ผจญภัยในตัวหนังสือ เอช.ไรเดอร์ แฮ็กการ์ด
ในบรรดาหนังสือที่ถูกจัดอันดับ “ขายดีตลอดกาล” นั้น 1 ใน 10 อันดับแรกย่อมต้องมีผลงานของ “เอช. ไรเดอร์ แฮ็กการ์ด”
โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง
ในบรรดาหนังสือที่ถูกจัดอันดับ “ขายดีตลอดกาล” นั้น 1 ใน 10 อันดับแรกย่อมต้องมีผลงานของ “เอช. ไรเดอร์ แฮ็กการ์ด” โดยเฉพาะเรื่อง She : A History of Adventure ซึ่งกำลังจะมีอายุครบ 130 ปี รวมอยู่ด้วย
She : A History of Adventure เล่าเรื่องราวของพระนางอัสฌา พระราชินีซึ่งมีอายุยืนถึง 2,000 ปี ด้วยอาบไฟศักดิ์สิทธิ์ภูเขาไฟ จึงยังคงความสาวและสวยงามไว้ได้ แต่ระหว่างเดินทางไปอาบไฟศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 2 ก็เกิดมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น การผจญภัยจึงตามมา
หนังสือเล่มนี้ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในเรื่องราวการผจญภัยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นหนึ่งในนวนิยายแฟนตาซีซึ่งเก่าแก่ที่สุด และเป็นหนังสือซึ่งนักอ่านคลั่งไคล้หลงใหลตั้งแต่เมื่อตีพิมพ์ครั้งแรกจนถึงวันนี้ถูดดัดแปลงไปทำเป็นหนังมากถึง 10 ครั้ง ครั้งล่าสุดก็เมื่อปี 2001 ปัจจุบันยังคงเป็นหนึ่งในหนังสือ “ต้องอ่าน” สำหรับทุกคนที่ต้องการเรื่องราว ซึ่งเปี่ยมด้วยจินตนาการและความตื่นเต้น หนังสือเล่มนี้เป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจอันแสนคลาสสิคให้กับนักเขียนรุ่นใหม่มากมาย
นอกจาก She : A History of Adventure แล้ว อีกหนึ่งผลงานเขียนอันเยี่ยมยอดของ เอช. ไรเดอร์ แฮ็กการ์ด ก็คือ King Solomon’s Mines ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นหนังสือเรื่องที่ดีที่สุดของนักประพันธ์ผู้นี้ก็ได้ เขาเขียนนวนิยายเล่มนี้ในปี 1886 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องเล่าเกี่ยวกับขุมทรัพย์กษัตริย์โซโลมอนในซิมบับเว หรือตอนใต้ของทวีปแอฟริกา เรื่องนี้ถูกดัดแปลงไปเป็นหนังอย่างน้อย 6 ครั้ง โดยตัวละครเอกที่มีสีสันของเรื่องนี้คือ จอมพรานอัลลัน ควอเตอร์เมน การเดินทางผจญภัยของจอมพรานยังถูกเล่าใน Child of Storm, Allan and the Holy Flower, The Ivory Child ฯลฯ และตอนจบของ King Solomon’s Mines คือ Allan Quatermain (จอมพรานควอเตอร์เมน)
ส่วน She : A History of Adventure เองก็มีภาคต่อคือ Ayesha, the Return of She (การกลับมาของสาวสองพันปี) หลังจากการเดินทางตามหาพระนางอัสฌาอย่างตื่นเต้นเร้าใจ 20 ปีผ่านไป ลีโอ วินซีย์ ก็พบว่า พระนางอัสฌามีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และความรักอันอมตะมากว่าสองพันปี จะเป็นอย่างไร ก่อนจะจบในเล่ม Wisdom’s Daughter ซึ่งเล่าประวัติและเรื่องราวความรักของพระนางอัสฌา (แปลเป็นไทยชื่อ พระธิดาแห่งปรีชาญาณ โดย ปรีชา ฌานวุฒิพงศ์)
