เก๋าเก๋า...อมารี เอเทรียม

ไม่ค่อยมีโอกาสบ่อยครั้งนักที่จะเจียดเวลาไปเยี่ยมชมโรงแรมในกรุงเทพฯ

โดย...ร้อยตะวันพันดาว

ไม่ค่อยมีโอกาสบ่อยครั้งนักที่จะเจียดเวลาไปเยี่ยมชมโรงแรมในกรุงเทพฯ และครั้งนี้สงสัยโดนเป่ากระหม่อมผ่านเสียงตามสาย จู่ๆ ตกปากรับคำพีอาร์จากอมารี เอเทรียมย่านเพชรบุรีตัดใหม่ ให้ลองเปิดใจไปสัมผัสประสบการณ์ในโรงแรมที่มีอายุยาวนานถึง14 ปี

 จริงๆ แล้วความเก่าของโรงแรมคงไม่ใช่ประเด็นที่จะมานั่งเกี่ยงงอน แต่เมื่อมองอีกมุมหนึ่ง โรงแรมที่มีความเก่าแก่ย่อมต้องมีความเก๋าในการบริการ ระบบโอเปอเรชันทุกอย่างถูกวางเข้าล็อกและเป็นระบบ ส่งให้เบื้องหน้าทุกกระบวนการตั้งแต่ต้อนรับ เช็กอิน ส่งแขกสู่ห้องพัก เกิดความราบรื่นด้วยรอยยิ้ม

 อมารี เอเทรียม ก็เช่นกันค่ะ ทุกขั้นตอนไม่มีสะดุด แถมยังมีพนักงานยิ้มแย้มแจ่มใสคอยบริการกดลิฟต์ให้อีกต่างหาก เหมือนประหนึ่งเป็นวีไอพีมาพักเลยทีเดียว...ครั้งนี้ฉันเช็กอินบนห้องพักชั้น 23 ซึ่งเป็นห้องพักในส่วนของชั้นนักธุรกิจระดับผู้บริหารหรือเอกเซ็กคิวทีฟฟลอร์ ที่มีอภินันทนาการให้กับแขก “เหนือ” กว่าการพักในห้องสุพีเรียร์ธรรมดา บนชั้นนี้นอกจากคุณจะได้จิบวิวมุมสูงของกรุงเทพฯ จากอีกมุมเมืองตลอดทั้งวันทั้งคืนแล้ว ยังมีบริการอาหารว่าง เครื่องดื่มให้ตลอดวันอีกด้วย อิ่มทั้งวิวและอิ่มท้องไปพร้อมๆ กัน

 ตัวอาคารโรงแรมออกแบบในสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ เด่นตรงที่ล็อบบี้หลังคาแก้วนิรภัยที่มีความสูงถึง 12 ชั้น สร้างบรรยากาศภายในให้ดูโปร่งแสงและเบาสบายตาในโทนที่นุ่มนวล

ส่วนชั้น 23 มีห้องพักตกแต่งสไตล์เอกเซ็กคิวทีฟ 29 ห้อง เน้นโทนสีน้ำตาลเข้มขรึม มีพื้นที่ใช้สอยต่อห้องค่อนข้างกว้าง อีก 10 ห้องที่เหลือเป็นห้องสวีตและดีลักซ์ สวีต ซึ่งแน่นอนว่าขนาดและความหรูหรานั้นย่อมมีมากกว่าห้องธรรมดา โดยเฉพาะห้องสวีตไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตาม พื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือ แถมยังเปิดวิวสวยๆ ของกรุงเทพฯ ผ่านกระจกใสดูคล้ายกับภาพพาโนรามาปรับเปลี่ยนอารมณ์ได้ตามแสงจากดวงตะวันที่ทาบทาบนผืนโลก

 ชั้น 23 นี้ถ้าจะขึ้นไปต้องสแกนคีย์การ์ดก่อนค่ะ เป็นนโยบายเพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวของแขกในชั้นนี้

 ส่วนห้องพักสุพีเรียร์ทั่วไป จริงๆ แล้วเขามีการปรับเปลี่ยนรูปโฉมมาสักพักหนึ่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลดโทนสีของห้องให้ดูอ่อนลง แต่ยังคงเน้นสไตล์คอนเทมโพรารีเข้ากับยุคสมัย เติมหมอนอิงสีสดลงไปบนเตียงนอนสีขาวทำให้ห้องพักดูทันสมัยขึ้นมาทันใด ขัดใจนิดเดียวตรงโทรทัศน์นี่แหละ ถ้าเปลี่ยนเป็นแอลซีดีทีวีได้ทุกห้อง รับรองว่าลุคของโรงแรมจะอัพเกรดให้ดูเดิร์นขึ้นทันตาเห็น

ส่วนที่พิเศษสำหรับที่นี่คือการมีห้องพักสำหรับคนพิการ ซึ่งประตูจะกว้างกว่าห้องพักปกติ รวมทั้งห้องน้ำด้วย เพราะคนเหล่านี้ต้องการบางสิ่งที่พิเศษกว่าคนทั่วไป ซึ่งทางโรงแรมได้รับประกาศนียบัตรการันตีว่าเป็นโรงแรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทุกกระบวนการเบื้องหลังที่เกิดขึ้นคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญที่สุด

 ในความเก่าแก่ของโรงแรม ฉันกลับมองไม่เห็นว่ามันจะเป็นข้อด้อยตรงไหน กลับรู้สึกได้ถึงความเก๋าของการออกแบบห้องพักที่ออกแบบมาได้ลงตัวกับการใช้งาน ไม่รู้สึกว่าขาดหรือเกิน รวมถึงบริการของพนักงานที่เอาใจใส่ต่อแขกทุกคนเป็นอย่างดี

 เก่าแต่เก๋า...ไม่เก่าแล้วเก่าเลย อย่างนี้สิที่ต้องยกนิ้ว