พระราชธรรมวิเทศ หลวงพ่อใหญ่ประธานสงฆ์วัดไทยแอลเอ

วัดไทยลอสแองเจลิส วัดเถรวาทแห่งแรกที่ก่อตัวมาตั้งแต่ พ.ศ. 2512 เมื่อพระครูวชิรธรรมโสภณ วัดทุ่งสาธิต กรุงเทพฯ ได้มาจำพรรษา ณ บ้านคุณเสาวภา บุตรานนท์ บนเขาสตูดิโอซิตี...

โดย...สมาน สุดโต

วัดไทยลอสแองเจลิส วัดเถรวาทแห่งแรกที่ก่อตัวมาตั้งแต่ พ.ศ. 2512 เมื่อพระครูวชิรธรรมโสภณ วัดทุ่งสาธิต กรุงเทพฯ ได้มาจำพรรษา ณ บ้านคุณเสาวภา บุตรานนท์ บนเขาสตูดิโอซิตี จึงนับว่าท่านเป็นหัวหน้าสงฆ์ลำดับที่ 1

พระราชธรรมวิเทศ

พ.ศ. 2514 พระมหาธีรพันธ์ เมตตาวิหารี วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ ได้มาจำพรรษาที่บ้านเมืองเซพูลวิดา เป็นหัวหน้าสงฆ์อันดับ 2

พ.ศ. 2515 พระมหาโสบิน โสปาโก วัดมหาธาตุ เป็นหัวหน้าสงฆ์รูปแรกที่มาจำพรรษาที่วัดไทยแอลเอที่ตั้งในปัจจุบัน ครั้งนั้นมีบ้านอยู่ 2 หลัง บนเนื้อที่ 3 ไร่ นับเป็นหัวหน้าสงฆ์อันดับ 3

พ.ศ. 2518 พระมงคลราชมุนี (สุพจน์) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ ได้รับแต่งตั้งให้มาเป็นหัวหน้าสงฆ์อันดับ 4

พ.ศ. 2522 พระเทพโสภณ (พระธรรมราชานุวัตร “หลวงเตี่ย”) วัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพฯ ได้รับแต่งตั้งให้มาเป็นหัวหน้าสงฆ์อันดับ 5

พ.ศ. 2531 พระวิเชียรธรรมคุณาธาร (ปัจจุบันคือพระราชธรรมวิเทศ) วัดพระเชตุพนฯ ได้รับแต่งตั้งให้มาเป็นหัวหน้าสงฆ์อันดับที่ 6 จนถึงปัจจุบัน

พระราชธรรมวิเทศ

พุทธศาสนิกชนที่เข้าไปในวัดไทยลอสแองเจลิสจะต้องพบหลวงพ่อร่างสูงใหญ่ ครองจีวรแพรสีพระราชนิยมเรียบร้อยเป็นปริมณฑล ดวงตาใบหน้าเปี่ยมด้วยเมตตา เมื่อสนทนากับญาติโยมจะได้ยินเสียงนุ่มนวลปนเหน่อ ท่านคือหลวงพ่อใหญ่ หรือพระราชธรรมวิเทศ ประธานสงฆ์ (เจ้าอาวาส)|วัดไทยลอสแองเจลิส นอร์ตฮอลลีวูด แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

ในฐานะประธานสงฆ์วัดไทยที่เป็นวัดหลักและแห่งแรกในประเทศนี้ ท่านได้รับการยอมรับจากประชาชนชาวพุทธทั่วไปและจากคณะสงฆ์ไทย จึงได้รับเลือกเป็นรองประธานสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริการูปที่ 2 เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2553 ก่อนหน้านั้น มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยจึงได้ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาธรรมนิเทศให้เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา นอกเหนือจากเสมาธรรมจักรที่ได้รับพระราชทานมานานแล้ว

บารมีและชื่อเสียงอาจน้อยกว่าพระธรรมราชานุวัตร หรือหลวงเตี่ย แต่การทุ่มเททำงานเพื่อพระศาสนาก็ไม่น้อยไปกว่ากัน

 

เครื่องหมายพัทธสีมาอุโบสถเพราะซิตีไม่ให้สร้างเป็นรูปขึ้นมา

ชื่อเดิมของท่านคือ อมรวุฒิ ฉายา อมโรนามสกุล สุดขมคำ เกิดที่ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เมื่อ พ.ศ. 2474

เป็นศิษย์เก่าวัดสุวรรณภูมิ สำนักเรียนบาลีที่มีชื่อเสียงแห่ง จ.สุพรรณบุรี เมื่อมาอยู่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ได้อยู่รับใช้ใกล้ชิดสมเด็จป๋า (สมเด็จพระอริวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช) เมื่อหลวงเตี่ย หรือพระธรรมราชานุวัตร ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระเทพโสภณ เป็นเจ้าคณะภาค 14 หลวงพ่อใหญ่ขณะที่ดำรงสมณศักดิ์ที่พระวิเชียรธรรมคุณาธาร ได้รับตำแหน่งเลขาฯ เจ้าคณะภาค 14 นั้น และดำรงตำแหน่งนี้เป็นเวลานานถึง 11 ปี

