posttoday

Mexico…The land of Civilizations

15 ตุลาคม 2559

ย้อนหลังไปสมัยที่เรียนมัธยม เชื่อว่าเด็กไทยไม่น้อยได้เรียนเกี่ยวกับอารยธรรมเมโสโปเตเมีย (ลุ่มแม่น้ำไทกรีส-ยูเฟรติส)

โดย...ทีมงานโลก 360 องศา [email protected]

ย้อนหลังไปสมัยที่เรียนมัธยม เชื่อว่าเด็กไทยไม่น้อยได้เรียนเกี่ยวกับอารยธรรมเมโสโปเตเมีย (ลุ่มแม่น้ำไทกรีส-ยูเฟรติส) อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ อารยธรรรมลุ่มแม่น้ำไนล์ และอารยธรรมแม่น้ำฮวงโห ชื่อเหล่านี้คงคุ้นๆ อยู่ในหูของเด็กไทยจำนวนไม่น้อย แต่ถ้าเราเอ่ยชื่ออารยธรรมเมโสอเมริกา (Mesoamerica) เชื่อว่าคนไทยอีกไม่น้อยเช่นกันที่ต้องร้อง ฮะ!!???? อะไรนะ??? มันอยู่ตรงไหนของโลก

แม้จะไม่รู้ชัดว่าอยู่ตรงไหน แต่ชื่อที่มีคำว่าอเมริกาติดมาด้วยก็พอจะช่วยให้เดาได้ว่า อารยธรรมเมโสอเมริกาต้องเกี่ยวข้องกับทวีปอเมริกาแน่นอน และคำตอบก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะอารยธรรมดังกล่าวคือความรุ่งเรืองที่เกิดขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่เม็กซิโกตอนกลางไปถึงตอนใต้ ลงไปถึงกลุ่มประเทศในอเมริกากลางอย่างกัวเตมาลา เอลซัลวาดอร์ เบลีซ ฮอนดูรัส และนิการากัว

พื้นที่บริเวณอ่าวเม็กซิโก เป็นที่ราบมีป่าอุดม เต็มไปด้วยลำธาร จึงนับเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของคนในยุคนั้น เกิดการตั้งรกราก และก่อร่างอารยธรรมที่สำคัญของโลก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโอเม็ก (Olmec), ซาโปเท็ก (Zapotec), แอซเทค(Aztec), เตโอติอัวกัน (Teotihuacan) และชนเผ่ามายา (Maya) ซึ่งเชื่อว่าหลายคนจะคุ้นหูกับชื่อชนเผ่ามายาเสียมากกว่า เพราะถูกกล่าวถึงบ่อยๆ ในหนังประเภทตามล่าหาขุมทรัพย์โบราณ คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักเม็กซิโกในมุมนี้สักเท่าไรนัก เพราะเราไปจำภาพว่าเม็กซิโกคือประเทศที่มีทะเลทราย กระบองเพชร พริกเผ็ด และผู้ชายใส่หมวกปีกกว้าง ดังนั้นวันนี้โลก 360 องศา จะพาไปรู้จักกับประเทศเม็กซิโก ดินแดนแห่งอารยธรรมโลก

Mexico…The land of Civilizations เตโอตีอัวกัน นครแห่งเทพเจ้า ปริศนาแห่งอารยธรรมที่ยังค้างคา

 

ประเทศเม็กซิโก มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “สหรัฐเม็กซิโก” หรือ United Mexican States ซึ่งฟังจากชื่อก็คงพอเดาได้ว่าที่นี่ปกครองแบบสหพันธรัฐ คล้ายกับสหรัฐอเมริกา คือมีรัฐบาลท้องถิ่นแต่ละรัฐ ภายใต้การดูแลของรัฐบาลกลาง และมีประธานาธิบดีเป็นประมุขของประเทศ เป็นหัวหน้ารัฐบาล และเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพ

