posttoday

นันทิยา-พัชรินทร์ เหมอังกูร เราเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน

20 สิงหาคม 2559

เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม เราจึงชอบอยู่ด้วยกันเป็นหมู่คณะ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้แต่จะดีแค่ไหนที่เราได้ทำงาน

โดย...อณุสรา  ทองอุไร ภาพ... ภัทรชัย  ปรีชาพานิช

เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม เราจึงชอบอยู่ด้วยกันเป็นหมู่คณะ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้แต่จะดีแค่ไหนที่เราได้ทำงานกับคนที่เรารักและไว้ใจ แบบมองหน้าก็รู้ใจ เช่นเดียวกับพี่น้องสองสาวคู่นี้ ที่ก่อร่างสร้างธุรกิจ บริษัท กรูเม่ท์ วัน ฟู้ด เซอร์วิส มาเกือบ 12 ปี นำเข้าอาหารและเครื่องดื่มระดับพรีเมียมจากยุโรปและอเมริกา ไม่ว่าจะไวน์ ชีส คาเวียร์ เนื้อวัว แฮม ช็อกโกแลต ตับบด
ล็อบสเตอร์ ผัก อาหารกระป๋อง ฯลฯ มาด้วยกันช่วยกันบริหารจนรุ่งเรืองไปได้ดีพี่สาวคือ เจี้ยบ-นันทิยา เหมอังกูร เป็นผู้จัดการทั่วไปรับผิดชอบงานด้านการตลาดกิจกรรมพิเศษต่างๆ ขณะที่น้องสาวจ้อ-พัชรินทร์ เหมอังกูร รับผิดชอบเรื่องสินค้า สต๊อก การส่ง-สั่ง สินค้า การเงิน และประสานกับเชฟต่างๆ ทั้งคู่บอกว่าธุรกิจอาหารนั้นไม่มีวันตาย สินค้าที่บริษัทเธอนำเข้ามีกว่า 1,000 ชนิดของไลน์สินค้า โดยมีกลุ่มลูกค้าระดับบีบวกขึ้นไป มียอดการขายปีละหลายร้อยล้านบาท ยอดขายมีอัตราการเติบโตขึ้นทุกปี

“ยุคนี้โลกมันแคบขึ้นทุกวัน เราติดตามข่าวสารกันได้หลายทางทั้งทีวี หนังสือ หรือแม้แต่โซเชียลมีเดียต่างๆ บางคนก็เดินทางไปต่างประเทศกันมากขึ้น ได้รู้ได้เห็นได้ชิม อาหารจากที่ต่างๆ ทำให้เขาเปิดกว้างอย่างทดลองอาหารใหม่ๆ เปิดใจรับสินค้าใหม่ๆ ทำให้สินค้าที่เรานำเข้าได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี เปิดบริษัทนำเข้าอาหารมากว่า 10 ปี ยอดขายโตขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี” ทั้งคู่ช่วยกันเล่า

ด้วยวัยที่ห่างกันเพียงแค่ 2 ปี และมีกันเพียงสองคนพี่น้องทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็กๆ จนหลายคนเข้าใจว่าทั้งคู่เป็นคู่แฝดเพราะตัวติดกันตลอดเวลา เรียนด้วยกันนอนห้องเดียวกัน ช็อปปิ้งด้วยกัน คือแทบจะอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชม. มาแยกกันบ้างตอนเรียนมหาวิทยาลัย เนื่องจากพี่สาวไปเรียนด้านบริหารที่มหาวิทยาลัย สแตมฟอร์ด  ขณะที่น้องสาวไปเรียนด้านบริหารคอมพิวเตอร์ ที่มหาวิทยาลัยรังสิต นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ต้องแยกจากกัน และเป็นครั้งแรกที่เริ่มแยกห้องนอนกัน จนน้องสาวต้องมาขอทำการบ้านให้พี่เพื่อจะได้เข้ามานัวเนียในห้องของพี่สาว เพราะชีวิตที่ผ่านมาเคยมีกันและกันตลอดเหมือนเพื่อนสนิทคุยกันได้ทุกเรื่องไม่เคยมีความลับต่อกัน แค่มองตากันก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร ต้องการแบบไหน

ทั้งคู่บอกว่าตั้งใจไว้เลยตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยแล้วว่า จะไม่ไปทำงานเป็นลูกน้องใครจะพยายามหาธุรกิจทำด้วยกัน 2 คนพี่น้องเพื่อที่จะได้มาใกล้ชิดด้วยกันเหมือนเดิมไม่ต้องไปแยกกันทำงาน เหนื่อยด้วยกันได้ด้วยกัน “คือเราเหมือนแฝดมากกว่าพี่น้องเพราะคิดเหมือนกัน ชอบเหมือนกันตอนนี้แต่งงานมีครอบครัวแยกบ้านกันไปแล้ว เราก็ยังต้องโทรศัพท์คุยกันทุกวัน แม้ว่าส่วนใหญ่ก็จะเจอกันที่ออฟฟิศของเราอยู่แล้ว และเวลาไปช็อปปิ้งเราก็จะใจตรงกันซื้ออะไรมาเหมือนกัน และบ่อยที่สุดก็คือใส่ชุดมาจ๊ะเอ๋กัน คือไม่ได้นัดแนะกันนะต่างคนต่างมาอ้าวใส่ชุดมาชนกัน ตอนหลังเวลาจะไปงานด้วยกันต้องโทรไปบอกว่าพี่จะใส่ชุดนี้เธออย่าใส่มาชนกันนะต้องนัดกันเพื่อแต่งตัวไม่ให้เหมือนกัน  หรือแม้เวลานัดไปกินข้าวกันตามศูนย์การค้าเราก็ยังมาจอดรถบริเวณใกล้เคียงกัน แบบใจเรานี่ตรงกันตลอดเวลา” พี่สาวเล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดี

ขณะที่น้องสาวก็เสริมว่า “เวลาไปช็อปปิ้งหากพี่สาวไม่มีเวลา เขาจะฝากจ้อซื้อของมาเผื่อด้วย ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า รองเท้าเสื้อผ้าจ้อซื้อมาให้แบบไม่เคยพลาดทั้งแบบและขนาดพอดีเป๊ะอะไรจะรู้ใจกันขนาดนั้น เราว่าคู่แฝดบางคู่อาจจะรู้ใจกันน้อยกว่าคู่ของเรานะคะ แล้วเรา 2 คนนี่แทบจะไม่ค่อยทะเลาะกันเลยน้อยมาก แล้วถ้าเรางอนกันแค่วันสองวันเท่านั้นเราทั้งคู่ก็จะพยายามมาคืนดีกันโดยเอาเรื่องงานมาอ้าง และในส่วนของเรื่องงานเราก็ไม่เคยขัดแย้งกันเพราะเราแบ่งหน้าที่กันชัดเจนเราจะไม่ก้าวก่ายหน้าที่กัน 99 เปอร์เซ็นต์ เรามักเห็นตรงกันเสมอ”น้องสาวเล่าอย่างมีความสุข

นันทิยา-พัชรินทร์ เหมอังกูร เราเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน

 

พี่สาวฝากถึงน้องสาว

เพราะมีกันเพียง 2 คน พี่น้องเขาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเรา เป็นเพื่อนสนิท เป็นคนที่ไว้วางใจ เป็นคนที่เราสามารถตายแทนได้นึกภาพไม่ออกว่าถ้าไม่มีเขาชีวิตเราจะเป็นอย่างไร เขาเติมเต็มให้กับชีวิตเราเสมอ มีน้องสาวทำให้ชีวิตเรามีความลงตัว ตอนน้องสาวแต่งงานนี่ใจหายมากคิดว่าชีวิตขาดอะไรไปเหงาเลยตอนนั้น

“เจี้ยบเป็นคนคิดเร็วทำเร็วชอบตะลุยไปข้างหน้า แต่น้องสาวเขาจะช้านิดหนึ่ง เขาจะรอบคอบเก็บรายละเอียดคอยบาลานซ์คอยเตือนเมื่อเราเร็วเกินไปเขาทำให้เราไม่พลาด เขาติดพี่สาวเด็กๆ จะเข้ามาพัวพันแต่เวลางอนกันพี่สาวก็จะคอยง้อน้องตลอด แทบไม่เคยจะทะเลาะกันเลย เขาดีพร้อมสำหรับเราไม่มีอะไรต้องเตือนเขา แค่ห่วงว่าเขาทำงานหนักมากเกินไปเขามีความสุขกับการทำงานเขาชอบไปทำงานวันหยุดไม่มีอะไรทำเธอก็เข้าออฟฟิศ อยากให้เขาพักๆ บ้าง มีเวลาให้ครอบครัวบ้างเพราะเขามีลูก แล้วก็ขี้เหนียวไม่ค่อยใช้เงิน ทำงานเหนื่อยมากก็ใช้บ้างเถอะ” เธอฝากถึงน้องสาว

นันทิยา-พัชรินทร์ เหมอังกูร เราเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน

 

น้องสาวฝากถึงพี่สาว

พี่สาวเขาน่ารักทุกอย่างใจดี ไม่ดุ ไม่จู้จี้จุกจิก ไม่ค่อยขัดใจน้องด้วยเขาก็ตามใจน้องเหมือนกัน รักเขาที่สุดเหมือนกัน “ห่วงเรื่องเดียวคือเรื่องสุขภาพ พี่เคยป่วยหนักมากๆ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา จ้อใจเสียเลย ไปนอนเฝ้าเขาเกือบทุกวัน ตับเขาไม่แข็งแรง ตกใจมากตอนเขาป่วยไม่คิดว่าจะเป็นหนักขนาดนั้นเพราะรองจากแม่ก็พี่สาว เขาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรา เรายอมพี่มาตลอดไม่อยากขัดใจพี่ยิ่งเขามาป่วยตอนนั้นเราจิตตกเลย ตอนนี้คืออะไรที่เขาสบายใจเราจะตามใจไม่อยากให้เขาเครียด อยากให้เขามีความสุข ตอนนี้อะไรที่ทำแทนได้เรื่องงานเราจะทำแทนให้ อยากให้เขาพักเยอะๆ อยากให้เขามีลูกสมใจนึก อะไรที่เขาทำแล้วมีความสุขเราจะไม่ห้ามเลย เรารู้ว่าเขารักน้องแล้วก็รักลูกเราด้วยตามใจหลานมากซื้อของให้น้องให้หลานตลอดเวลา โชคดีที่ได้เป็นน้องสาวเขารักเขาที่สุด” เธอกล่าวอย่างซาบซึ้ง

ข่าวล่าสุด

ผลบอล โยเคเรสซัดโทษ! อาร์เซน่อล1-0 เอฟเวอร์ตัน,ลิเวอร์พูล 2-1