นิโคลัส แพรทลีย์ ครูสอนฟิตเนสระดับโลก
โดย...ภาดนุ ภาพ... วิศิษฐ์ แถมเงิน
โดย...ภาดนุ ภาพ... วิศิษฐ์ แถมเงิน
หนุ่มหล่อลูกครึ่งออสเตรเลีย-ฮ่องกง วัย 38 ปี นิโคลัส แพรทลีย์ คือครูสอนฟิตเนส (Instructor) และนักออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายชื่อดังระดับโลก ที่สั่งสมประสบการณ์ในแวดวงฟิตเนสมายาวนาน และใช้เวลาส่วนใหญ่ในการพัฒนาทักษะของตัวเองในแวดวงฟิตเนสที่มหานครนิวยอร์ก และเมืองลอสแองเจลิส จนกลายเป็น 1 ใน โซล ไซเคิล อิน
สตรักเตอร์ (Soul Cycle Instructor) ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในสหรัฐขณะนี้
“ผมก้าวเข้ามาสู่แวดวงเฮลท์แอนด์ฟิตเนสเมื่อ 15 ปีก่อน โดยเริ่มจากการเป็นครูสอนฟิตเนสในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย บ้านเกิด จากนั้นเมื่ออายุ 20 ปี ผมได้ย้ายไปลงหลักปักฐานอยู่ที่สหรัฐ โดยยึดอาชีพครูสอนฟิตเนสหรือผู้แนะนำการออกกำลังกาย และออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายที่ผมถนัดเรื่อยมา ซึ่งจุดเด่นของผมอยู่ที่การนำเสนอคลาสออกกำลังกายที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ เพื่อมุ่งเน้นให้ผู้ที่มาเข้าคลาสได้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
ตลอดระยะเวลาที่ผมคร่ำหวอดอยู่ในวงการฟิตเนส ผมจะยึดหลัก Whole-Listic เพื่อให้ผู้ออกกำลังกายทั่วโลกได้พัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้านอย่างดีที่สุด ไม่เพียงแต่ในด้านสุขภาพเท่านั้น แต่รวมไปถึงด้านสังคม อารมณ์ และความสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้างด้วย เพราะผมเชื่อว่าจะทำให้เกิดความสมดุลในชีวิตพวกเขาได้”
ด้วยแนวคิดอันเป็นเอกลักษณ์ของเขานี่เอง นำพาให้นิโคลัสก้าวหน้าในสายงานอาชีพด้านสุขภาพไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษาด้านสุขภาพในศูนย์ดูแลด้านสุขภาพต่างๆ หรือทำงานร่วมกับองค์กรเอกชนที่ไม่หวังผลกำไรต่างๆ เรียกว่า เขาฝากผลงานจนเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ถึงขนาดที่เซเลบริตี้แถวหน้า ดาราฮอลลีวู้ด นักร้อง และนางแบบชื่อดัง อย่าง บียอนเซ่ บริทนีย์ สเปียร์ส แบรดลีย์ คูเปอร์ อลานิส มอริสเซตต์ ชาร์ลิซ เทอรอน เคลลี่ ริพา ไรอัน ซีเครสต์ อเล็ก บอลด์วิน ฯลฯ ยังกลายมาเป็นแฟนคลับตัวยงของเขา และต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคลาส โซล ไซเคิล สตูดิโอ (Soul Cycle Studio) ของเขาที่นิวยอร์กและลอสแองเจลิส เป็นการออกกำลังกายที่สนุกและดีที่สุด
ล่าสุด นิโคลัสได้มานั่งแท่นเป็นที่ปรึกษาให้กับ แอบโซลูท ไซเคิล แบงค็อก (Absolute Cycle Bangkok) โดยบินมาร่วมกับทีมงานที่เมืองไทย ออกแบบโปรแกรมการสอนคลาสปั่นจักรยาน ให้เหมาะกับสรีระของคนเอเชียโดยเฉพาะ
