลิกภาพ ภาพลักษณ์ ดูไม่งาม และทำให้ขาดความน่าเชื่อถือศรัทธาต่อผู้พบเห็น

เพราะฉะนั้นอย่าเผลอสติแสดงพฤติกรรมผิดปกติที่แปลกไปจากคนอื่นดังที่กล่าวมา รวมถึงการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นไม่ควรต่อว่าหรือแสดงความโกรธเคือง หากมีใครมาบอกกล่าวหรือตักเตือนว่าเราแสดงพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่ควรทำ พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ส่งผลดีต่อบุคลิกภาพของเราแน่นอน ดังนั้นควรพยายามลดละเลิกให้ได้ เพราะไม่อย่างงั้นก็จะกลายเป็นความเคยชินเป็นพฤติกรรมที่ติดตัวอยู่ตลอดเวลา 

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้