คมสันต์ อัศวานุชิต ความธรรมดา สร้างความไม่ธรรมดา

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ... ภัทรชัย ปรีชาพานิช

คลุกคลีอยู่ในวงการดิจิทัลเอเยนซีมากว่า 15 ปี ด้วยเพราะความรักและความชอบ คมสันต์ อัศวานุชิต วัย 36 ปี ซีอีโอและเจ้าของบริษัท คอนเซ็ปต์ เพลย์ส มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่น ผู้อยู่เบื้องหลังความเป็นมาและเป็นไปของงานดิจิทัลเอเยนซีมากมายในวงการ ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า, โอนิซึกะ ไทเกอร์, อนาสตาเซีย และโรงพยาบาลศิริราช ที่สำคัญเขายังเป็นผู้พัฒนาและสร้างแฟนคลับให้กับเน็ตไอดอลวงการอาหาร ChingCanCook ที่กำลังสร้างปรากฏการณ์ในหลายๆ สถิติโลกยุคดิจิทัลทุกสิ่งหมุนวนรอบศูนย์กลางด้วยความเร็ว ท่ามกลางความเปลี่ยนผ่านที่อยู่ตรงหน้า เชื่อว่าหลายคนคงเคยผ่านตางานของคมสันต์กันมาบ้าง อย่างเช่น “If The Blind Live Alone” การระดมทุนภายใต้โครงการของสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย “86 พรรษา ทอดผ้าป่ามหากุศล ช่วยคนตาบอดทั้งแผ่นดินรู้หนังสือและมีงานทำ เพื่อให้พวกเขาอยู่ร่วมกับเราในสังคม” เรื่องราวของ
เนตรนภา หญิงสาวตาพิการ หากยืนหยัดได้ด้วยสองขาของตนหลังจากที่พ่อผลักดันให้เธอเข้าเรียนในโรงเรียนคนปกติ เค้าโครงมาจากเรื่องจริงของตัวผู้อำนวยการสมาคมคนตาบอดฯ เอง

“เป้าหมายคือการระดมทุนให้ได้มากที่สุด โจทย์ของ If The Blind Live Alone คือต้องน่าเชื่อถือ ขณะเดียวกันก็ต้องมีอารมณ์ที่อยู่ข้างใน โฆษณาชุดนี้จัดทำเป็น 2 ตอน และใช้เวลาโปรโมทเพียง 1 เดือนครึ่ง ระดมทุนได้เกินเป้า 10 ล้านบาท สูงสุดเท่าที่สมาคมเคยระดมทุนได้”

สำหรับเน็ตไอดอลคนดัง ChingCanCook กนกวรรณ อัศวานุชิต ที่ปัจจุบันเป็นภรรยาของคมสันต์เอง จากคนธรรมดาๆ ผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำอาหารไม่เป็นเลย ต้องการทำอาหารให้สามีกิน กนกวรรณ หรือชิ้ง ศึกษาการทำอาหารด้วยตัวเอง ค่อยๆ ฝึก ค่อยๆ ทำ วันไหนทำแล้วสามีชมว่าอร่อย ก็จะโพสต์รูปและวิธีทำลงในเพจ แนะนำสูตรง่ายๆ เน้นความสวยงามและความอร่อย ไม่น่าเชื่อว่าเพียง 2-3 ปี ก็มีคนติดตามมากกว่า 2.5 แสนราย

นอกจากจะมีเพจเฟซบุ๊ก Fashion on food ไอจีชื่อเดียวกับเว็บไซต์ ChingCanCook ฟู้ดบล็อกเกอร์แสนสวยยังสร้างปรากฏการณ์อีกหลายสถิติ ไม่ว่าจะเป็นนักเขียนเรื่องสนุกๆ ในสนุกดอทคอม เกี่ยวกับการเดินทางเพื่อหาของกินอร่อยๆ ที่มีคนติดตามมากที่สุด ปัจจุบันชิ้งมีรายการทำอาหารของตัวเองชื่อ Happy Living ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ล่าสุดออกพ็อกเกตบุ๊กเล่มที่ 2 แล้ว “อร่อยง่ายๆ สไตล์สาวหุ่นดี” ที่ทำยอดขายสูงสุดสำหรับคุกบุ๊กในประเทศ

