ความจริงเรื่อง ‘Snowden’ จากถ้อยคำ ‘โอลิเวอร์ สโตน’
หนึ่งในตำนานซึ่งยังมีลมหายใจแห่งแวดวงภาพยนตร์โลก “โอลิเวอร์ สโตน” ในวัย 70 ปี
โดย...แหนง-ดู ภาพ เอพี
หนึ่งในตำนานซึ่งยังมีลมหายใจแห่งแวดวงภาพยนตร์โลก “โอลิเวอร์ สโตน” ในวัย 70 ปี เดินทางมาเยือนไทย (อีกครั้ง) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อแนะนำผลงานใหม่ล่าสุดของเขาคือ Snowden
ผู้กำกับและนักเขียนบทเจ้าของ 3 รางวัลออสการ์ ซึ่งโด่งดังเป็นที่จดจำจาก Platoon, JFK, Natural Born Killers, Wall Street ฯลฯ หลายทศวรรษที่ผ่านมา โอลิเวอร์ สโตน ไม่ได้ทำหนังเพียงเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่เขายังได้ทำหน้าที่สะท้อนและตรวจสอบในหลากหลายประเด็นซึ่งเป็นที่ถกเถียง นับตั้งแต่สงครามเวียดนามมาจนถึงโศกนาฏกรรม 9-11 สำหรับ Snowden เขาได้ฉายภาพการก่อการร้ายทางไซเบอร์ การสอดแนมชีวิตส่วนตัวของประชาชน การเปิดโปงพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ระดับสูง และการเมืองสหรัฐ
หนังสร้างจากเรื่องจริงซึ่งเกิดขึ้นในปี 2013 เมื่อ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน (โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์) ทิ้งงานที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) แล้วบินไปยังฮ่องกงเพื่อพบนักข่าว และเปิดเผยโครงการสอดแนมขนานใหญ่ในโลกไซเบอร์โดยรัฐบาลสหรัฐ เอ็ดเวิร์ด ตั้งใจจะเดินทางไปลี้ภัยในประเทศที่ 3 แต่รัฐบาลสหรัฐได้ยกเลิกพาสปอร์ตทำให้เขาติดอยู่ที่รัสเซีย ชายหนุ่มต้องใช้ความกล้าและละทิ้งทุกอย่าง รวมทั้งคนรัก ลินด์เซย์ มิลส์ (ไชลีน วูดลีย์) เอาไว้เบื้องหลัง
หนังเล่าเหตุการณ์ 5 วันในชีวิต เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ที่เดินทางไปฮ่องกงเพื่อนำข้อมูลลับไปเปิดเผยกับนักข่าว ก่อนจะ “แฟลชแบ็ก” ให้เห็นถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น โอลิเวอร์ สโตน เลือกนำเสนอในมุมที่ต่างจากหนังสารคดีและหนังสือบางเล่ม โดยทีมงานได้บินไปยังมอสโกเพื่อพบกับคนต้นเรื่องตัวจริง รวมทั้งศึกษากระบวนการทำงานภายใน NSA เพื่อให้ได้ความถูกต้อง
คนดูหนังจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน คนที่เกิดในครอบครัวทหารผู้รักชาติ ก่อนจะกลายมาเป็นกบฏต่อสหรัฐ สำหรับ โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ ซึ่งมารับบทนำนั้น โอลิเวอร์ ไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัวมาก่อน เขาเลือกด้วยสัญชาตญาณความเป็นผู้กำกับ ก่อนจะพบว่า โจเซฟ และ เอ็ดเวิร์ด มีหลายอย่างที่คล้ายกัน เมื่อได้พบและพูดคุยกัน “โจชื่นชมเอ็ดมาก และเขาก็ได้นำความรู้สึกนี้ไปใช้ในการแสดง เขาถ่ายทอดภาพของผู้ชายที่เงียบๆ และฉลาดมาก เหมือนคนที่ใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ นั่งเขียนโค้ดโปรแกรม เขาไม่ค่อยแสดงออกมากนัก ผมคิดว่าเขาถ่ายทอดออกมาได้ดี และบุคลิกนี้ก็เป็นส่วนสำคัญในเรื่อง โจทำได้ดีมากในหนัง”