มีเรื่องที่คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับประเทศนี้ ประการแรกเลยก็คือว่า ชื่อของประเทศนี้ ต้องออกเสียงว่า “เม็กซิโก” ไม่ใช่“แม็กซิโก” แต่ในภาษาสเปนซึ่งเป็นภาษาประจำชาติ จะออกเสียงว่า “เม็กฮิโก” ประการที่สองก็คือว่า เม็กซิโกเป็นประเทศที่อยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ไม่ใช่อเมริกาใต้ ประการที่สามคือ เม็กซิโกไม่ได้เป็นประเทศที่มีแต่ทะเลทรายและต้นกระบองเพชรอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน เพราะจริงๆ แล้วประเทศนี้มีความกว้างใหญ่ และมีภูมิประเทศที่หลากหลายมาก เนื่องจากมีเส้นทรอปิคอลเหนือพาดผ่าน ทางตอนเหนือก็จะหนาวเย็นจนมีหิมะปกคลุมบางพื้นที่ในช่วงฤดูหนาว ส่วนทางตอนกลางของประเทศก็จะอบอุ่นตลอดทั้งปี เม็กซิโกจึงเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยอารยธรรมโบราณจากชนเผ่าต่างๆ กระจายกันออกไปในพื้นที่ของประเทศ

อารยธรรมของชนเผ่ามายานั้น เคยรุ่งเรืองในดินแดนที่เรียกว่า คาบสมุทรยูคาตัน(Yucatán Peninsula) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทางตอนใต้ของเม็กซิโก คาบเกี่ยวกับเบลีซ และกัวเตมาลา แต่ถ้าเป็นตอนบนและตอนกลางของประเทศเม็กซิโก จะเป็นดินแดนที่เคยรุ่งเรืองของชนเผ่าแอซเทค

ตำนานเล่าว่า ชาวแอซเทคเดินทางลงใต้เพื่อหาดินแดนใหม่ ตามคำทำนายว่าให้ตั้งเมืองใหม่ ตรงจุดที่ “นกอินทรีกำลังจิกงูบนต้นกระบองเพชร” และในที่สุดพวกเขาก็เจอเพียงแต่ว่าจุดนั้นเป็นเกาะเล็กๆ ในทะเลสาบเทคโคโค่ (Texcoco) แต่สุดท้ายพวกเขาก็สามารถตั้งเมืองใหม่ บนทะเลสาบได้สำเร็จ และตั้งชื่อว่า “เตนอชตีตลัน” (Tenochtitlan)ซึ่งก็คือเม็กซิโก ซิตี้ ในปัจจุบัน

Mexico…The land of Civilizations โบสถ์คริสต์ใจกลางเม็กซิโก ซิตี้ ที่สร้างทับเมืองเตนอชตีตลันของชาวแอซเทค

 

ชาวเตนอชตีตลัน เรียกตนเองว่า “เม็กซิกาเทน็อคคา” (Mexica Tenocha) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อชาวเม็กซิกัน และประเทศเม็กซิโกในปัจจุบัน และตำนานอินทรีจิกงูบนต้นกระบองเพชร ก็คือภาพที่ปรากฏอยู่บนธงชาติเม็กซิโกนั่นเอง

น่าเสียดายที่ความรุ่งเรืองของชาวเม็กซิกาคงอยู่ไม่ถึง 3 ศตวรรษ ก็ต้องจบสิ้นลง ด้วยการมาเยือนของนักล่าอาณานิคม ถ้าขุดลึกลงไปใต้ผืนดินของกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ก็คงเจอกับซากของเตนอชตีตลัน และถูกทำลายและสร้างทับด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลของสเปน

ทั่วประเทศเม็กซิโกนั้น มีพีระมิดเก่าแก่มากมาย แต่น่าเสียดายว่าพีระมิดที่ยังสมบูรณ์กลับไม่ใช่ของชาวแอซเทคเลย เพราะพีระมิดที่มีชื่อเสียงที่สุดมีอยู่ 2 แห่ง เรียกว่า เตโอติอัวกัน (Teotihuacan) เป็นของชนเผ่าลึกลับที่ยังไม่มีคำตอบชัดเจน ส่วนอีกที่หนึ่งเรียกว่า ชิเชน อิตซ่า (Chichen Itza) ซึ่งเป็นของชนเผ่ามายา