กรณีของ ChingCanCook คมสันต์ในฐานะผู้พัฒนาเว็บไซต์และงานการตลาด เล่าว่า คือหัวใจและความรักที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง เขามองเห็นภรรยาที่รักเพียรในการทำอาหาร และคิดว่านี่คือสิ่งที่งดงามที่สุด ภาพความวิจิตรบรรจงของอาหารหลายร้อยหรืออาจจะหลายพันจาน ได้ทำหน้าที่สะท้อนออกมาซึ่งความรักที่อยู่ภายใน ไม่ใช่แค่รูปสวยแต่ต้องแข็งแกร่งด้วยเนื้อหา (Strong Telling) ด้วย และนี่เองที่คือเบื้องหลังความสำเร็จของปรากฏการณ์

“จากคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง อะไรที่ทำให้คนคนนี้โดดเด่นขึ้นมา สิ่งที่ภรรยาผมทำก็เหมือนเดิม คือการทำอาหาร สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือความรักในสิ่งที่ทำภายใต้โจทย์และความมหัศจรรย์ของคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง ภรรยาของผมเป็นฟู้ดบล็อกเกอร์คนแรกที่มีแอปเปิ้ล แอพพลิเคชั่น (ChingCanCook) บอกตรงๆ ว่าในฐานะสามีก็ปลื้มครับ”

หลบเร้นจากสายไฟที่สาดส่อง คมสันต์ยืนโดดเด่นอยู่ในมุมของเขา คนทำงานเบื้องหลังมีวิธีคิดแบบคนเบื้องหลัง สำหรับเขาแล้วคีย์เวิร์ดของงานดิจิทัลเอเยนซีคือสิ่งที่เรียกว่า คอนเทนต์ มาร์เก็ตติ้ง (Content Marketing) งานที่มีอิทธิพลต่อหัวใจคน จะเป็นอย่างนั้นได้ต้องมี 3 คุณสมบัติ คือ 1.มีความน่าเชื่อถือ 2.ต้องเป็นงานที่กลั่นกรองตรงมาจากหัวใจของผู้สร้างหรือผู้ผลิต และ 3.มีมิติทางจิตวิญญาณ

คมสันต์ บอกว่า ปัจจุบันคือยุคของแบรนด์ลีด (Brand Lead) หรือยุคสมัยที่ใช้จิตวิญญาณเป็นเครื่องมือทางการตลาด (Spiritual Marketing) สินค้าและบริการสนองตอบต่อจิตใจที่โหยหา ไดรฟ์หรือผลักดันให้คนมุ่งไปในสิ่งที่เขาต้องการ ธรรมชาติคือคนจะตามคน หน้าที่ของนักการตลาดคือตามพวกเขาไป และสะท้อนให้เห็นในสิ่งที่พวกเขามุ่งหวัง

“สิ่งที่มีผลกระทบต่อคนด้วยกันเองมากที่สุดก็คือคน คนอ่อนไหวต่อความเชื่อที่มาจากคนด้วยกัน แม้จะพูดว่าไม่เชื่อ แต่พวกเขาเชื่อ” คมสันต์ เล่า

เครื่องมือทางการตลาดยุคนี้เป็นการผสมผสานระหว่างดิจิทัลออฟไลน์และการสัมผัส ทั้งหมดซับซ้อนและเคลื่อนไหวรวดเร็ว เคล็ดลับคือความสอดคล้องกลมกลืน สัดส่วนความลงตัวขึ้นอยู่กับผู้บริโภคเองที่จะเป็นคนกำหนด ปัจจุบันสมาธิคนสั้นลงและสั้นลงเรื่อยๆ จากงานวิจัยคือ 8 วินาที ถ้าใน 8 วินาทีแรกสิ่งที่เราสื่อออกไปไม่โดน มันก็จะถูกลืมและถูกมองข้าม ทั้งหมดเกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็วชั่วกะพริบตา

“ในเกมของดิจิทัลเอเยนซี ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ผู้ชนะคือคนที่เข้าใจเร็ว ตามเกมทัน”