หลวงพ่อใหญ่มาอยู่วัดไทยลอสแองเจลิส พ.ศ. 2531 โดยไม่ได้คิดว่าจะอยู่นาน หลังจากหลวงเตี่ยวางมือเพื่อไปทำงานให้คณะสงฆ์ในเมืองไทย ตลอดเวลาท่านคิดว่าสักวันหนึ่งหลวงเตี่ยคงหาพระมาแทน คอยคำสั่งทุกปีจนกระทั่งหลวงเตี่ยมรณภาพเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2545 เมื่อได้รับภาระและความไว้วางใจก็ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง ได้สานต่อโครงการต่างๆ และได้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดไทยมาตั้งแต่ต้น

จะเห็นได้ว่า ขณะนี้วัดไทยมีกุฏิทั้งหมด 10 หลัง และซื้อที่ดินใหม่อีก 2 แปลง ห่างจากวัด 0.2 ไมล์

สื่อมวลชนและชาวไทยในแอลเอยอมรับว่าในยุคของหลวงพ่อใหญ่วัดไทยพัฒนาขึ้นมากมีพระอุโบสถที่ถือเป็นสัญลักษณ์ หรือ Land Mark ของเมือง N. Hollywood

โรงเรียนสอนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ที่หลวงเตี่ยเป็นผู้ริเริ่มนั้นก็ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จัดสอนทั้งช่วงซัมเมอร์ 3 เดือน และวันเสาร์-อาทิตย์ตลอดทั้งปี โดยได้รับความร่วมมือจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่งครูมาสอน วิชาที่สอนเน้นให้รู้ภาษาไทย วัฒนธรรมไทย

แต่ก่อนนั้นนักเรียนช่วงซัมเมอร์มีประมาณ 300 คน และช่วงเสาร์-อาทิตย์มีประมาณ 400 กว่าคน แต่ปัจจุบันลดลงเพราะวัดไทยหลายวัดได้เปิดโครงการนี้ ทำให้นักเรียนกระจายกันไป

กิจกรรมการเผยแผ่

การเผยแผ่พระธรรมคำสอนนั้น ทำผ่านทางทีวีที่ให้โอกาสวัดไปแสดงธรรมหลายช่องด้วยกัน และวิทยุภาคภาษาไทยที่มีในแอลเอ

ในเทศกาลเข้าพรรษา ทางวัดจัดทุกอย่างเหมือนวัดในเมืองไทยมี เช่น การเทศน์มหาชาติทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละกัณฑ์ จนกว่าจะออกพรรษาก็ครบ 13 กัณฑ์พอดี สุดท้ายเพิ่มคาถาพันอีก 1 กัณฑ์ จึงรวมเป็น 14 กัณฑ์

ตลาดนัด

กิจกรรมที่เป็นจุดเด่นวัดไทยแอลเอ นอกจากจัดงานวันสงกรานต์ วันปีใหม่ และงานกฐินพระราชทานทุกปีแล้ว ก็มีการจัดตลาดนัดสำหรับขายอาหาร แต่ปิดไป 2 ปีแล้ว เพราะเพื่อนบ้านไม่พอใจที่ผู้มาใช้บริการตลาดจอดรถปิดหน้าบ้าน ทำให้เขานำรถไปจอดไม่ได้ ร้องเรียนไปที่ซิตี ซิตีก็เล่นงานวัด โดยไม่เล่นเจ้าของรถ ขณะนี้กำลังดำเนินการ|ขอเปิดใหม่ แต่จะเปิดได้หรือไม่ได้ไม่รู้ ซิตียังไม่ได้แจ้งมา ต้องคอยดู

นักเรียนซัมเมอร์ที่วัดไทย

ช่วงมีตลาดนัดนั้นมีคนมาแต่ละวันไม่น้อยกว่า 2,000-3,000 คน

ผมจึงถามด้วยความเป็นห่วงว่าตลาดปิดไปเสียแล้ว กระทบการดำเนินงานของวัดหรือไม่

ท่านบอกว่ารายได้หลักของวัดอยู่ที่พระอุโบสถ ที่ทางวัดตั้งตู้รับบริจาคไว้หลายสิบตู้ด้วยกัน ได้อาทิตย์ละหมื่นกว่าเหรียญสหรัฐ อย่างน้อยที่สุดก็ 8,000-9,000 เหรียญสหรัฐ โดยไม่ต้องเรี่ยไรหรือขอจากใครเลย

ส่วนคนบริจาคโดยตรงคนละ 100-200 เหรียญสหรัฐ หรืออาจถึงพันเหรียญสหรัฐก็มี แล้วแต่ศรัทธา ที่จัดผ้าป่าไปถวายทุกปีมีเจ้าเดียวคือ เอไอเอ ทอดผ้าป่าแต่ละปีประมาณ 4,000-5,000 เหรียญสหรัฐ เหมือนกัน

รายได้จากร้านอาหารนั้นไม่มาก ทางวัดจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้พ่อค้า-แม่ค้ามีอาชีพ-มีรายได้ วัดได้แค่ 20% หรือประมาณ 4,000 เหรียญสหรัฐต่อสัปดาห์ ใช้เป็นค่าจ้างคนทำความสะอาดเกือบไม่พอ