ก่อนจะเสียชีวิตในวัย 68 ปี ช่วงวาระสุดท้าย เอช. ไรเดอร์ แฮ็กการ์ด ก็ได้ให้นักอ่านของเขาหัวใจเต้นแรง ด้วยการนำตัวละครเอกจากนวนิยาย 2 เรื่องดังของเขา คือ อัลลัน ควอเตอร์เมน จาก King Solomon’s Mines และ พระนางอัสฌา จาก She: A History of Adventure โครจรมาพบกันในนวนิยาย She and Allan
King Solomon’s Mines แปลเป็นไทยมาแล้วหลายสำนวนทั้งโดย นกโนรี (หลวงวิปริวัตร) ไชยวัฒน์ - เตียง ศิริขันธ์, ไพโรจน์ พันธุมจินดา และ ขุนพลอย สำหรับงานของ ขุนพลอย ใช้ชื่อเล่มว่า สมบัติพระศุลี นักแปลผู้นี้ยังนำเสนอ She : A History of Adventure ในภาคภาษาไทยชื่อว่า สาวสองพันปี ส่วน She and Allan ตั้งชื่อว่า จอมพรานกับสาวสองพันปี ขุนพลอย ยังได้แปลงานของ เอช. ไรเดอร์ แฮ็กการ์ด เล่มอื่นๆ อีก โดยเฉพาะ 5 เล่ม คือ สมบัติพระศุลี จอมพรานกับสาวสองพันปี จอมพรานควอเตอร์เมน สาวสองพันปี และ การกลับมาของสาวสองพันปี ได้พิมพ์ออกขายในรูปบ็อกเซ็ตผลงานแปลชุด “สมบัติพระศุลี สาวสองพันปี”
นอกจากหนังสือในชุด King Solomon’s Mine และ She : A History of Adventure แล้ว เอช. ไรเดอร์ แฮ็กการ์ด ยังสร้างสรรค์ผลงานน่าอ่านอีกหลายเรื่อง เช่น Cleopatra 88 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ที่ดีที่สุดเล่มหนึ่ง Benita หญิงสาวชื่อ เบนิตา เดินทางไปกับพ่อเพื่อค้นหาสมบัติซึ่งชาวโปรตุเกสซ่อนไว้ และคนท้องถิ่นก็เชื่อว่า เธอคือหญิงสาวชาวโปรตุเกสซึ่งกลับชาติมาเกิดเพื่อทวงสมบัติคืน Queen Sheba’s Ring เมื่อชาวอังกฤษ 4 คน ต้องเดินทางไปช่วยราชินีของชนชาติอบาติกอบกู้อิสรภาพ ระหว่างนั้นเรื่องตื่นเต้นผจญภัยเกิดขึ้นมากมาย Queen of the Dawn ซึ่งเป็นนวนิยายเล่มสุดท้ายที่ตีพิมพ์ตอนผู้เขียนยังมีชีวิตอยู่ เล่าถึงสงครามยุคโบราณเพื่อแย่งความเป็นใหญระหว่างอาณาจักรบาบิลอนและอาณาจักรไอยคุปต์ เป็นต้น เขายังมีงานเขียนประเภท Non-Fiction และบทความในหนังสือพิมพ์จำนวนมาก
เซอร์เฮนรี ไรเดอร์ แฮ็กการ์ด หรือที่รู้จักในชื่อ เอช. ไรเดอร์ แฮ็กการ์ด มีชีวิตอยู่ระหว่างปี 1856-1925 เขาเป็นนักเขียนชาวอังกฤษเป็นผู้บุกเบิกของวรรณกรรมประเภท Lost World เขาได้รับการยกย่องให้เป็นเจ้าพ่อแห่งการเขียนนวนิยายเดินทางผจญภัยในดินแดนซึ่งไม่คุ้นเคย ตัวละครเอกฝ่ายหญิงของเขามักเป็นสตรีเลอโฉม ส่วนตัวละครเอกฝ่ายชายต้องแข็งแรงและกล้าหาญ เรื่องแต่งของเขาเต็มไปด้วยเหตุการณ์ชวนตื่นเต้น เกิดขึ้นในดินแดนเร้นลับ อุดมด้วยสิ่งมหัศจรรย์ ทั้งหมดเกิดจากจินตนาการรวมทั้งประสบการณ์ที่ผู้เขียนผ่านพบขณะไปใช้ชีวิตวัยหนุ่มที่อัฟริกาอยู่เกือบ 10 ปี
นอกจากเป็นนักเขียนแล้ว เซอร์เฮนรี ไรเดอร์ แฮ็กการ์ด ยังมีส่วนร่วมในการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรทั่วจักรวรรดิอังกฤษ ผลงานการเขียนของเขาซึ่งปรากฏขึ้นในปลายยุควรรณกรรมวิคตอเรียยังคงเป็นที่นิยม และมีอิทธิพลต่อโลกมาจนถึงทุกวันนี้ นวนิยายอมตะของไทยหลายเรื่องก็ได้เค้าโครงและรับแรงบันดาลใจจากงานของ เอช. ไรเดอร์ แฮ็กการ์ด ด้วยเช่นกัน