งานคือการผลักดันสินค้าและบริการให้โดดเด่น หลายคนรู้จักผลงานของเขา แต่กลับมีน้อยคนที่รู้จักตัวเขา ในชีวิตจริงคมสันต์ทำงานและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายกับภรรยา กนกวรรณ พักอาศัยอยู่ที่บ้านย่านสุขุมวิท ส่วนออฟฟิศซึ่งดัดแปลงเป็นสตูดิโอสำหรับ ChingCanCook ตั้งอยู่ที่ลาดพร้าวซอย 71 ทุกวันนี้รับประทานอาหารอร่อย (ฮา) มีความสุขดีกับชีวิตแต่งงาน

ถอยกลับไปวัยเด็ก บ้านทำธุรกิจโรงพิมพ์และโรงงานผลิตเครื่องสำอางยี่ห้อเบิร์ธเดย์ มีตั้งแต่ยาทาเล็บ ยาล้างเล็บ ครีม ลิปสติก คมสันต์เป็นลูกคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 4 คน พี่ชายพี่สาวเรียนเก่งทุกคน ยกเว้นเขา เรียนไม่เก่งแต่ค้าขายเก่ง ตั้งแต่เล็ก ป.4 ก็เล่นคอมพิวเตอร์แล้ว อาศัยความคล่องแคล่วหัวไว พลิกแพลงหาเงินใช้เองตั้งแต่ยังไม่ขึ้นชั้นมัธยม โดยเป็นตัวแทนขายเกมให้กับเพื่อนๆ นักเรียนในห้อง

“ผมนั่งรถเมล์ไปสะพานเหล็ก พ่อแม่ไม่รู้ สมัยนั้นก็ทำแบบเด็กๆ คิดแบบเด็กๆ สนุกว่าขายของได้ ไม่ได้คิดอะไรไปกว่านั้น วันไหนโรงเรียนหยุดผมก็นั่งสาย 37 ไปลงผ่านฟ้า ยังเล็กมากแต่ขึ้นรถเมล์เป็นแล้ว จากนั้นก็นั่งเรือต่อไปสะพานเหล็ก ดูของที่คิดว่าจะขายได้ แค่แผ่นแรกผมก็กำไรแล้ว เพราะต้นทุนแทบไม่มี เฉลี่ยขายได้สัปดาห์ละ 50 แผ่น เป็นเด็กที่รวยที่สุดในความรู้สึกของตัวเอง”

เรียนรู้ตัวเองว่าชอบการขาย รักในการขาย มีความสุขเมื่อขายของบางอย่างได้ อีกอย่างคือความสุขในการเล่นคอมพิวเตอร์ เมื่อโตขึ้นจึงเรียนด้านวิศวกรรมศาสตร์ คอมพิวเตอร์ เขาจบจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังในปี 2546 และกลายมาเป็นดิจิทัลเอเยนต์ที่อยู่เบื้องหลังหลายๆ ปรากฏการณ์ที่ผ่านมา ล่าสุดสร้างเว็บไซต์พันธุ์แท้ดอทคอม ก่อตั้ง www.pantae.com และ www.LetterPlanet.com อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่เขากำลังจะสร้างขึ้น

Pantae.com เปิดตัวเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2558 โดยเป็นเวทีและสื่อกลางในการต่อยอดองค์ความรู้ของบุคคลผู้มีความรู้ความสามารถในหลากหลายวงการ เช่น แพทย์ นักบิน นักขาย ผู้บริหารระดับสูง ฯลฯ ส่วน LetterPlanet เปิดเป็นสื่อฟรีสำหรับ Content Marketing ที่จะนำเสนอแบรนด์สินค้าและบริการของตัวเอง รวมทั้งความรู้ที่จำเป็น เช่น จะขายบ้านพร้อมที่ดิน ก็ควรส่งต่อวิธีเลือกซื้อบ้านและที่ดินที่ดี เป็นต้น ส่งผ่านความรู้ ต่อยอดและสร้างเป็นเครือข่ายที่แข็งแรงในวันหนึ่ง 

“pantae.com และ LetterPlanet.comจะประสบความสำเร็จเมื่อใด จะเป็นเครือข่ายที่ยิ่งใหญ่หรือไม่ ผมไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่ แต่แม้เมื่อผมจากไป มันก็ยังจะคงอยู่ในโลกพระเคราะห์ใบนี้” คมสันต์ ทิ้งท้าย