ลูกนกตกรัง
เรื่องนี้อาจนำเสนอล่าช้าผิดฤดูกาลไปนิด (เพราะผมลืม แหะๆ) แต่อยากบันทึกไว้ เผื่อมีประโยชน์กับคนที่มีประสบการณ์คล้ายกัน
โดย...ปริญญา ผดุงถิ่น
เรื่องนี้อาจนำเสนอล่าช้าผิดฤดูกาลไปนิด (เพราะผมลืม แหะๆ) แต่อยากบันทึกไว้ เผื่อมีประโยชน์กับคนที่มีประสบการณ์คล้ายกัน
ช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาซึ่งอากาศร้อนจัดมากๆ โลกโซเชียลปรึกษาปัญหาลูกนกตกรังกันมากมาย ผมเองก็เจอกับตัวด้วย ลูกนกกระจอกตกจากรังที่ชายคาแล้วแมวคาบมาโชว์ เลยแย่งจากปาก เอามาปล่อยบนระเบียงชั้น 2 อันปลอดภัย
ความหวังของผมก็คือ พ่อแม่นกจะตามหาลูกเจอ แล้วมาเลี้ยงดูนอกรังกันต่อ สถานการณ์คล้ายๆ กันนี้ ผมเคยทำสำเร็จมาแล้วกับลูกนกเอี้ยง ณ ระเบียงเดียวกัน
ลูกนกกระจอกขนขึ้นเกือบเต็มแล้ว มีบาดแผลจากแมวบนหัวและต้นขา แต่ยังดูแข็งแรง ยืนไหว ส่งเสียงร้องได้ ผมแอบดูหลังม่านไม่นาน ก็เห็นพ่อแม่นกตามมาเจอ พวกมันต่างดีใจที่ได้เห็นหน้ากันอีกครั้ง เข้าไปทักทายกันวุ่นวาย จากนั้นก็เป็นการหาเหยื่อมาป้อนอุตลุด
แม้นกกระจอกจะดูเหมือนพวกกินพืช หรือดอดกินข้าวหมาข้าวแมว แต่เวลาเลี้ยงลูกน้อย เห็นเลยว่ามันคาบแต่หนอนมาป้อน (ผมเองก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละ แหะๆ)
กลางคืนดึกดื่น ผมออกไปส่องไฟฉาย ก็เห็นกระจอกน้อยหลับพริ้มอยู่ตรงซอกตู้แอร์ ในใจตอนนั้นมั่นใจว่าโอกาสรอดสูงมาก เมื่อเทียบตอนลูกนกเอี้ยงที่แทบจะเหมือนกันทุกอย่าง ถ้าจำไม่ผิด นกเอี้ยงป้อนบนระเบียงร่วม 4-5 วัน กว่าจะพากันบินไป
แต่แล้ว สายวันรุ่งขึ้น ลูกนกกระจอกก็หงายท้องสิ้นใจตายไปอย่างพลิกล็อก ที่น่าสังเวชใจ คือในปากยังมีหนอนที่พ่อแม่คาบมาส่งให้คาอยู่เลย
สิ่งที่ผมเก็บมาคิดทบทวน ผมควรจะกางผ้าให้เกิดร่มเงาตรงระเบียงหรือเปล่า? ผมควรวางถาดน้ำไว้ด้วยไหม? ผมมองข้ามบาดแผลที่คิดว่าเล็กน้อยหรือไม่? เป็นอารมณ์เศร้าปนรู้สึกผิดชอบกล
ในทางปักษีเขาว่า ลูกนกที่ตกจากรัง ธรรมชาติได้คัดเลือกแล้วว่ามัน “ไม่ได้ไปต่อ” นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมใช้ปลอบใจ


