Bready Instantly มิลล์เฟย ขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศส
Mille Feuille (มิลล์เฟย) หรือ ใบไม้พันชั้น ขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างหนึ่ง
โดย...สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio
Mille Feuille (มิลล์เฟย) หรือ ใบไม้พันชั้น ขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างหนึ่ง สังเกตจากร้านขนมมากมายมักมีเมนูนี้วางขายอยู่ด้วย เหตุที่เรียกว่า Mille Feuille นั้นมาจากส่วนของแป้งบางกรอบ ที่มองดูน่าจะมาจากความบางกรอบของแป้งที่กลายเป็นสีเหลืองทองจากการอบ คล้ายกับใบไม้ที่ซ้อนกันทับกัน แป้งชนิดนี้ในทางนักทำขนม เรียกว่า Puff Pastry เป็นแป้งสาลีทำขนมปังที่รีดซ้อนกับเนย พับทบไปมาตามแบบแผนจนได้การซ้อนทับกันแบบทวีคูณ นับได้เป็นร้อยๆ ชั้น จะว่าเป็นพันก็อาจจะเกินความจริงไปนิด
แป้ง Puff Pastry ทำขนมได้หลายชนิด ตั้งแต่พายอบ พายกรอบอย่างพายผีเสื้อที่เราเรียกกัน เมื่อรีดให้บางแล้วอบจนกรอบ โรยน้ำตาล ซ้อนกับเพสตรีครีม บางครั้งมีผลไม้ตระกูลเบอร์รี่สีแดงอย่างสตรอเบอร์รี่ ราสพ์เบอร์รี่ กลายเป็น Mille Feuille ขนมชั้นสูงที่เขาว่าทำให้อร่อยยากนัก
Mille Feuille ที่อร่อย เวลาเสิร์ฟแป้งต้องกรอบ ครีมต้องหวานกำลังดี หลายๆ ร้านทำทิ้งไว้นานเวลาเอามาเสิร์ฟแป้งนิ่มไม่อร่อย เพราะความชื้นจากครีมซึมลงในแป้ง บางร้านใส่ผลไม้ลงไปแทรกระหว่างครีมกับแป้ง ผลไม้ที่อาจมีน้ำซึมออกมา กลายเป็นเละไปได้
Bready Instantly ฉบับนี้ มีวิธีในการปรับสูตรให้ง่ายขึ้นโดยใช้ “ขนมปังแซนด์วิช” แบบแผ่น รีดให้บางจากนั้นทาเนย โรยน้ำตาล แล้วอบจนกรอบ คล้ายๆ กับขนมปังกรอบที่บางเฉียบ ซ้อนกับคัสตาร์ดครีมที่เบานุ่ม จะสลับชั้นด้วยราสพ์เบอร์รี่หรือสตรอเบอร์รี่ แม้แต่ผลไม้ไทยๆ อย่างกล้วย มะม่วง ก็เข้ากันได้
แผ่นขนมปังกรอบถึงแม้จะไม่ได้ให้สุนทรีย์ในการรับประทานเท่าๆ กับแป้งพัฟเพสตรีเพราะไม่มีชั้นบางเท่า แต่ได้ความกรอบ หอมเนยไม่แพ้กัน ขอเพียงนิดว่าแผ่นขนมปังกรอบทำแล้วเก็บไว้ได้ล่วงหน้าในกล่องพลาสติก ก่อนจะเสิร์ฟหรือรับประทาน จึงนำมาบีบคัสตาร์ดครีมและเติมผลไม้ลงไป ทำให้กรอบอร่อยได้นานกว่า
สามารถใช้เมนูนี้เป็นกิจกรรมสำหรับครอบครัวในวันว่าง เพียงเตรียมทุกอย่างล่วงหน้าไว้ คัสตาร์ดควรแช่เย็นไว้จนกว่าจะใช้เพื่อให้คงความเบานุ่มไม่ละลายเละ แถมยังให้รสชาติที่อร่อยกว่าด้วย
Raspberry Mille Feuille
สำหรับขนมปัง
ขนมปังแผ่น 4 แผ่น
เนยจืดนุ่ม 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำขนมปัง
รีดให้ขนมปังให้บางประมาณ 2 มม. หรือบางกว่านี้อีกเล็กน้อย
ทาเนยบางๆ โรยน้ำตาลให้ทั่ว
นำ เข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 C ประมาณ 5-8 นาที หรือจนแผ่นขนมปังเหลือง บางกรอบ พักบนตะแกรงให้เย็นสนิท
สำหรับคัสตาร์ดครีม
นมจืด 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย ส่วนที่ 1 2 ช้อนโต๊ะ
ไข่แดง 2 ฟอง
น้ำตาลทราย ส่วนที่ 2 2 ช้อนโต๊ะ
นมข้นจืด 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา (หรือเราใช้เป็นวานิลลาเพส เติมลงไปตอนอุ่นนมได้)
วิปครีมตีขึ้นฟู 1 ถ้วย
เสิร์ฟกับ ไอซิ่ง สตรอเบอร์รี่หรือราสพ์เบอร์รี่สด และซอสที่ชอบ สะระแหน่จิ๋วๆ และเศษคุกกี้เนยบิๆ คล้ายครัมเบิลตกแต่ง
วิธีทำคัสตาร์ดครีม
อุ่นนมและน้ำตาลทรายส่วนที่ 1 ให้เดือดเบาๆ ในชามอีกใบผสมไข่แดงกับนมข้นจืดคนให้เข้ากัน เติมน้ำตาลทรายและแป้งข้าวโพด คนให้เข้ากัน
ตักนมอุ่นลงมาผสมกับส่วนผสมไข่แดง คนให้เข้ากัน จากนั้นเติมกลับลงในหม้อ กวนที่ไฟอ่อนจนเดือดเบาๆ กลายเป็นคัสตาร์ดข้นๆ ยกลงจากเตา เติมเนยจืดและกลิ่นวานิลลาลงไป
คนให้คัสตาร์ดเย็นสนิท จากนั้นตะล่อมกับวิปป์ครีมที่ตีจนตั้งยอดอ่อน (หากชอบเข้มข้น สามารถใช้คัสตาร์ดได้เลย) ตะล่อมไว้ให้คัสตาร์ดเบาขึ้น พักไว้ในตู้เย็นจนกว่าจะใช้วิธีประกอบ
วางแผ่นขนมปังลงเป็นชั้นแรก จากนั้นบีบครีมลงไปให้สวยงามเรียงสตรอเบอร์รี่หั่นเป็นชิ้นบางให้เต็ม หรือวางราสพ์เบอร์รี่ทั้งลูก เรียงให้เต็ม วางแผ่นขนมปังเป็นชั้นที่ 2 ทำ ซ้ำจนมาถึงชั้นบนสุดเป็นขนมปังแผ่นที่ 3
อาจจะวางหรือตกแต่งชั้นบนด้วยวิปครีมหรือครีมคัสตาร์ด วางผลไม้สดโรยไอซิ่งให้ทั่วเพื่อความสวยงาม ตกแต่งด้วยใบมินต์