“รูปแบบคลาสปั่นจักรยานที่ผมออกแบบนี้มีชื่อว่า ริธึ่ม ไซคลิ่ง (Rhythm Cycling) ซึ่งเป็นคลาสปั่นจักรยานที่ประกอบด้วยเพลงแดนซ์ในคลาสที่ทำให้ผู้ปั่นรู้สึกสนุกไปกับเสียงเพลง โดยคลาสนี้เป็นการผสมผสานระหว่างการออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Aerobic) ที่กล้ามเนื้อใช้ออกซิเจนเพื่อเผาผลาญพลังงาน และแอนแอโรบิก (Anaerobic) ที่กล้ามเนื้อไม่ได้ใช้ออกซิเจน จึงทำให้ผู้ที่ออกกำลังกายสามารถเผาผลาญพลังงานได้มากถึง 700-800 แคลอรี รวมทั้งช่วยให้หลั่งสารเอนดอร์ฟินได้มากขึ้น เหงื่อออกเยอะขึ้น เมื่อออกกำลังกายเสร็จแล้วจึงรู้สึกสดชื่นมากขึ้นด้วย”
นิโคลัส บอกว่า การที่เขาได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในสหรัฐ และมีโอกาสได้มาออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายที่เมืองไทย ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากรูปแบบการสอนที่ทันสมัยและแปลกใหม่ที่เขาได้
นำเสนอ เนื่องจากคลาสไซคลิ่งหรือคลาสปั่นจักรยานเป็นการออกกำลังกายที่เน้นการเคลื่อนไหวทุกสัดส่วน ด้วยการปั่นจักรยานช้าและเร็วตามจังหวะของเสียงเพลงตลอด 60 นาที โดยผสมผสานท่าออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอและการสร้างกล้ามเนื้อแขน ขา สะโพก และต้นแขนให้ฟิตแอนด์เฟิร์ม จึงโดนใจคนทุกเพศทุกวัยและทำให้พวกเขาชอบมาออกกำลังกายกันมากขึ้น
“ในฐานะที่ผมเป็นครูสอนฟิตเนสที่มีคนรู้จักพอสมควร ผมจึงต้องพัฒนาความสามารถของตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเราเป็นมืออาชีพทางด้านการออกกำลังกายจริงๆ วิธีของผมก็คือศึกษาจากครูสอนฟิตเนส คนอื่นๆ หาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายเพิ่มเติมเสมอ ฟังนักพูดที่เป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเองได้ ที่สำคัญคือดูแลสุขภาพของตัวเองและออกกำลังกายเป็นประจำ เพราะผมอยากเป็นต้นแบบที่น่าเชื่อถือของคนที่มาออกกำลังกายกับผม
สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกายใหม่ๆ โดยเฉพาะคลาสไซคลิ่งที่ผมคิดค้นขึ้นมานี้ ผมแนะนำว่าสิ่งแรกคือคุณอย่าไปกลัว ขอให้กล้ามาเข้าคลาสและสนุกไปกับการออกกำลังกาย ไม่ต้องไปกลัวคนที่เก่งอยู่แล้ว เพราะทุกคนล้วนต้องใช้เวลาในการพัฒนาทักษะของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น แค่คุณมาแชร์ประสบการณ์ร่วมกับผู้อื่นก็จะเกิดผลดีกับตัวคุณอย่างแน่นอน”
นิโคลัส เสริมว่า ปรัชญาในการทำงานของเขาก็คือ สนุกกับงานที่ตัวเองทำหรืองานที่ตัวเองรักให้เต็มที่ เพราะเขาเชื่อว่า แม้จะมีอุปสรรคใดๆ ผ่านเข้ามาก็จะสามารถก้าวข้ามอุปสรรคนั้นไปได้ ซึ่งเปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือนกับการสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น ถ้าไม่เหนื่อยหรือออกกำลังกายไม่หนักพอ แล้วกล้ามเนื้อจะมาได้อย่างไร ซึ่งถ้าร่างกายแข็งแรงแล้ว จิตใจเราก็จะแข็งแกร่งตามไปด้วย
