posttoday

"ชัยสิทธิ์ เนตรศาสตร์" นักเตะสู้ชีวิต

31 มีนาคม 2559

ยามว่างเว้นจากการเล่นฟุตบอลที่ตัวเองรัก ชัยสิทธิ์มีอาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์ และเปิดร้านปะยางหาเลี้ยงพ่อ-แม่ที่ป่วย มุ่งมั่นส่งตัวเองจนจบป.ตรี

โดย...กษม จักรเครือ

ต้องยอมรับว่า ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กระแสฟุตบอลไทยอยู่ในช่วงพีกสุดๆ ทำให้อาชีพนักฟุตบอลเป็นอีกอาชีพที่ทำรายได้สูง ยิ่งนักเตะคนใดได้เล่นในลีกสูงสุดของประเทศ รายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่าเลขหกหลัก แต่ก็ยังมีพ่อค้าแข้งบางรายที่ไม่ได้มีเทพีแห่งโชคเข้าข้าง เพราะเล่นอยู่ในระดับภูธร หรือลีกภูมิภาค (ดิวิชั่น 2) ซึ่งเป็นลีกต่ำสุดของเมืองไทย พวกเขามีใจรักในกีฬาฟุตบอล แต่สิ่งที่เขาชื่นชอบและหลงใหลไม่ได้ตอบโจทย์ของชีวิต

นักเตะหลายคนต้องเล่นฟุตบอลควบคู่ไปกับการประกอบอาชีพอื่นด้วย เพื่อดำรงชีพเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง รายได้ต่อเดือนแค่หลักหมื่น ไม่เพียงพอกับค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูง แถมมีภาระหน้าที่ต้องดูแลพ่อแม่ที่เจ็บป่วย อย่างเช่น “เจ้าลิง” ชัยสิทธิ์ เนตรศาสตร์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งของ “วานรเพลิง” ลพบุรี เอฟซี

ยามว่างเว้นจากการเล่นฟุตบอลที่ตัวเองรัก ชัยสิทธิ์มีอาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์ และเปิดร้านปะยางหาเลี้ยงพ่อที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์และแม่ที่ป่วยหลายโรครุมเร้า แต่เขาก็ไม่เคยย่อท้อต่อโชคชะตา มุ่งมั่นบากบั่นส่งตัวเองจนเรียนจบปริญญาตรี และมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน

“ผมรักฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจมาตั้งแต่เด็กๆ ผมเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เล่นแถวละแวกบ้าน พ่อผมขับมอเตอร์ไซค์ ส่วนใหญ่พ่อจะขี่รถไปส่งผมที่ลานวัดเพราะมีเพื่อนมาเล่นกันเยอะ ช่วงแรกไม่ได้จริงจังกับมัน เล่นเพราะชอบเหมือนเด็กทั่วไป แต่เริ่มจริงจังตอนวัยรุ่น ได้มีโอกาสเล่นฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ไล่มาตั้งแต่ถ้วย ง. และเขยิบมาเล่นถ้วย ข. กับทีมมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ในปี 2557 ทำให้ผมคิดจะยึดอาชีพฟุตบอล เพราะเริ่มมีรายได้” หนุ่มเมืองลิงกล่าว

ตอนแรกได้เบี้ยเลี้ยงซ้อมวันละ 300 บาท เท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งถือว่าก็โอเคในมุมมองของชัยสิทธิ์ เพราะไม่คิดว่าไปทำงาน คิดว่าไปออกกำลังกายแถมได้เงินอีกด้วย ก่อนที่จะมาร่วมทีมกับลพบุรี เอฟซี ที่มี “โค้ชแดง” สืบสมบัติ ตกต้น เป็นผู้ชักนำเขาเข้าวงการลูกหนังอาชีพเต็มตัว นั่นคือจุดเริ่มอาชีพค้าแข้ง

อย่างไรก็ตาม เส้นทางสายนักเตะก็ไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด เมื่อช่วงแรกต้องเจอกับปัญหามากมาย จนเกือบจะไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะฐานะทางบ้านแย่ แต่โชคดีที่ทางมหาวิทยาลัยให้โอกาส

“ผมทิ้งมันไม่ได้จริงๆ ฟุตบอลเป็นชีวิตของผม แม้ว่าครอบครัวลำบาก แต่ก็พยายามทำให้ดีควบคู่กันไป พ่อแม่มีผมคนเดียว ตอนนี้ท่านทั้งสองไม่สบาย ผมต้องเป็นเสาหลักดูแลท่าน จะทำให้ดีที่สุด สิ่งไหนที่ทำได้ผมจะทำ ทั้งเรียนหนังสือเป็นหลัก ขับวินมอเตอร์ไซค์ต่อจากพ่อ และปะยางมอเตอร์ไซค์ เงินที่ได้มาก็พอเลี้ยงชีพได้ เพราะค่าเทอมส่วนใหญ่ ทางมหาวิทยาลัยจะให้จ่ายแค่เทอมเดียว เนื่องจากเป็นนักกีฬาเวลาได้แชมป์มาอีกเทอมเขาจะไม่เก็บ ขณะเดียวกันผมก็ใช้เงินกู้ กยศ. จึงไม่ลำบากเรื่องค่าเทอม แต่ชีวิตประจำวันต้องดิ้นรนเพื่อปากท้องของพ่อและแม่”

