คุยกับ เอ็มม่า โรเบิร์ต ดาราสาวสุดฮอตจาก "Nerve เล่นเกม เล่นตาย"

 เอ็มม่า โรเบิร์ต สวมบทนักเรียนม.ปลาย เล่นเกมท้าตายใน Nerve  ท้าให้ลอง ถ้าคุณกล้าพอ

หลังจากไปโลดแล่นในทีวีซีรีย์กับเรื่อง Scream Queens จนติดอันดับซีรีย์ยอดฮิตในอเมริกา  เอ็มม่า โรเบิร์ต ดาราสาวดาวรุ่งพุ่งแรงของฮอลลีวูดกลับมามีผลงานทางจอเงินอีกใน Nerve ภาพยนตร์ระทึกขวัญที่ถูกคาดการณ์ว่าจะสร้างเซอร์ไพรซ์ในช่วงซัมเมอร์ที่จะมาถึงนี้

เตรียมพบกับประสบการณ์ออนไลน์สุดระทึก กับภาพยนตร์ดัดแปลงจากวรรณกรรมเรื่อง Nerve โดย จีน ไรอัน เรื่องราวระทึกขวัญของ วี (เอ็มม่า โรเบิร์ต) นักเรียนชั้นมัธยมปลายคนหนึ่ง ผู้ที่ติดการเล่นเกมออนไลน์แนว "จริงหรือกล้า" (Truth or Dare) ในชื่อ “Nerve” เป็นอย่างมาก ในช่วงแรก เธอได้จับคู่กับหนุ่มหล่ออย่าง เอียน (เดฟ ฟรังโก) เพื่อทำภารกิจร่วมกัน

แต่เมื่อช่วงเวลาแห่งความสนุกสนานผ่านไป ทุการกระทำของเธอภายในเกม กลับตกอยู่ภายใต้การชักใยของกลุ่มคนปริศนาที่เรียกตัวเองว่า "ผู้ชม" (Watchers) เธอเริ่มรู้สึกว่า เกมๆ นี้ รู้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนของเธอทั้งหมด ภารกิจแห่งความ “กล้า” เริ่มเสี่ยงตายขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งทั้งสองถูกสั่งให้ไปยังสถานที่ลับแห่งหนึ่ง ที่มีผู้เล่นคนอื่นพร้อมชิงรางวัลของเกม แต่ทันใดนั้น จากเกมสนุกๆ กลับกลายเป็นการเสี่ยงตายเอาชีวิตรอด ที่อาจทำให้ชีวิตของพวกเขา ไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป

ในความคิดคุณ Nerve คืออะไร ?

มันคือเกมที่คุณสามารถเลือกเป็นได้ทั้งผู้เล่นและผู้ชม ถ้าคุณเลือกเป็นผู้เล่น คุณจะต้องเล่นตาม “คำท้า” ที่ถูกจัดให้ตามโปรไฟล์ของคุณในโลกออนไลน์ ถ้าคุณทำสำเสร็จคุณก็จะได้เงิน ได้ชื่อเสียง จริงๆมันเป็นเกมที่โหดมาก มันจะเริ่มด้วยการท้าที่พอจะเป็นไปได้ก่อน เช่นปีนบันไดจากตึกสูงสิบชั้นเพื่อเงินร้อยเหรียญ จากนั้นการท้าจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนคุณรู้ว่าเกมนี้มันคลั่งมากกว่าที่คุณคิดไว้ตอนแรกเยอะ แต่สายไปแล้วที่จะถอนตัวเพราะถ้าคุณเล่นไม่จบเกม สิ่งที่คุณทำมาถือว่าสูญเปล่า

ตัวละครที่คุณเล่น วี เดลโมนิโค่ เป็นใคร ช่วยพูดถึงตัวละครตัวนี้หน่อย

วี เป็นเด็กสาวมอปลาย เธอเป็นเด็กธรรมดาทั่วไป ออกจะขี้อายด้วยซ้ำ เธออยากจะเข้าไปเรียนมหาลัยด้านศิลปะที่คาลิฟอร์เนีย แต่กลัวแม่ตัวเองจะผิดหวังเ พราะแม่เธอยากให้เธอเรียนด้านวิชาการหน่ะ ในตอนต้นของเรื่องเธอไม่กล้าเสี่ยงอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่พอเธอได้กลายเป็นผู้เล่นของ Nerve เพราะถูกเพื่อนยุให้เล่น เธอเริ่มกลายเป็นคนมั่นใจ กล้าเสี่ยง เธอบังเอิญเจอเอียนในการท้าครั้งแรกของเธอ ซึ่งเขาก็เป็นผู้เล่นของเกมนี้เหมือนกัน ด้วยเคมีที่ลงตัวทำให้ทั้งคู่กลายมาเป็นคู่หูกันตามเสียงโหวตของคนดู แต่เมื่อเกมยิ่งอันตรายขึ้น เธอได้รู้ถึงเบื้องหลังอันดำมืดของเอียน เธอได้บทเรียนว่าในโลกออนไลน์นั้นไม่สามารถไว้ใจใครได้

