คำพูดให้กำลังใจ ที่สาวๆ ชอบ
การทำคะแนนเพื่อชนะใจสาวๆ เรื่องปากเป็นเอก เลขเป็นโท นี่ใช้ได้ผลชะงัดนัก อย่าลืมหัดไว้ให้คล่อง
โดย...เลิฟเบิร์ด ภาพ รอยเตอร์ส
การทำคะแนนเพื่อชนะใจสาวๆ เรื่องปากเป็นเอก เลขเป็นโท นี่ใช้ได้ผลชะงัดนัก อย่าลืมหัดไว้ให้คล่อง นอกจากผู้หญิงจะชอบคำหวานๆ แล้ว คำพูดให้กำลังใจก็ช่วยให้ชนะใจเธอได้เช่นกัน
คุณก็พยายามมาตลอดนี่นะ
โดยทั่วไปแล้วผู้ชายมักมีวิธีให้กำลังใจ โดยบอกให้ผู้หญิง “พยายามเข้าสิ” ซึ่งเป็นการให้กำลังใจแบบตะโกนสั่ง เพราะคำว่า “พยายามเข้าสิ” ในความคิดของผู้ชายไม่มีอะไรผิดปกติตรงไหน แต่ทว่าสำหรับผู้หญิงแล้ว พอได้ยินคำว่า “พยายามเข้าสิ” พวกเธอก็มักจะคิดและรู้สึกไปว่า ตัวเองใช้ไม่ได้ “ถ้าไม่พยายามเพิ่มขึ้นอีก ไม่ได้หรอก” หรือ “เธอยังพยายามไม่พอเลยนะ” ซะมากกว่า
หากมองจากผู้ชายแล้ว อาจดูอ้อนมากเกินไปที่ผู้หญิงมีความรู้สึกว่า “อยากให้คุณยอมรับฉันในแบบที่ฉันเป็นอยู่นี้” “อยากให้คุณยอมรับฉัน ฉันผู้กำลังพยายามอยู่” สรุปแล้วสิ่งสำคัญ ก็คือ การยอมรับในความพยายามของเธอ
เพราะผู้หญิงจะให้ความสำคัญมากกับความแตกต่างของ “พยายามเข้าสิ” กับ “คุณกำลังพยายามอยู่แล้วนี่นะ” จากประโยค “คุณกำลังพยายามอยู่แล้วนี่นะ” แฝงความนัยทำให้รู้สึกว่า “ผมรู้ว่าคุณกำลังพยายามอยู่นะ ผมเห็นความพยายามของคุณนะ” ซึ่งผู้ชายสามารถพูดให้กำลังใจผู้หญิงได้ในหลายๆ โอกาส เช่น เวลาที่ภรรยาทำอาหารอยู่ก็บอกเธอว่า “คุณตั้งอกตั้งใจทำจัง” หรือหัวหน้าผู้ชายบอกลูกน้องผู้หญิงว่า “ตั้งใจทำงานดีจัง”
สำหรับผู้ชายแล้ว จะมีความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ในใจว่า การมุ่งมั่นพยายามไม่หยุดหย่อนเป็นภาระ หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในชีวิต ฉะนั้นจะไม่มีคำว่าพยายาม 100% เพราะถ้าหยุดพยายามทุกอย่างก็จบลง จึงต้องพยายามยิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้นถ้ายอมรับเสียแล้วว่า “เธอกำลังพยายามอยู่นี่นะ” ก็เท่ากับว่าเพียงพอแล้ว ไม่ต้องพยายามอีกแล้วอย่างนั้นหรือ? ฉะนั้นผู้ชายจึงให้กำลังใจแบบตีก้นสั่งสอน แล้วบอกว่าต้องมุ่งมั่น “พยายามเข้าสิ” ต่อไปอีก
นับเป็นวิธีการที่พบมากในการ์ตูนผู้ชาย (การ์ตูนญี่ปุ่น) ที่กระตุ้นให้เพิ่มระดับความพยายาม “พยายามมากขึ้นอีก ปราบคนชั่วให้ได้” แต่ละคร (ญี่ปุ่น) สำหรับผู้หญิงแล้วจะมีฉากที่คุณยายจากต่างจังหวัดตบบ่าพนักงานบริษัทผู้หญิงเพื่อให้กำลังใจว่า “เธอได้พยายามมาอย่างเต็มที่แล้วล่ะ” ให้เห็นเรื่อยๆ ในที่นี้ไม่ได้ตั้งใจจะบอกว่า อย่างไหนดี อย่างไหนไม่ดี เพียงแต่อยากบอกว่า นี่คือความรู้สึกที่แตกต่างกันของผู้หญิงกับผู้ชาย