แต่การไม่มีตลาดนัดขายอาหารเดือดร้อนถึงผู้ปกครองนักเรียนที่นำลูกหลานมาเรียนหนังสือ จึงขออนุญาตเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวและข้าวแกง โดยญาติโยมสมัครใจมาทำขายให้ วัดเพียงลงทุนเท่านั้น เขาก็อนุญาต

ข้าวแกงมีรายได้อาทิตย์ละ 1,000 กว่าเหรียญสหรัฐ ส่วนก๋วยเตี๋ยวมีรายได้ 800-1,000 เหรียญสหรัฐ กำลังจะขอเปิดเพิ่มอีก 5 ร้าน

ส่วนค่าใช้จ่ายทั่วไปทางวัดตกเดือนละประมาณ 2 หมื่นกว่าเหรียญสหรัฐ ส่วนมากเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ยิ่งคนมากก็ใช้จ่ายมาก เช่น ค่าน้ำ

มูลนิธิช่วยศพไม่มีญาติ

เมื่อไม่นานมานี้ ทางวัดไทยแอลเอได้เพิ่มบทบาทขึ้นมาอีก คือตั้งมูลนิธิสงเคราะห์ศพไม่มีญาติ มีเงินเริ่มต้นเกือบ 5 แสนเหรียญสหรัฐ เพื่อช่วยคนไทยด้วยกัน โดยตัวหลวงพ่อใหญ่ช่วยบริจาคเข้ามูลนิธิเดือนละ 1,000 เหรียญสหรัฐ

พระประธานในพระอุโบสถ

ท่านบอกว่าแต่ละเดือนคนไทยตายประมาณ7-8 คน ไม่นับที่ไปตายและไปสวดที่อื่น เท่าที่เห็นคนที่ขาดแคลนจริงๆ ก็มีไม่น้อย บางคนถึงกับต้องใส่โลงกระดาษเผา

อีกโครงการหนึ่งที่ทางวัดกำลังดำเนินการ คือจัดตั้งห้องสมุดขนาดใหญ่และเป็นสากล โดยกงสุลใหญ่สนับสนุนและมอบเงินมาให้ดำเนินการแล้ว 4,000 เหรียญสหรัฐ

ในฐานะที่เป็นรองประธานสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ท่านบอกว่าอยากเห็นพระธรรมทูตที่จะมาให้ตั้งใจจริงว่าไปช่วยกิจการพระศาสนาเผยแผ่ศาสนา เพราะพระธรรมทูตบางรูปตั้งความปรารถนาสูงมาก ว่าจะต้องไปเรียนเป็นโน่นเป็นนี่ ไม่ได้คำนึงถึงวัด

อีกอย่างหนึ่งหากหัวหน้าสงฆ์มีความรู้น้อยกว่ายิ่งหนักเข้าไปอีกข่มเจ้าอาวาส หรือไม่เช่นนั้นก็แยกตัวไปสร้างวัดขึ้นมาใหม่ วัดไทยที่เกิดขึ้นมามากก็เพราะปัญหานี้ด้วยเช่นกัน
วัดไทยแอลเอนั้นยังต้องการพระธรรมทูตที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ

ความรู้ด้านช่างไม้ ช่างไฟ ช่างประปา มาอยู่ด้วย เพราะก่อสร้าง ซ่อมแซม อาศัยช่างที่ว่าทั้งนั้น หากมีช่างดังกล่าวจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก เพราะจ้างฝรั่งต้องจ่ายชั่วโมงละ 20-30 เหรียญสหรัฐแต่ถ้าคนไทยทำให้ฝรั่งได้อย่างสูง 15 เหรียญสหรัฐเท่านั้น จึงอาศัยพระธรรมทูต แม้กระทั่งโรงเรียนที่เปิดก็อาศัยพระธรรมทูตไปสอนด้วย

ที่ขาดและต้องการมากคือพระสอนกรรมฐาน อยากได้พระที่มาสอนจริงตั้งใจจริง ที่ผ่านมาสอนไปได้ระยะหนึ่งจะมีการเรี่ยไรตามมาด้วยที่ผ่านมาพระสอนกรรมฐานที่ญาติโยมชอบและปฏิบัติตัวดีคือ ดร.พระมหาไพเราะ วัดมหาธาตุ สอนจนโยมติด แต่ต้องกลับไทย ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดสระแก้ว อ่างทอง เสียแล้ว จึงฝากบอกพระที่มีความสามารถในการสอนกรรมฐาน ให้บอกมายินดีพิจารณา

ตอนท้ายท่านสรุปว่าพระธรรมทูตที่จะมาต่างประเทศอยากให้มาช่วยกันจริงๆ เพื่อช่วยเหลือกิจกรรมในการเผยแผ่และขอให้มีความอดทนไม่แสวงหาเอกลาภ เพราะที่ผ่านมามักจะพบว่าวัดที่ไม่มีเอกลาภก็ไม่อยากอยู่ ดังนั้นเมื่อเป็นพระธรรมทูตต้องอดทน