โลกชื่นชมนักยิมนาสติก2เกาหลีร่วมเซลฟี่ลืมความเป็นศัตรู
แฟนกีฬาร่วมชื่นชมนักยิมนาสติกเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ร่วมถ่ายภาพเซลฟี่อย่างสนิทสนมขณะวอร์มร่างกายเพื่อเตรียมแข่งขัน
แฟนกีฬาร่วมชื่นชมนักยิมนาสติกเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ร่วมถ่ายภาพเซลฟี่อย่างสนิทสนมขณะวอร์มร่างกายเพื่อเตรียมแข่งขัน
สองประเทศในคาบสมุทรเกาหลีอย่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ยังคงอยู่ในสภาวะสงครามมาตลอดนับตั้งแต่ลงนามในสัญญาสงบศึกเมื่อปี 1953 และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศยิ่งร้าวฉานหนักมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าพัฒนาอาุวธนิวเคลียร์ของฝ่ายเหนือ และยังยิงอาวุธถล่มดินแดนของฝั่งใต้อยู่เนืองๆ
แต่ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกซึ่งกำลังจัดขึ้นที่นครรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล ภาพที่ทุกคนไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นก็เกิดขึ้น เมื่อนักกีฬาจากสองชาติคู่แค้นหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายเซลฟี่ด้วยกัน จนมีช่างภาพเก็บภาพหายากนี้ไว้ได้
อีอึนจู วัย 17 ปี จากเกาหลีใต้ และฮองอึนจอง วัย 27 ปี ของเกาหลีเหนือ ถ่ายเซลฟี่ด้วยกันอย่างยิ้มแย้มระหว่างที่ทั้งสองกำลังวอร์มร่างกายเพื่อเตรียมแข่งขันยิมนาสติกรอบคัดเลือก นอกจากนี้ ยังมีภาพที่สองนักยิมนาสติกพูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนิทสนม ต่างจากนักกีฬาจากประเทศเลบานอนที่ปฏิเสธไม่นั่งรถบัสคันเดียวกับนักกีฬาของอิสราเอล อ้างว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่ง
แม้ทั้งสองประเทศจะเกิดรอยร้าวลึกจนไม่อาจประสานได้ แต่ภาพเซลฟี่ของทั้งสองคนกลับได้รับเสียงชื่นชมมากมาย โดย เอียน เบรมเมอร์ นักรัฐศาสตร์ชาวอเมริกัน ได้โพสต์ภาพดังกล่าวลงในทวิตเตอร์ พร้อมกับแคปชั่นใต้ภาพว่า “นี่คือเหตุผลที่เราจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก” ภายหลังมีการรีทวีตโพสต์ของเบรมเมอร์มากกว่า 20,000 ครั้ง
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบางรายยังยกให้ช็อตเด็ดนี้เป็นไอคอนประจำการแข่งขันโอลิมปิก 2016 ขณะเดียวกันก็มีการแสดงความกังวลว่า หากฮองเดินทางกลับบ้านเกิดที่เกาหลีเหนือ เธอจะถูกผู้นำ คิมจองอึน สั่งลงโทษให้ไปใช้แรงงานหรือไม่ โทษฐานที่ไปญาติดีกับศัตรู เพราะผู้นำโสมแดงห้ามไม่ให้ประชาชนของตัวเองติดต่อหรือพูดคุยกับชาวเกาหลีใต้โดยตรง เนื่องจากทั้งสองประเทศยังอยู่ในภาวะสงคราม และการติดต่อกันโดยตรงอาจถูกมองว่าเป็นการกระทำของจารชนหรือผู้ทรยศต่อชาติ
กระแสความกังวลต่อสวัสดิภาพของนักกีฬาเกาหลีไม่ใช่เรื่องที่เกินกว่าเหตุ เพราะทุกครั้งหลังจากการแข่งขันกีฬาระดับโลกที่เกาหลีเหนือส่งนักกีฬาเข้าร่วมจบลง มักตามมาด้วยรายงานข่าวเรื่องผู้นำสูงสุดสั่งลงโทษนักกีฬาที่แพ้โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพ้ให้กับศัตรูสำคัญอย่างสหรัฐและเกาหลีใต้ ให้ไปใช้แรงงาน กรณีที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้คือ การสั่งให้ คิมจองฮุน โค้ชนักฟุตบอลทีมชาติที่คุมทีมพ่ายแพ้ 3 นัดรวดในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2010 ไปเป็นกรรมกรก่อสร้างและถอดออกจากสมาชิกพรรคแรงงาน ในข้อหาทรยศต่อคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของประเทศ
อย่างไรก็ดี แม้ทั้งสองประเทศจะขัดแย้งกันมาอย่างยาวนาน แต่ในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ มีการกำหนดธงรวมเกาหลีเพื่อเป็นตัวแทนของทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เริ่มใช้ครั้งแรกเมื่อปี 1991 โดยทั้งสองประเทศได้ส่งนักกีฬาเป็นทีมเดียวกันร่วมการแข่งขันเทเบิลเทนนิสชิงแชมป์โลกครั้งที่ 41 ที่เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น และการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลกครั้งที่ 8 ที่กรุงลิสบอนของโปรตุเกส สองเกาหลีเดินขบวนร่วมกันภายใต้ธงรวมเกาหลีเป็นครั้งแรกในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2000 ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ที่มา www.m2fnews.com
ภาพจาก www.telegraph.co.uk