“สำหรับแพลนในอนาคต นอกจากได้มาร่วมออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายและเป็นที่ปรึกษาให้กับ ‘แอบโซลูท ไซเคิล แบงค็อก’ แล้ว ผมยังอยากตั้งโรงเรียนสอนคลาสปั่นจักรยาน (Cycling Academy) ขึ้นที่กรุงเทพฯ ด้วย โดยตัวผมจะรับหน้าที่เป็น ‘มาสเตอร์ เทรนเนอร์’ ของครูสอนคลาสปั่นจักรยานอีกที เพื่อช่วยยกระดับและพัฒนาคุณภาพของการสอนในคลาส ให้มีมาตรฐานไปสู่ระดับสากลมากยิ่งขึ้น
คุณสมบัติสำคัญในการเป็นครูสอนคลาสปั่นจักรยานนั้น ต้องมีความรู้ในการออกกำลังกาย ต้องสามารถนำผู้คนในคลาสได้ ต้องมีความรู้เรื่องเพลงพอสมควร ว่าเพลงไหนเหมาะกับจังหวะหนัก จังหวะเบา ปั่นช้า หรือปั่นเร็ว เป็นต้น เพราะคลาสรึธึ่ม ไซคลิ่ง ที่ผมออกแบบมานี้ ต้องช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ที่มาลองเข้าคลาสได้กลับมาเข้าคลาสอีกเพื่อปลดปล่อยความเครียดให้หมดไป พูดง่ายๆ ว่าต้องสร้างพลังใจให้พวกเขาก้าวข้ามความเหนื่อยยากและอุปสรรคไปให้ได้ เพราะหากพวกเขาผ่านจุดนี้ไปได้ อุปสรรคใดๆ ในชีวิตก็จะสามารถข้ามผ่านไปได้เช่นกัน
โดยส่วนตัวผมแล้ว หากมีอุปสรรคใดเกิดขึ้นกับชีวิต หรือมีเรื่องท้าทายทางด้านอาชีพ หน้าที่หลักของผมก็คือ ต้องพยายามหาทางกำจัดอุปสรรคนั้นหรือหาทางแก้ไขมันให้ได้ ผมจะไม่ปล่อยปัญหาทิ้งไว้เด็ดขาด นอกจากอุปสรรคของตัวเองแล้ว หากครูสอนคลาสปั่นจักรยานมีปัญหาขึ้นมา ผมก็จะช่วยกำจัดอุปสรรคหรือแก้ปัญหาให้กับครูแต่ละคนด้วย เพราะถือว่าทุกคนคือทีมเดียวกัน”
นิโคลัส บอกว่า การเดินทางมาเมืองไทยในครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่ 4 ของเขาแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อ 14 ปีก่อน เขาเคยเดินทางมาท่องเที่ยวทั้งที่กรุงเทพฯ และที่ภูเก็ต ซึ่งทั้งสองสถานที่ก็มีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์แตกต่างกันไป
“สิ่งที่ผมชอบและรู้สึกประทับใจเมืองไทยมีหลายอย่างมาก ทั้งเรื่องอาหาร ความเป็นอยู่ และวัฒนธรรมของคนไทย รวมทั้งการได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคอมมูนิตี้สำหรับการออกกำลังกายในกรุงเทพฯ เช่นครั้งนี้ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกประทับใจด้วยเช่นกัน ในอนาคตผมมีโอกาสจะได้เดินทางมาเมืองไทยทุกๆ 3 เดือน เพราะต้องมาเป็นมาสเตอร์ เทรนเนอร์ ให้กับแอบโซลูท ไซเคิลฯ และมีแพลนว่าจะเปิดโรงเรียนสอนคลาสปั่นจักรยานอย่างที่บอกไปแล้วด้วยครับ”
นิโคลัส ทิ้งท้ายว่า ถ้ามีวันหยุดหรือวันว่าง ไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของเขาก็คือการเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก หากอยู่บ้านเขาจะชอบอ่านหนังสือและเล่นกับลูกสาวตัวน้อย และหาเวลาว่างไปสปาบ้างเป็นครั้งคราว นี่แหละคือการบาลานซ์ทั้งเรื่องงานและการใช้ชีวิตที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดแล้ว
ผู้ที่รักการออกกำลังกาย ติดตามไลฟ์สไตล์ของเขาได้ที่ IG : @nicholaspratley หรือ FB : nicholas.pratley