แม้โชคชะตาจะไม่เข้าข้าง ชัยสิทธิ์ไม่เคยคิดย่อท้อหรือท้อถอย ตรงกันข้ามกลับเอาแรงขับเหล่านั้นเป็นพลังทำให้มีกำลังใจต่อสู้ต่ออุปสรรค โดยพยายามแบ่งแยกหน้าที่และความรับผิดชอบอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้กระทบกับการเล่นฟุตบอลและสโมสร

“วันไหนที่มีแข่งบอลผมจะไม่ขับวินเลยทั้งวัน แต่วันที่ไม่แข่งขันผมก็จะทำงานอย่างเต็มที่ก่อนเดินทางไปซ้อมบอล ยอมรับว่ามีผลเหมือนกันเพราะช่วงนี้อากาศร้อน ร่างกายจะอ่อนเพลีย แต่ผมก็พยายามพักผ่อนมากๆ และดูแลสภาพร่างกายตัวเองอย่างดี เพราะคิดเสมอว่าเรามีภาระมากกว่าคนอื่น ที่สำคัญ ผมไม่เคยคิดว่าชีวิตมันแย่ ผมว่าการมองโลกในแง่ดีมีส่วนทำให้จิตใจและร่างกายแข็งแรงด้วย”

"ชัยสิทธิ์ เนตรศาสตร์" นักเตะสู้ชีวิต

กำลังใจจากคนรอบข้างเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเพื่อนร่วมทีมและเพื่อนที่วินมอเตอร์ไซค์ที่คอยเป็นกำลังใจให้เสมอ ไม่เคยดูถูกหรือดูหมิ่นดูแคลน กลับช่วยเหลืออีกต่างหาก ซึ่งการได้เป็นนักเตะของทีมจังหวัดไม่ค่อยจะมีใครรู้จักมาก ไม่ได้โด่งดังเพราะไม่ได้ติดทีมชาติ นอกจากเพื่อนๆ ในวินด้วยกัน ที่มักจะเข้ามาถามเสมอเรื่องความเคลื่อนไหวของทีม ผลการแข่งขันต่างๆ หรือบางครั้งมีผู้โดยสารบางคนจำได้ก็จะมาทักทาย เพราะฉะนั้นชีวิตก็เหมือนคนปกติทั่วไป

“ผมดีใจนะที่วันนี้ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก คือการเล่นฟุตบอล และการได้ประกอบอาชีพที่สุจริต ณ วันนี้ผมไม่ได้หวังอะไรมาก ขอแค่ทำหน้าที่ทั้งสองอย่างให้ดีที่สุด โดยเฉพาะการเล่นฟุตบอลเพื่อสร้างความสุขให้กับพี่น้องชาวลพบุรี และหวังว่าปีนี้เราจะได้ไปเล่นรอบสุดท้ายในแชมเปี้ยนส์ลีก อยากให้แฟนบอลมาให้กำลังใจเราเยอะๆ ทุกนัดในบ้านด้วย”

อย่างไรก็ตาม อาชีพนักฟุตบอลไม่ยั่งยืน เปรียบเสมือนหมาล่าเนื้อ หากสภาพร่างกายเล่นไม่ไหว ก็ไม่มีคนจ้างและไม่มีรายได้ เพราะฉะนั้นต้องหาอาชีพสำรอง เป้าหมายในชีวิตต้องจบปริญญาตรีและเข้ารับราชการเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในวันข้างหน้า

“อาชีพนักฟุตบอลมันสั้น ไม่สามารถเลี้ยงชีพได้ยาวนาน ผมต้องเรียนให้จบปริญญาตรี เพื่อจะได้รับราชการ อยากเป็นครูพลศึกษาตามที่เรียนมา และจะได้มีสวัสดิการดูแลรักษาพ่อแม่ได้ มันคือเป้าหมายของผม”

แต่ ณ ตอนนี้ ชัยสิทธิ์ก็ยังภูมิใจในอาชีพนักฟุตบอล ที่สามารถทำในสิ่งที่รักควบคู่ไปกับการสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้ พร้อมฝากถึงเยาวชนที่อยากเป็นนักเตะ ต้องมีความขยันอดทน และมุ่งมั่นฝึกซ้อม อย่าไปยอมแพ้กับความยากลำบาก เพราะวันหนึ่งหากก้าวผ่านมันไป ผลลัพธ์ที่ตามมาคือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา