ยิ่งยงเยี่ยงราชา ในนามของ ‘ควีน’

โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง

หนึ่งในวงร็อกที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล วง “ควีน” (Queen) กำลังจะมาขึ้นเวทีเพื่อแสดงให้ชาวไทยได้ตระหนักถึงความเป็นอมตะ แม้ว่าควีนในวันนี้จะเปลี่ยนแปลงไปจากจุดเริ่มมากมาย แต่ “หัวใจ” และ “แก่นแกน” ยังคงอยู่ให้ได้สัมผัส ทั้งยังมีอดีตอันงดงามให้หวนรำลึกถึงเสมอ

ควีนฟอร์มวงในปี 1971 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ สมาชิกเมื่อแรกเริ่มประกอบด้วย เฟรดดี เมอร์คิวรี (นักร้องนำ/เปียโน) ไบรอัน เมย์ (กีตาร์/ร้อง) โรเจอร์ เทย์เลอร์ (กลอง/ร้อง) และ จอห์น ดีคอน (เบส)

พวกเขาสร้างสรรค์บทเพลงโดยได้รับอิทธิพลจาก โปรเกรสซีฟ ร็อก, ฮาร์ด ร็อก และ เฮฟวี เมทัล ที่แตกต่างไปคือควีนทำให้เพลงของตนเองสามารถเข้าถึงได้ง่าย เป็น
ป๊อปร็อกซึ่งเปิดออกอากาศทางวิทยุก็ได้

ควีนเริ่มเป็นที่สนใจในวงกว้างด้วยอัลบั้มที่ 2 Queen II ในปี 1974 และประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักระดับนานาชาติกับอัลบั้ม A Night at the Opera (ปี  1975) ซึ่งมีเพลง Bohemian Rhapsody รวมอยู่ด้วย 2 ปีต่อมาพวกเขาตอกย้ำความสำเร็จด้วยอัลบั้ม News of the World ที่รวมเพลง We Will Rock You และ We Are the Champions อยู่ในนั้นด้วย

ในศตวรรษ 1980 ควีน คือ หนึ่งในวง “สเตเดียม ร็อก” ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก การแสดงที่คอนเสิร์ตไลฟ์เอดในปี 1985 ถูกบันทึกให้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ดนตรีร็อก ในปี 1991 เฟรดดี เมอร์คิวรีย์ เสียชีวิตจากเอดส์ และหลายปีต่อมา จอห์น ดีคอน ก็เกษียณตัวเอง แต่ ไบรอัน เมย์ และ โรเจอร์ เทย์เลอร์ คงโลดแล่นไปต่อ

ควีนเป็นเจ้าของ 18 อัลบั้มอันดับ 1 และ 18 ซิงเกิ้ลอันดับ 1 ทุกๆ ผลงานของวงขายได้มหาศาล สร้างสถิติให้ควีนเป็นหนึ่งในศิลปินที่ขายงานได้มากที่สุดในโลก ความยิ่งใหญ่ของวงทำให้ควีนถูกเสนอชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศ ร็อกแอนด์โรลล์ ฮอล ออฟ เฟม และ ยูเค มิวสิค ฮอล ออฟ เฟม พวกเขาเป็นแรงบันดาลใจและอิทธิพลให้กับคนรุ่นหลังมากมาย ทุกวันนี้บทเพลงของควีนยังคงขับขานให้ได้ยินในวาระต่างๆ เสมอ

ความสำเร็จของควีนนั้นส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้กับ เฟรดดี เมอร์คิวรีย์ นักร้องนำ ด้วยเสียงร้องที่ทรงพลัง มีช่วงเสียงที่กว้างถึง 4 ออคเทฟ ทั้งยังเป็นนักเขียนที่มีความสามารถ และเป็น “โชว์แมน” ที่ครองใจคนดูได้อยู่หมัด หลายบทเพลงจากฝีมือของควีน เป็นงานของเฟรดดี รวมถึง Bohemian Rhapsody, Killer Queen และ We Are The Champions ในอัลบั้มรวมฮิตของควีนนั้นเป็นเพลงที่เฟรดดีแต่งถึง 10 จากทั้งหมด 17 เพลง

บนเวทีเขาสามารถทำให้คนดูตะลึง ไม่ว่าจะด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์และลีลา เฟรดดีทำให้การแสดงของควีนคือ สิ่งที่ “ไม่ควรพลาด”