 

Nerve มีประเด็นอะไรที่น่าสนใจ ที่ทำให้คุณเข้าร่วมโปรเจ็คนี้

Nerve ตีแผ่ด้านมืดของอินเตอร์เนท ที่ซึ่งคำว่า “ส่วนตัว” ไม่มีอยู่จริง ทุกคนสามารถเห็นทุกอย่างที่คุณแชร์บนนั้น ไม่ว่าคุณจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ซึ่งทุกคนเข้าใจได้เพราะพวกเราในสมัยนี้ล้วนเอาชีวิตไปผูกไว้กับมัน หนังเรื่องเอาประเด็นนั้นมาเล่า โดยผลักมันไปให้สุดทาง ทุกวันนี้ฉันต้องคิดแล้วคิดอีกกว่าจะโพสอะไรลงอินสตราแกรมได้ (หัวเราะ)

ฉันอ่านบทอยู่หลายเรื่องเลยนะช่วงนั้น แต่ฉันขอบอกเลยว่าบท Nerve นั้นโดดเด่นกว่าทุกเรื่อง มันมีส่วนประกอบทุกของหนังที่ฉันอยากดู ทั้งแอ็คชั่น แต่ก็ไม่ทิ้งความโรแมนติค ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในนิวยอร์ค ฉันรู้สึกพิเศษเกี่ยวกับหนังที่มีฉากหลังเป็นนิวยอร์ค ฉันรู้เลยว่าฉันต้องเล่นหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่อ่านบทจบ

 

 

การทำงานร่วมกับสองผู้กำกับ (เฮนรี่ จูสท์ และ เอเรียล ชูลล์แมน) เป็นอย่างไรบ้าง

เยี่ยมมากเลย ฉันประทับใจในการเตรียมงานของพวกเขามาก ทั้งคู่มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผม การวางมุมภาพ ไปจนถึงแก้บทสนทนา ตอนฉันเจอพวกเขาครั้งแรก เขายื่นหนังสือเล่มนึงให้ฉันในนั้นรวมอารมณ์และโทนของหนังทั้งเรื่องไว้ ทำให้ฉันนึกภาพออกว่าเรื่องทั้งเรื่องจะออกมาแบบไหน ทั้งคู่ทุ่มเทในงานด้านภาพมาก พวกเขาทำให้เมืองนิวยอร์คเหมือนเป็นตัวละครหนึ่งในเรื่อง ซึ่งคุณจะไม่ได้ใเห็นนิวยอร์คแบบในเรื่องนี้ที่ไหนมาก่อนแน่นอน เฮนรี่ กับ เอเรียลเป็นผู้กำกับที่น่าทึ่ง ทั้งคู่ทำงานประสานกันได้อย่างลงตัว การร่วมงานกับทั้งสองมอบประสบการณ์ใหม่ให้ฉันมาก และฉันอยากที่จะร่วมงานกับพวกเขาอีกในอนาคต

 

 

คุณมีอะไรเมาท์ถึง เดฟ ฟรังโก้ บ้างไหม ?

ฉันกับเดฟรู้จักกันมา 5 ปีแล้ว เราเจอกันครั้งแรกตอนถ่ายมิวสิควีดิโอ พวกเราซี้กันเร็วมาก มันไม่มีช่วงทำความรู้จักที่น่าอึดอัดเลย มันมีฉากนึงในเรื่องที่เดฟต้องร้องเพลงจีบวี คือมันเป็นส่วนหนึ่งของการท้าอ่ะนะ ซีนนั้นเดฟดูกังวลมากเลย น่าแปลกเพราะว่าขนาดซีนขับมอเตอร์ไซกลางเมืองซึ่งทั้งเร็ว ทั้งหวาดเสียวเขายังดูชิลกว่า คือเสียงร้องขามันสุดจะบรรยายจริงนะ แต่มันก็เข้ากับคาแรคเตอร์ เอียน เพราะเขาเป็นคนมั่นใจในตนเองมากๆ โดยที่ไม่สนว่าคนอื่นจะคิดยังไง ฉันหวังว่าเขาคงไม่ต้องถ่ายซีนร้องเพลงอีกต่อไปในหนังเรื่องอื่นนะ (หัวเราะ)