posttoday

หล่อ เท่ สมาร์ท @40-50-60

15 ธันวาคม 2559

เป็นเรื่องธรรมดาที่ยุคนี้ใครๆ ก็หันมาดูแลตัวเอง ไม่เพียงแค่ผู้หญิงเท่านั้น เดี๋ยวนี้ผู้ชายก็หันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น บางคนยังหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์ม ใบหน้าหล่อเหลา ผิวพรรณสดใส

โดย...ภาดนุ ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี/เสกสรร โรจนเมธากุล/ภัทรชัย ปรีชาพานิช

เป็นเรื่องธรรมดาที่ยุคนี้ใครๆ ก็หันมาดูแลตัวเอง ไม่เพียงแค่ผู้หญิงเท่านั้น เดี๋ยวนี้ผู้ชายก็หันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น บางคนยังหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์ม ใบหน้าหล่อเหลา ผิวพรรณสดใส และดูอ่อนกว่าวัยเป็นอันมาก ดูอย่าง 3 หนุ่ม 3 วัย ที่เราภูมิใจนำเสนอนี่สิ แต่ละคนยังดูดี หล่อ สมาร์ท จนสาวๆ เห็นแล้วยังต้องออกปากชื่นชมกันเป็นแถว เดาได้ไม่ยากเลยว่าแต่ละคนต้องมีเคล็ดลับคงความหนุ่มของตัวเองไว้แน่นอน

40 แล้ว แต่หุ่นยังแจ๋ว เท่บาดใจ

ถ้าพูดถึงหนุ่มวัย 40 อัพ ที่หุ่นยังฟิตแอนด์เฟิร์มดูหล่อเหลา ชื่อของดารามากความสามารถ โอ๊ต-วรวุฒิ นิยมทรัพย์ (วัย 45 ปี) ก็ปรากฏขึ้นในหัวเราทันที แม้ช่วงนี้แฟนละครอาจไม่ค่อยเห็นโอ๊ตทางหน้าจอทีวี เพราะเขาหันไปเอาดีทางด้านการเป็นผู้กำกับละคร โดยร่วมหุ้นกับเพื่อนๆ ในวงการเปิดบริษัท โซนิค บูม เพื่อผลิตละครขึ้นมา ที่ผ่านตาคนดูไปก็คือเรื่อง “ดวงใจพิสุทธิ์” ทางช่อง 3 แล้วยังต้องดูแลกิจการร้านอาหารชื่อ “ริมผา ลาพิน” ที่พัทยาอีกล่ะ (โอ๊ย! งานแน่น) ในฐานะที่โอ๊ตเป็นตัวแทนหนุ่มวัยเลข 4 ที่ยังดูดี๊ดูดี ลองบอกเคล็ดลับให้รู้หน่อยจะเป็นไร

“เคล็ดลับในการดูแลตัวเอง สิ่งที่ขาดไม่ได้ตั้งแต่ผมเข้าวงการบันเทิงโดยเริ่มจากเป็นนายแบบตอนอายุ 18 ปี ก็คือการออกกำลังกาย เพราะสมัยก่อนคนจะชอบนายแบบที่ตัวสูง กล้ามใหญ่ ตอนนั้นผมสูง 181 ซม. หนัก 76 กก. (ปัจจุบันหนัก 81 กก.) ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ นอกจากออกกำลังกาย สิ่งที่ผมใส่ใจมาตลอด 20 กว่าปีที่อยู่ในวงการก็คืออาหารและอากาศ โดยส่วนตัวผมชอบเที่ยว จึงมักจะออกไปสูดอากาศตามต่างจังหวัดบ่อยๆ ส่วนเรื่องอาหารผมชอบกินอาหารพื้นถิ่นอย่างน้ำพริกผักสดและสมุนไพรที่ชาวบ้านกินกัน เช่น หอม กระเทียม ผักชี เพราะมันมีประโยชน์มากๆ ผมจะไม่ชอบอาหารสไตล์ฟิวชั่นอย่างที่คนเมืองชอบกิน ยิ่งอาหารจังก์ฟู้ดนี่ผมจะไม่กินเลย ก็เลยไม่ค่อยอ้วน”

โอ๊ตบอกว่า เขาอาจจะโชคดีที่เป็นคนน้ำหนักขึ้นง่าย-ลงง่าย ถ้าช่วงไหนน้ำหนักขึ้นมาเยอะหน่อยก็จะควบคุมการกิน แค่ไม่นานน้ำหนักก็จะลดลงได้เอง

หล่อ เท่ สมาร์ท @40-50-60 โอ๊ต-วรวุฒิ นิยมทรัพย์

 

“สำหรับการออกกำลังกาย ส่วนมากผมจะเล่นเวต แต่ช่วงหลังก็มีตีแบดและปั่นจักรยานด้วย โดยพยายามทำให้สม่ำเสมอเป็นนิสัย อย่างช่วงนี้ไม่ค่อยได้เล่นเวต เพราะมัวแต่เลี้ยงลูกชาย (น้องโอลาฟ วัย 4 เดือน) แต่อย่างน้อยก็ขอให้ได้ไปตีแบดสัปดาห์ละครั้งก็ยังดี เพราะตีแบดแค่ 2 ชม. ก็เหงื่อโทรมกายแล้ว เบิร์นแคลอรีได้เยอะมาก ช่วงไหนถ้าไม่ได้ออกกำลังกายแล้วผมจะหงุดหงิด ข้อดีของการออกกำลังกายก็คือ ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดี ซึ่งก็จะทำให้หน้าตาดูสดชื่นแจ่มใสไปด้วย

ส่วนการดูแลหน้าตาผิวพรรณ ผมจะเน้นล้างหน้าให้สะอาดเท่านั้น ครีมกันแดดนี่ไม่ค่อยได้ทาเท่าไหร่ ยิ่งตอนนี้ผมชอบขี่มอเตอร์ไซค์ไปต่างจังหวัดกับแก๊งเพื่อน โดนแดดโดนลมผิวยิ่งคล้ำไปใหญ่ แต่ช่วงไหนที่ต้องเล่นละครหรือเข้ากล้อง ก็อาจจะมีการไปทรีตเมนต์ผิวหน้าบ้างแค่นั้นเองครับ ส่วนเรื่องเส้นผมก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ชายหลายคนกังวล ผมก็ไปปรึกษาคุณหมอบ้าง ซึ่งหมอก็จะให้วิตามินมากินบำรุง จึงช่วยให้มั่นใจมากขึ้น เพราะการที่เราอยู่ในวงการบันเทิง เส้นผมต้องโดนสเปรย์และสารเคมีบ่อยๆ ถ้าไปดีทอกซ์เส้นผมบ้างก็น่าจะดี”

โอ๊ตทิ้งท้ายว่า สำหรับการดูแลด้านจิตใจ เขาจะใช้วิธีไปปฏิบัติธรรมกับเพื่อนๆ ผู้เป็นกัลยาณมิตรอย่าง ท็อป ดารณีนุช และแจง วราพรรณ แม้มีปัญหาใดๆ ในชีวิตก็จะมีเพื่อนๆ เป็นที่ปรึกษาและเป็นที่พึ่งทางใจได้เสมอ จึงเป็นการเสริมสร้างพลังงานที่ดีให้กับตัวเอง และทำให้จิตใจนิ่งขึ้น

“สำหรับคนที่แซวว่าการมีภรรยาอายุน้อยกว่า 20 ปีนั้น ทำให้จิตใจเราสดชื่นขึ้นรึเปล่า ผมว่าก็มีส่วนนะ เพราะเหมือนเราได้ย้อนวัยกลับไปในช่วงชีวิตที่ไม่เครียด เนื่องจากคนเราเมื่ออายุมากขึ้น เราจะสะสมความเครียดจากงานและการใช้ชีวิตไว้เยอะ ฉะนั้นเมื่อได้เห็นความสดชื่นของภรรยา ได้ไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกัน ก็ช่วยทำให้เราสดชื่นมีพลังในการต่อสู้ชีวิตได้เหมือนกัน” (ติดตามได้ที่ IG : oat_voravudh)

เข้าใกล้ 50 แต่ยังฟิตเปรี๊ยะ!!

มาที่ตัวแทนของหนุ่มวัยย่างเข้าสู่เลข 5 บ้าง ถ้ามองข้ามนักร้อง-นักดนตรีสุดหล่อคนนี้ไปคงจะดูกระไรอยู่ ใช่แล้วเรากำลังพูดถึง ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา (วัย 48 ปี) หรือ “พี่ก้อง นูโว” “พี่ก้อง เดอะวอยซ์” ของสาวๆ ที่ล่าสุดกำลังมีผลงานละครชุด Melodies of Life ตอน “เป็นอย่างงี้ตั้งแต่เกิด” ทางช่อง GMM 25 ว่ามีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้ดูเป็นหนุ่มสองพันปีแบบนี้

“ถ้าถามถึงเคล็ดลับในการดูแลตัวเอง ผมจะแบ่งเป็น 2 อย่างคือ ‘ดูแลร่างกาย’ และ ‘ดูแลจิตใจ’ ด้านร่างกายเริ่มจากการกิน ช่วงที่ผ่านมาผมกินเนื้อสัตว์น้อยลง โดยเฉพาะเนื้อวัวนี่จะไม่กินเลยมากว่า 20 ปีแล้ว หมู ไก่ นี่กินน้อยมาก แต่ที่กินประจำก็คือ ปลา อาหารทะเล และผัก พวกน้ำหวานนี่ผมจะไม่แตะเลยนะ อาจเพราะไม่ชอบด้วย ผมจะชอบน้ำผลไม้มากกว่า อีกอย่างคือผมไม่ชอบกินอาหารมัน จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นสักเท่าไหร่ แต่เสียอย่างคือชอบกินเค้กและช็อกโกแลต ซึ่งก็อาจทำให้น้ำหนักขึ้นได้ เราก็ต้องกินในปริมาณน้อยๆ แล้วออกกำลังกายทดแทน ก็จะช่วยควบคุมน้ำหนักได้ครับ

หล่อ เท่ สมาร์ท @40-50-60 ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา

 

สำหรับการออกกำลังกาย ผมจะไม่ค่อยเล่นเวตเท่าไหร่ แต่จะชอบปั่นจักรยานมากกว่า ส่วนใหญ่จะไปปั่นกับแก๊งเพื่อนๆ แถวบ้าน ถ้าเป็นการออกทริปก็จะปั่นจักรยานครั้งละหลายชั่วโมง ก็แล้วแต่ว่าคนในกลุ่มจะตกลงกันว่าปั่นไปที่ไหน ส่วนใหญ่เป็น ‘วัน เดย์ ทริป’ เช่น ขี่จักรยานไปกินอาหารที่เยาวราช ออกสตาร์ทสัก 5 โมงเย็น กลับถึงบ้าน 5 ทุ่ม อะไรแบบนี้ ซึ่งผมปั่นจักรยานมา 7-8 ปีได้แล้ว เวลาปั่นจักรยานก็มีทาครีมกันแดดบ้าง แต่ส่วนใหญ่เราจะไปกันตอนเย็น จึงไม่ค่อยโดนแดดซักเท่าไหร่ ส่วนในเรื่องของเส้นผม ผู้ชายทุกคนต้องมีปัญหาผมหงอก ผมเปลี่ยนสี ก็จะใช้วิธีทำสีผมบ้าง เนื่องจากเรายังต้องทำงานในวงการบันเทิง นอกจากนั้นก็ไม่ค่อยมีอะไรครับ”

สำหรับการดูแลจิตใจ ก้องบอกว่า โดยส่วนตัวแล้วเขาจะคิดแต่เรื่องที่ดีๆ เรื่องที่เป็นกุศลเท่านั้น อารมณ์สีดำ เช่น โกรธ เครียด เกลียด แค้น ต่างๆ เหล่านี้ เมื่อเกิดขึ้นก็ต้องมีสติรู้ตัว และรีบดับอารมณ์เหล่านั้นลงซะ

“พูดง่ายๆ ว่าเรื่องอารมณ์ เราต้องนำธรรมะเข้ามาใช้ด้วย จึงจะสามารถดับอารมณ์ที่ไม่ดีเหล่านี้ได้ แล้วจิตใจก็จะสดชื่นเบิกบาน ซึ่งมันจะแสดงออกมาให้ทุกคนเห็นได้ที่ใบหน้า อีกอย่างอาจเพราะอาชีพของผมคือนักร้อง-นักดนตรี ผมจึงไม่ค่อยเครียดและสนุกกับมัน ทำงานอย่างมีความสุข นี่ก็อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้อารมณ์ดี ซึ่งน่าจะช่วยให้ดูอ่อนกว่าวัยได้”

ก้องทิ้งท้ายว่า ถ้าถามว่าเสน่ห์ของตัวเขาอยู่ตรงไหน เขาคงไม่สามารถตอบได้ เพราะผู้หญิงแต่ละคนที่มองเขาก็จะชอบเขาในมุมมองที่แตกต่างกันไป แต่ถึงยังไงก็ต้องขอบคุณทุกคนมากๆ ที่ยังรักและชื่นชมในตัวเขาอยู่เสมอ (ติดตามได้ที่ FB : kongsaharatfanpage)

หล่อ สมาร์ท ดูดีในวัย 60

ถ้าพูดถึงดารารุ่นกลางที่ชื่อ ดิลก ทองวัฒนา แฟนละครวัยเลข 4 ขึ้นไปเป็นต้องร้องอ๋อ เพราะดิลกเป็นดาราคิวทองที่รับบทพ่อ ทั้งพ่อดี พ่อร้าย พ่อที่น่าสงสาร ฯลฯ ได้อินและตีบทแตกกระจายไปซะทุกบท จึงไม่แปลกที่เขาจะมีคิวถ่ายละครต่อเนื่องหลายเรื่องจนแทบไม่มีเวลาว่าง และเหนือสิ่งอื่นใด ดิลกในวัย 60 ปี ยังหล่อ สมาร์ท และดูดีกว่าคนในวัยเดียวกัน…หรือใครจะเถียง?!

“ผมเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งจนได้รู้ว่าความหมายของการมีสุขภาพดีก็คือ การที่เราใช้ศักยภาพทางร่างกายและจิตใจได้อย่างเต็มที่ อย่างผมเองก็เคยปล่อยตัวเองไปตามการใช้ชีวิตผิดๆ หรือ ‘โรควิถีชีวิต’ มาแล้ว คือพอทำงานเหนื่อยก็กินอร่อย กลับบ้านดูซีรี่ส์ ไม่ออกกำลังกาย ปล่อยให้น้ำหนักขึ้น เมื่อเป็นอย่างนั้นสัญญาณของโรคก็มา ทั้งคอเลสเตอรอลสูง ไขมันพอกตับ ฯลฯ ผมจึงคิดว่าไม่ได้ละ จะมามัวรอให้เกิดโรคขึ้นก่อนไม่ได้ ไม่งั้นจะลำบาก

หล่อ เท่ สมาร์ท @40-50-60 ดิลก ทองวัฒนา

 

