อาฟเตอร์ช็อก บิ๊กดีล 'ธีราทร'
ในรอบสัปดาห์ไม่มีข่าวไหนฮอตไปกว่าการที่ ธีราทร บุญมาทัน ยอมถูกตราหน้าว่า “จูดาส”(คำเปรียบเรียกคนทรยศ)
โดย...มิวโกโตะ
ในรอบสัปดาห์ไม่มีข่าวไหนฮอตไปกว่าการที่ ธีราทร บุญมาทัน ยอมถูกตราหน้าว่า “จูดาส”(คำเปรียบเรียกคนทรยศ) หลังเลือกเก็บข้าวของย้ายจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาซบตักทีมอริตลอดกาล เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวสถิติใหม่แข้งไทย 30 ล้านบาท บิ๊กดีลนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ใครได้หรือเสียจากการย้ายครั้งนี้
หลายกระแสเชื่อว่าฟางเส้นสุดท้ายที่ “อุ้ม” เลือกสลับขั้ว เกิดขึ้นหลังมีแฟนบอลพิมพ์วิจารณ์ฟอร์มการเล่นทำนอง “เล่นแบบใจไม่สู้” ในเกมที่บุรีรัมย์พ่ายคารังให้เอฟซีโซล 0-6 ศึกเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อต้นซีซั่น แถมเพจบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ “ซ้อต่าย” กรุณา ชิดชอบ ดูแลอยู่ยังตอบข้อความว่า “วิเคราะห์ถูกต้องค่ะ” ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเคยเคืองกับเรื่องนั้นจริง แต่ไม่ใช่สาเหตุของการย้าย
“ผมเคยเคืองคอมเมนต์นั้นจริง ผมสู้ทุกนัดที่ลงสนาม ก็มันสู้ไม่ได้ให้ทำยังไง หลังจากนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ผมไม่เคยมีปัญหากับพ่อเนวิน และแม่ต่าย ยังเคารพรักเหมือนเดิม ผมย้ายเพราะต้องการเดินหน้าต่อ ได้ปรึกษากับโค้ชเฮง วิทยา เลาหกุล ว่าถ้าอยากไปเล่นเมืองนอกต้องทำอย่างไร ได้คำตอบมาว่าต้องรอให้ลีกของเขาปิดก่อน คิดๆ ดูมันอาจนานเกินไป เลยมองทีมในประเทศ ที่เลือกเมืองทองเพราะใกล้บ้านและมีเพื่อนมีพี่สมัยเรียน กับเพื่อนในทีมชาติหลายคน” อุ้ม กล่าว
แน่นอนการสลับขั้วหนนี้ สร้างแรงสั่นสะเทือนกับวงการลูกหนังไทยมากมาย ฝั่งบุรีรัมย์ได้เงินก้อนโตแลกกับเสียนักเตะไอคอน ซึ่งถ้ามองตามวิถีบอลอาชีพ ถือว่าคุ้มกับนักเตะที่สัญญาเหลือปีเดียว ถ้าไม่ต่อสัญญาจะเสียไปฟรีๆ แต่ก็ต้องสูญเสียทีมสปิริตไปพอสมควร เนื่องจากมีกระแสต่อต้านสโมสรเยอะในโลกออนไลน์กับการปล่อยเจ้าอุ้มให้คู่อริ โดยเฉพาะช่วงหลังผลงานสะดุดบ่อย เป็นที่มาให้ทีมต้องประกาศปรับทัพครั้งใหญ่
“ใครไม่สู้ไปกับเราไม่เป็นไร เหลือกันอยู่เท่าไหร่ก็จะจับมือร้อยแขนสู้ไปด้วยกัน ฟุตบอลอยู่ที่ใจ ผมกำลังจะปรับปรุงทีมอีกครั้ง ให้กลับมาเป็นทีมที่กระหายด้วยหัวใจนักสู้นักล่า ก็ดี
วันที่ล้มจะได้เห็นใครอยู่ข้าง ใครยืนดู ใครหันหลังให้ ใครซ้ำเติม” เนวิน กล่าว
ขณะที่ทัพกิเลนผยองได้ผู้เล่นระดับกัปตันทีมชาติไทยก็จริง ทว่าตลอด 4 ปีครึ่งที่เซ็นสัญญาต้องจ่ายค่าเหนื่อยธีราทรรวมถึง 35 ล้านบาท พักหลังการเงินสโมสรก็ไม่ค่อยสู้ดี การลงทุนครั้งนี้จึงมีความเสี่ยง ถ้าทวงแชมป์ลีกสำเร็จ อาจปลุกขวัญและเรียกสปอนเซอร์ให้ตื่นตัว แต่หากวืดบรรดาแข้งทีมชาติที่ล้นทีม คงต้องทยอยแยกย้าย
นอกจากนี้ ธชตวัน ศรีปาน นายใหญ่ถิ่นเอสซีจีอาจมีเรื่องให้ปวดหัวเพิ่มยามจัดทัพ หลังแว่วว่า ระวิ โหลทอง เจ้าของทีมเล็งเสริมแข้งดีกรีทีมชาติอีก 2-3 รายช่วงเลกสอง ดังนั้นต้องบริหารจิตใจผู้เล่นสำรองให้ดี แต่ที่ยิ้มออกคงเป็น “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทัพช้างศึก เพราะจะได้ผู้เล่นที่เขาขาเพิ่มขึ้น ยามทำศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกรอบ 12 ทีมสุดท้าย แต่ต้องภาวนาอย่าให้ใครเจ็บ เพราะจะส่งผลโดยตรงเช่นกัน
“ผมมองอย่างสบายใจ ถือเป็นเรื่องดีที่นักเตะทีมชาติได้ซ้อมร่วมกัน ความสัมพันธ์ก็แน่นขึ้น ผมโทรปรึกษาโค้ชแบนตลอด ถึงแนวทางทำงานที่คล้ายกัน ดีตรงเราจะได้ข้อมูลมากขึ้น แต่กับทีมอื่นก็ลิงก์กันอยู่ทุกทีม เพื่อประโยชน์สูงสุดของทีมชาติ” ซิโก้ เผย
ปิดท้ายผู้เขียนแอบเสียดายฝีเท้าแทนธีราทรที่ไม่ลองไปค้าแข้งต่างแดน เพื่อยกระดับฝีเท้า และเปิดวิสัยทัศน์ลูกหนังเพิ่ม นานๆ จะเห็นผู้เล่นไทยศักยภาพสูงเช่นนี้สักคน