ความท้าทายของ โอลิเวอร์ สโตน ในการทำหนังเรื่องนี้คือ การทำให้โลกของคอมพิวเตอร์ปรากฏออกมาบนจอ “เวลาทำหนังประเภทนี้ คุณต้องคอยเหลียวหลังเอาไว้ตลอดเวลา แต่คุณจะใช้ชีวิตอยู่กับความกลัวไม่ได้หรอก” ระหว่างทำงานทีมผู้สร้างต้องใช้มาตรการเฝ้าระวังขั้นสุด “ผมหวังว่า NSA คงไม่มาตามเอาเรื่องกับผมนะ ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะไม่มายุ่งกับเรา ผมคิดว่าหนังนำเสนอออกมาในแง่ความเป็นมนุษย์มากกว่าที่จะไปหักหน้าพวกเขา”
สำหรับ โอลิเวอร์ สโตน เขาไม่คิดว่าจะเปลี่ยนโลกได้ด้วยหนังเรื่องนี้ “เป้าหมายของผมในที่นี้คือ การเล่าเรื่องราวดราม่าที่หนักแน่นเท่านั้นเอง คนบางคนอาจไม่ หนังเรื่องนี้ไม่มีการยิงกันหรือการไล่ล่า เรามุ่งนำเสนอ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ตัวจริง ซึ่งยังเป็นคนหนุ่มที่มีพลังและความกระตือรือร้น เขามีความคิดความอ่านที่ผ่านการกลั่นกรองมาเป็นอย่างดีว่าสหรัฐสามารถปกป้องตนเองได้อย่างไร เพราะเขาใส่ใจในเรื่องนี้จริงๆ สหรัฐมีสิทธิที่จะปกป้องตัวเอง แต่ความแตกต่างระหว่างการใช้สิทธินั้นกับการใช้มันในทางที่ผิดเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเขา และผมก็เห็นด้วยในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ คำถามคือ คุณจะยอมทำมากแค่ไหนเพื่อหยุดยั้งสิ่งที่คุณเชื่อว่าเป็นการใช้อำนาจในทางที่ผิด”
กับคำถามที่ว่า แท้จริงแล้ว เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน เป็นผู้ทรยศชาติหรือเป็นฮีโร่นั้นคำตอบมีอยู่ในหนัง “อยากให้ทุกคนได้ไปชม และตัดสินใจเอง” โดยผู้กำกับคนดังได้ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไม เอ็ดเวิร์ด ต้องนำชีวิตตัวเองไปเสี่ยงโดยที่ไม่ได้รับค่าจ้างหรือผลประโยชน์ใดๆ และรัฐบาลสหรัฐต้องการอะไรกับการสอดแนมและรวบรวมข้อมูลผ่านการแกะรอยการสื่อสารทางดิจิทัลทุกรูปแบบ ไม่เพียงในหมู่รัฐบาลต่างประเทศและกลุ่มก่อการร้าย แต่ยังรวมถึงชาวอเมริกันทั่วไปของรัฐบาลทำให้ประชาชนหวาดกลัว นั่นทำให้เหตุผลที่บอกว่าทำเพื่อป้องกันการก่อการร้ายนั้นเป็นเหมือนข้ออ้าง สหรัฐซึ่งมี “พาวเวอร์” มากถึงกับทำให้บางประเทศที่ห่างไกลออกไปไฟดับทั้งหมดได้ พวกเขาต้องการที่จะเป็น “เจ้าโลก” หรืออย่างไร?
“ผมไม่ได้มาปฏิวัติเปลี่ยนแปลงอะไร สิ่งที่คุณทำได้จากหนังหนึ่งเรื่องย่อมมีขอบเขตจำกัด และผมก็ไม่ได้ตั้งตนเป็นนักกิจกรรมทางการเมือง ผมแค่พยายามทำสิ่งที่ตรงกับจิตสำนึกและความหลงใหลของผมก็เท่านั้นเอง”
ไปสัมผัสกับ “จิตสำนึก” และ “ความหลงใหล” ของ โอลิเวอร์ สโตน ในหนัง Snowden ได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านคุณ