ผมจึงปฏิวัติตัวเองโดยบอกภรรยาว่า จะไปเข้าฟิตเนสแล้วนะ ทั้งที่ตัวเองไม่เคยเล่นกีฬาเลย แต่รู้สึกว่าน้ำหนักตัวจะเยอะเกินไป ด้วยส่วนสูง 180 ซม. หนัก 81 กก. หลายคนอาจคิดว่ากำลังดี แต่ด้วยวัยของเรา ร่างกายมันจะออกแนวย้วยๆ ไม่ฟิตไม่เฟิร์ม ทั้งที่แต่ก่อนผมก็เคยลดน้ำหนักได้ถึง 8 กก. เพราะช่วงนั้นภรรยาทำเมนูสุขภาพให้กิน แต่พอน้ำหนักลดไปจริงๆ ร่างกายกลับดูเหี่ยวๆ ไม่แข็งแรง แถมยังมีคนทักว่าป่วยหรือเปล่าอีกต่างหาก”

เมื่อเป็นเช่นนั้นดิลกจึงจริงจังกับการเข้าฟิตเนส โดยเล่นทั้งเวต ทั้งออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ และเล่นโยคะตามภรรยา (ซึ่งตอนหลังเขาได้พบว่าโยคะมีประโยชน์ต่อคนทุกเพศทุกวัย เพราะช่วยยืดเหยียดร่างกายไม่ให้เจ็บปวดอย่างได้ผลที่สุด) ด้วยนิสัยที่ทำอะไรจริงจัง จึงทำให้เขาเข้าฟิตเนสต่อเนื่องมาเรื่อยๆ เกือบ 7 ปีแล้ว แม้ช่วงที่ต้องถ่ายละครอาจจะห่างหายจากฟิตเนสไปบ้าง แต่ก็ยังถือว่ารักษาระดับไว้ได้ดี

“นอกจากดูแลด้านร่างกายแล้ว จิตใจก็สำคัญ เมื่อก่อนผมจะชอบวิตกกังวลในเรื่องครอบครัว เป็นห่วงว่า ‘ยูกิ’ (ลูกชายวัย 21 ปี) จะเรียนไหวไหม เพราะเขาเรียนหมอ และ ‘มิกิ’ (ลูกสาววัย 19 ปี) ซึ่งเรียนนิเทศศาสตร์จะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ผมเริ่มปล่อยวางมากขึ้น และทำให้มันง่ายด้วยการรับฟังลูกๆ แล้วปล่อยให้เขาทำสิ่งที่เขาต้องการ เคารพในการตัดสินใจ และยอมรับในสิ่งที่เขาเลือก แค่นี้เราก็มีความสุขมากขึ้นและไม่รู้สึกกังวลแล้วล่ะ

ปัจจุบันนี้ผมก็ไม่ได้ป่วยเป็นอะไรเลยนะ แต่อีกมุมหนึ่งก็ต้องยอมรับในเรื่องอายุ ยอมรับสังขารในร่างกายที่เราเป็นไปด้วย ไม่ใช่ว่าอายุ 60 แล้ว แต่ยังมาออกกำลังกายหนักๆ แบบกระชากวัย อันนี้ก็ไม่ใช่ เพราะหากร่างกายเกิดบาดเจ็บขึ้นมาก็จะเยียวยายาก เอาเป็นว่าเราต้องรู้จักใช้ศักยภาพร่างกายของเราให้เต็มที่ในการดำรงชีวิตไปตามวัยอย่างเหมาะสมจะดีกว่า”

ดิลกทิ้งท้ายว่า หลัก 3 ข้อที่เขายึดถือว่าต้องมีความสมดุลกันก็คือ การออกกำลังกายให้ได้เหงื่อเป็นประจำ การกินอาหารที่ดี และการดูแลจิตใจให้มีความสุข ซึ่งทั้ง 3 ข้อนี้จะขาดข้อใดข้อหนึ่งไปไม่ได้ ที่สำคัญก็คือจะต้องมีวินัยและทำต่อเนื่องกันไปตลอดชีวิต แล้วทุกคนก็จะแข็งแรงดูดีสมวัยได้เอง

ข่าวล่าสุด

หลีกหนีความวุ่นวาย ฉลองปีใหม่สุดหรูบนเกาะส่วนตัวที่ นาคา ไอแลนด์