posttoday

ประวัติย่อ ‘ศิลปะ’

30 เมษายน 2559

ภาพรวมของประวัติศาสตร์ศิลปะของมนุษยชาติที่บันทึกกันไว้ กับประวัติบุคคลในแง่จุดเริ่มประสบการณ์

โดย...ธเนศน์ นุ่นมัน

ภาพรวมของประวัติศาสตร์ศิลปะของมนุษยชาติที่บันทึกกันไว้ กับประวัติบุคคลในแง่จุดเริ่มประสบการณ์ที่เข้าไปสัมผัสการสร้างสรรค์ศิลปะของแต่ละคนนั้น มีจุดร่วมและจุดเปลี่ยนที่ดำเนิน
ไปในทิศทางเดียวกันจนเป็นที่น่าสังเกตว่า

แม้อารยธรรมของมนุษย์จะมีวิวัฒนาการมายาวนาน แต่หากร่ายจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ ย้อนไปถึงยุคหิน ว่ากันว่าในยุคนี้เราสร้างศิลปะขึ้นจากแรงบันดาลใจทางด้านความเชื่อ และสัญชาตญาณ เริ่มจากการเลียนแบบธรรมชาติ ถ่ายทอดสิ่งที่เห็นออกมาด้วยรูปแบบที่ไม่ซับซ้อน

หลักฐานจากยุคนั้นที่เหลือให้เห็นเป็นข้อสังเกตมาถึงปัจจุบัน คือภาพที่ปรากฏตามผนังถ้ำโบราณจากสถานที่สำคัญๆ ทั่วโลก เรียกได้ว่า รูปมือ รูปคนรูปลายเรขาคณิต รูปสัตว์ รูปกิจกรรมต่างๆ ล้วนแต่บ่งชี้ถึงจุดเริ่มต้นการขีดเขียน

ระดับปัจเจก เมื่อมนุษย์อายุได้หนึ่งปี ก็เข้าสู่วัยที่กล้ามเนื้อมือเริ่มจะแข็งแรง จากที่เคยแค่หยิบฉวยสิ่งของ ก็เริ่มกำวัตถุไว้ในมือได้ ต่อมาเมื่อมีโอกาสได้กำวัตถุอย่างสีเทียน สีชอล์ก ก็เริ่มเรียนรู้อย่างรวดเร็ว ว่าสิ่งที่อยู่ในมือนั้นสามารถใช้ลากเส้นได้

เมื่อมีอายุย่างเข้าปีที่สอง เริ่มมีพัฒนาการด้านนี้ สามารถขีดเส้นยึกยักฟันปลา วงกลม ครึ่งวงกลม และต้องใช้เวลาอีกประมาณหนึ่งปี จึงจะพัฒนาไปถึงขั้นวาดรูปสิ่งใกล้ตัว เช่น ภาพคน จากการสังเกตเห็นพ่อแม่ เรื่องราวและรูปทรง ถูกถ่ายทอดบนพื้นที่ใกล้ตัว ซึ่งก็มักจะเป็นผนังบ้าน สมุดหนังสือ หรืออะไรก็ตาม

กลับมาที่ประวัติศาสตร์ศิลปะในภาพรวม หลังจากขีดเขียนผนังถ้ำจนเชี่ยวชาญ ถ่ายทอดพัฒนาวิชาการขีดเขียนจนก้าวไปถึงขั้นสร้างอาณาจักรได้ความสามารถในการขีดเขียนก็เริ่มถูกใช้มากกว่าแค่การละเลงผนังถ้ำ เป็นโอกาสที่ผู้ถนัดการขีดเขียนจะได้ใช้ความสามารถที่มีสร้างสรรค์รูปแบบการขีดเขียนตามที่อาณาจักรต้องการ ความสามารถนี้ถูกพัฒนาขึ้นสั่งสมไว้รุ่นแล้วรุ่นเล่า ปรากฏเป็นหลักฐานในอารยธรรมต่างๆ ในรูปแบบของศิลปะแต่ละยุคสมัย

หลังจากที่เส้น รูปทรง และเรื่องราวเริ่มซับซ้อนขึ้น เพราะการขีดเขียนของมนุษย์น้อยที่ไม่ถูกตีมือ ถูกลงโทษจนหวาดกลัวการสร้างสรรค์ ก็อาจจะมีโอกาสถูกชักพาไปสู่การสร้างสรรค์อีกระดับหนึ่ง จนในที่สุดก็สร้างผลงานที่ตอบสนองความต้องการของสังคม และอาจจะหมายถึงการใช้สร้างอาชีพเลี้ยงตัวเองนั่นเอง

ในกาลต่อๆ มา การสร้างสรรค์ก็ยิ่งแตกแขนงเปลี่ยนไปตามความคิดอ่านและมุมมองของแต่ละยุค ถูกตั้งคำถาม ถูกค้นหาคำตอบโยงไปสู่สารพัดศาสตร์ถ่ายทอดออกมาเป็นโลกทัศน์ที่ไม่ได้รับใช้แค่อาณาจักร ศิลปะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลมกลืนกับสภาพชีวิตในแต่ละยุคสมัย กระโดดจากยุคสร้างผลงานตามสภาพความเป็นจริงที่เชื่อว่าความงามอยู่ในทุกหนทุกแห่ง ไปถึงยุคที่สร้างผลงานตามทฤษฎี

ข้ามมาเป็นยุคที่ศิลปะย้อนกลับไปสู่การตีความตัวเอง เช่น มองว่างานศิลปะเป็นเพียงสิ่งสมมติ หากใช้จิตใจกำหนดผลงาน จะมีหรือไม่มีตัวตน มีรูปไร้รูป แบบใดก็ได้ทั้งสิ้น การสร้างสรรค์นั้น ศิลปินกำหนดขึ้นใหม่ได้จากแนวคิดที่เป็นอิสระอย่างสิ้นเชิง... จากจุดที่เริ่มเล็กๆ ไปสู่เรื่องราวที่ถักร้อยทับซ้อนอยู่ในประวัติศาสตร์ยาวนาน จนมนุษย์น้อยที่เติบโตขึ้นเพื่อเรียนรู้สิ่งนี้ เริ่มหวนนึกและเข้าใจว่าชีวิตนั้นสั้นเกินกว่าสิ่งที่กำลังเรียนรู้หลายเท่า

ข่าวล่าสุด

ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิต “เชษฐ์ปาดัง” เลขานายกปาดังเบซาร์