กินไปคุยไปเสียบุคลิกหมด
มารยาทในการรับประทานอาหารทุกคนควรตระหนัก โดยเฉพาะยิ่งแล้วในการเข้าสังคม การกินไปคุยไป
โดย...กรกฎ
มารยาทในการรับประทานอาหารทุกคนควรตระหนัก โดยเฉพาะยิ่งแล้วในการเข้าสังคม การกินไปคุยไป หรือคุยทั้งที่คำข้าวนั้นยังอยู่ในปาก ย่อมไม่งามอย่างยิ่ง ใครๆ จึงอย่าเผลอทำ จนใครต่อใครต่างเอาไปซุบซิบว่าเจ้าคนคนนี้ไม่มีมารยาท ข้าวเต็มปากยังขยันคุยอยู่ได้
มารยาทห้ามพูดขณะเคี้ยวอาหารใช่ว่าโบราณไม่สอน เพราะคนโบราณรู้ดีว่าเวลาพูดจะทำให้ข้าวหรืออาหารกระเด็นออกจากปาก ยิ่งถ้ากระเด็นไปใส่จานข้าวของคนอื่นคงดูไม่จืด ทั้งน่ารังเกียจขยะแขยง ดีไม่ดีทำให้สำลักได้ ซึ่งคนที่ทำพฤติกรรมอย่างนี้คงไม่มีใครอยากร่วมโต๊ะด้วยแน่
ต้องยอมรับว่าบางคนก็เพลิดเพลินกับการกินไปพูดไป ซ้ำบางคนยังหัวเราะไปพร้อมๆ กับการเคี้ยวอาหารอีกต่างหากซึ่งหนักไปใหญ่ ถือว่าไม่งามและเป็นพฤติกรรมที่ทำให้เสียบุคลิกและเป็นที่รังเกียจของคนอื่น โดยเฉพาะคนที่ตัวเองไม่สนิทหรือคุ้นเคย
พฤติกรรมเช่นนี้ไม่เพียงไม่งาม ยังเป็นอันตรายและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย เพราะการที่ห้ามพูดคุยระหว่างกินอาหารนั้นเนื่องจากทางเดินอาหารกับหลอดลม ซึ่งเป็นทางเดินหายใจอยู่ติดกัน เวลาหายใจกับการพูดคุยขณะกินจะทำให้ลิ้นเปิดปิดทางเดินอาหารกับหลอดลมที่ใช้หายใจเกิดความสับสนปิดไม่สนิท มีโอกาสที่อาหารจะตกลงไปในหลอดลม
หากอาหารตกลงไปกลไกร่างกายก็จะทำให้เกิดการสำลัก ถ้าเป็นชิ้นเล็กๆ จะสำลักออกมาได้ แต่หากเป็นชิ้นใหญ่ตกไปอุดกั้นหลอดลมจะถึงขั้นเสียชีวิต หรือขาดอากาศหายใจเป็นเวลานาน มีสิทธิทำให้เป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิงนิทราได้ ซึ่งจริงๆ แล้ว เวลารับประทานอาหารคงไม่ได้ห้ามคุยเสียทีเดียว แต่ที่ไม่ควรพูดไปด้วยกินไปด้วย เพราะขณะกินอาหารเลือดจากส่วนต่างๆ จะระดมกันมาที่กระเพาะอาหารและลำไส้เพื่อช่วยให้การย่อยและดูดซึมมีประสิทธิภาพดีที่สุด
เวลาพูดขณะกินอาหารและใช้ความคิดไปด้วยจะทำให้เลือดบางส่วนต้องไปเลี้ยงสมอง ทำให้ระบบย่อยและดูดซึมอาหารต้องขาดเลือดไปบางส่วน นอกจากนี้ยังทำให้เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด หรือบางทีเกิดสำลักอาหารได้ ขณะที่การเคี้ยวอย่างละเอียดจะเป็นการกระตุ้นน้ำย่อยไปในตัว กระเพาะอาหารไม่ต้องทำงานหนัก จิตใจไม่ครุ่นคิดเรื่องอื่น โดยเฉพาะเรื่องเครียดก็จะทำให้การกินอาหารเกิดประสิทธิภาพสูงสุด