เตโอติอัวกัน เป็นนครร้างกลางหุบเขา ที่ห่างออกมาจากกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ประมาณ 50 กิโลเมตร ที่นี่ชาวแอซเทคบังเอิญมาพบเข้าก่อนที่จะมาถึงเม็กซิโก ซิตี้ และได้ตั้งชื่อให้ว่า “เตโอติอัวกัน” ซึ่งแปลว่าเมืองแห่งเทพเจ้าจนถึงทุกวันนี้ นครแห่งเทพเจ้าแห่งนี้ ก็ยังเป็นปริศนา ให้นักมนุษยวิทยาและนักโบราณคดีหาคำตอบว่าตกลงใครเป็นคนสร้าง แล้วล่มสลายลงไปได้อย่างไร

ว่ากันว่าเตโอติอัวกัน คือรูปแบบของเมืองใหญ่แห่งแรกของโลกตะวันตก ประมาณการว่าน่าจะเคยมีคนอาศัยอยู่ร่วม 2 แสนคน นักโบราณคดีได้ขุดค้นภายใต้พีระมิด และเรียนรู้ว่าเมืองที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ มีการปกครองเป็นชนชั้น มีการวางผังเมืองอย่างเป็นระบบตามหลักจักรวาลวิทยา มีการใช้หินออบซิเดียน(Obsidian) เป็นอาวุธมีคม และเครื่องมือเครื่องใช้ รวมทั้งมีประเพณีการบูชายัญ

Mexico…The land of Civilizations เศษซากของเทมโพล มาโย วิหารหลักของชาวเมืองเตนอชตีตลัน

 

แม้ว่าจนถึงปัจจุบันนี้  เรื่องราวของเตโอติอัวกันยังเป็นปริศนาที่ท้าทายให้นักมนุษยวิทยาและนักโบราณคดีค้นหาคำตอบ ในขณะที่ความงดงามและยิ่งใหญ่ของเตโอติอัวกันก็ยังดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน

ถ้าเดินทางต่อมาที่เมืองที่เมริดา ในรัฐยูคาตัน ส่วนหนึ่งของคาบสมุทรยูคาตัน ก็จะมาถึงถิ่นของชาวมายัน อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยปริศนาอีกเช่นกัน

ประมาณ 1,500 ปีก่อนคริสต์กาล ชาวมายันเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันเป็นสังคม แบ่งกันทำ และมีการแบ่งชนชั้นโดยกษัตริย์และนักบวชเป็นผู้นำ ในยุคที่มายารุ่งเรืองสุด เคยมีเมืองน้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่วคาบสมุทรกว่า 40 เมือง ปัจจุบันนี้หลายพีระมิดยังคงเหลืออยู่กลางป่าในพื้นที่ของประเทศฮอนดูรัส เอลซัลวาดอร์ กัวเตมาลา และพื้นที่ตอนใต้ของเม็กซิโกหนึ่งในนั้นคือ ชิเชน อิตซ่า (Chichen Itza) พีระมิดมายา ที่มีคนมาชมร่วม 2 ล้านคน/ปี ซึ่งสาเหตุหลักก็น่าจะมาจากความยิ่งใหญ่และการเดินทางเข้าถึงได้ง่ายกว่าที่อื่นๆ

เอล กัสตีโย (El Castillo) คือพีระมิดหลักที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง คือหลักฐานสะท้อนถึงความรู้ด้านดาราศาสตร์ของชาวมายัน เพราะบันไดทางขึ้น 4 ด้าน ด้านละ 91 ขั้น และรวมกับแท่นที่อยู่ด้านบน ก็จะได้ 365 ขั้น สื่อถึงจำนวนวันใน 1 ปี

ทั้งนี้ ในช่วงหนึ่งของเดือน มี.ค. และ ก.ย.จะเกิดปรากฏการณ์ที่โลกมีกลางวันเท่ากับกลางคืน ที่เรียกว่า “วิษุวัต” หรือ Equinox ซึ่งจะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวมาที่ชิเชน อิตซ่า มากที่สุด เพราะแสงอาทิตย์ยามบ่ายที่ส่องมามุมตะวันตกเฉียงเหนือของพีระมิดเกิดเป็นเงาของงูขนนก สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมายา ทอดตัวลงไปตามแนวพีระมิด

แน่นอนว่าเรื่องราวของดินแดนอารยธรรมแห่งนี้ยังคงไม่จบอย่างแน่นอน เพราะคุณสามารถติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ทางรายการโลก 360 องศา วันเสาร์นี้ ทาง ททบ.5

Mexico…The land of Civilizations สวย คม เข้ม แบบสาวเม็กซิกัน

 

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"