เช่นนั้นเอง เมื่อ ไบรอัน เมย์ และ โรเจอร์ เทย์เลอร์ ตัดสินใจที่จะโลดแล่นต่อไปบนเส้นทางดนตรี พวกเขาจึงพยายามอย่างมากที่จะมองหาคนมาทำหน้าที่ของ เฟรดดี เมอร์คิวรีย์ แน่นอนว่า ไม่มีใครแทนที่เขาได้ แต่อย่างน้อยที่สุดนักร้องซึ่งจะมายืนกลางเวทีและขับขานบทเพลงของควีน ก็ต้องมีทั้งความสามารถ เสน่ห์ และมีจิตวิญญาณซึ่งเข้ากันได้กับความเป็นควีน

เมื่อปี 2009 พวกเขาได้พบกับ อดัม แลมเบิร์ต เจ้าของเสียงทรงพลังผู้โดดเด่นบนเวทีประกวด อเมริกัน ไอดอล อดัมถูกชักชวนมาร่วมโชว์ We are the Champions ตามมาด้วยการแสดงปิดงาน MTV European Music Award ในปี 2012 จึงจัดทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกในยุโรป ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ตามด้วย Queen + Adam Lambert ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีทั้งในยุโรปและอเมริกา ในปี 2016 นี้ พวกเขาออกเดินทางเยือนเอเชีย ซึ่งมีประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้วย

 

Queen + Adam Lambert On Tour in Bangkok จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 30 ก.ย.นี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี บัตรราคาเริ่มต้น 2,000 บาท จำหน่ายที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ข้อมูลเพิ่มเติมโทร.02-262-3838

จากเซ็ตลิสต์ของ Queen + Adam Lambert ที่เปิดการแสดงในหลายประเทศมาแล้วนั้น บทเพลงที่ “คาดว่า” จะได้ยินได้ในการแสดงที่เมืองไทย ย่อมรวมถึงสุดยอดเพลงของควีน อาทิ

We Will Rock You / We Are the Champions (จากอัลบั้ม News of the World ปี 1977): 2 บทเพลงที่มักเล่นต่อเนื่องกันเสมอ จนรู้สึกว่า “ไม่ใช่” หากต้องแยกกัน ทั้งสองยังคงเปิดทางวิทยุ รวมทั้งในการแข่งขันกีฬาต่างๆ อยู่เสมอ เป็น 2 เพลงที่ “ไม่มีวันตาย” ทั้งยังบอกเล่าความเป็นควีนได้อย่างดี เมื่อหนึ่งวงดนตรีกำเนิดมาเพื่อ “ร็อก” ทุกคน และพวกเขาก็ทำได้ ที่สุดก็กลายเป็น “แชมเปี้ยน” ตลอดกาล

Bohemian Rhapsody (จากอัลบั้ม A Night at the Opera ปี 1975) : เพลงที่ทำให้ควีนกลายเป็นวงสามัญประจำบ้านจนกระทั่งปัจจุบัน เพลงนี้มีโครงสร้างหลายสัดส่วน รวมทั้งท่อนที่เป็นโอเปร่าตรงกลางทำให้เป็นเรื่องยากที่จะขาย แต่เพราะเป็นเพลงของควีน ซึ่งมีมุมมองและความสามารถ พวกเขาทำให้เพลงยากๆ นี้กลายเป็นเพลงป๊อปๆ และขึ้นทำเนียบหนึ่งในเพลงร็อกที่ดีที่สุดในโลกตลอดกาล

Somebody to Love (จากอัลบั้ม A Day at the Races ปี 1976) : หนึ่งในเพลงของควีนที่ได้รับอิทธิพลจากบีเทิลส์ โดดเด่นด้วยการร้องประสาน และเทคนิคในห้องอัดสร้าง “เลเยอร์” ของเสียงร้องซึ่งกลายมาเป็นแฟชั่นของวงการดนตรีในภายหลัง แทร็กนี้ยังเป็นตัวอย่างของการอาร์เรนจ์เพลงอันเยี่ยมยอดของควีนด้วย

นอกจากนี้ เราก็คาดหวังจะได้ฟัง I Want It All, Don’t Stop Me Now, Another One Bites the Dust, Love of My Life, Under Pressure, Radio Ga Ga ฯลฯ

และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน วงดนตรีผู้ยิ่งยงเยี่ยงราชา ในนามของ “ควีน” ก็จะแสดงพลังของวงให้ปรากฏ ผ่านการแสดงของสมาชิกควีนที่เหลืออยู่ และผู้ที่ถูกเลือกมาใหม่