ฉะนั้นคุณผู้ชายพึงระลึกไว้ว่า สำหรับผู้หญิงแล้ว เมื่อได้ยินว่า “คุณก็กำลังพยายามอยู่นี่นะ” จะรู้สึกดีกว่า “พยายามเข้าสิ” เพราะพวกเธอจะรู้สึกว่าได้รับการยอมรับในความพยายาม เมื่อได้ยินแล้วจะทำให้รู้สึกอยากพยายามยิ่งขึ้นไปอีก และมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้เห็นผลสำเร็จ
ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ
โดยธรรมชาติแล้วผู้หญิงมักมีความรู้สึก “อยากให้ผู้ชายช่วยฟังหน่อย” เมื่อเธอได้ยินประโยคที่ว่า “ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ” ก็ต้องดีใจแน่นอน เพราะการพูดเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าคุณเป็นที่พึ่งพาได้ น่าไว้ใจ เป็นคนดี หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร
ผู้ชายจะพูดแบบนี้กับลูกน้องผู้หญิงที่บริษัทได้ แต่กับภรรยาหรือแฟนตัวเองกลับพูดไม่ค่อยออกเอาเสียเลย จึงจำเป็นต้องฝึกพูดให้ติดปากไว้ เพราะในความเป็นจริงทั้งที่คิดว่าน่าจะพูดออกไปได้ แต่กลับพูดไปว่า “เรื่องแค่นี้ คิดแก้ไขเอาเองสิ” ดังนั้นให้พูดใหม่ว่า “ยินดีให้คำปรึกษา = มัดใจผู้หญิงได้” โดยพยายามพูดกับภรรยาให้ติดปากว่า “แล้วคุยกันใหม่นะ” หรือ “ไว้หาโอกาสมาปรึกษากันอีกนะ” จะทำให้เธอรู้สึกดีกว่า
เพราะโดยธรรมชาติแล้ว ผู้หญิงมักจะยอมรับความช่วยเหลือแต่โดยดี เมื่อมีใครมาเสนอว่า “ยินดีให้คำปรึกษานะ” เธอจะตอบทันทีว่า “ขอบคุณมาก ได้ยินคุณบอกอย่างนี้ ฉันอุ่นใจขึ้นมากเลย” ดังนั้นหากผู้ชายสามารถพูดประโยคเหล่านี้ได้ติดปากมากขึ้น เช่น “ผมยินดีให้คำปรึกษา” หรือ “ผมยินดีรับฟังคุณนะ” ก็คงจะช่วยให้การสื่อสารระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงดีขึ้น
ในช่วงแรกๆ หากผู้หญิงมาขอคำปรึกษา คุณผู้ชายอาจจะพูดยากนิดหน่อย แต่ถ้าสามารถพูดประโยคเหล่านี้ได้ คุณจะต้องเป็นที่ประทับใจแน่นอน เช่น “ขอบคุณที่มาปรึกษาผม” “ผมช่วยได้แค่รับฟังเท่านั้น คงไม่เป็นไรนะครับ” ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะคิดว่า เมื่อมีใครมาขอคำปรึกษาก็ต้องพยายามแนะนำวิธีแก้ปัญหาให้ผู้นั้นให้ได้ เลยรู้สึกกดดัน แต่ถ้าเข้าใจเสียใหม่ว่าเพียงแค่รับฟังก็ช่วยอีกฝ่ายได้เหมือนกัน ถ้าคิดอย่างนี้ได้ก็คงทำให้คุณผู้ชายพูดว่า “ยินดีให้คำปรึกษานะ” ได้ง่ายขึ้น


