ฝึกเคล็ดนินจาที่โรงฝึกบูจินกัน

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

ทุกคนคงเคยได้ยินเรื่องของนินจากันมาบ้าง คำว่านินจาถ้าเรียกให้ถูกต้องจะต้องเรียกว่าวิชานินจุสสุ ส่วนคำว่านินจาจะหมายถึงผู้ฝึกวิชานินจุสสุ ไม่มีหลักฐานแน่ชัดเกี่ยวกับที่มา แต่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรว่า คำว่านินจาปรากฏขึ้นครั้งแรกสมัยศตวรรษที่ 11 ในยุคที่ซามูไรเรืองอำนาจ จนถึงยุคหนึ่งห้ามไม่ให้มีการฝึกวิชานินจุสสุอีกต่อไป ผู้สืบทอดน้อยลงเรื่อยๆ และวิชาบางส่วนหายสาบสูญ ปัจจุบันถ้าอยากเรียนวิชานินจาจะไปเรียนได้ที่ไหน?

ร.ท.เอก โอสถหงษ์ Dojo-cho หรืออาจารย์เอกแห่งบูจินกัน ไทยแลนด์ โดโจตอบว่า สมัยนี้ถ้าอยากเรียนเกี่ยวกับเคล็ดวิชาต่อสู้โบราณ ก็สามารถมาเรียนที่บูจินกัน โรงฝึกศิลปะการต่อสู้โบราณ ซึ่งฝึกฝนวิชาการต่อสู้ที่ได้รับสืบทอดมาจากอดีต 9 สายวิชา เป็นศิลปะการต่อสู้โบราณของนักรบญี่ปุ่น 6 สายวิชา และศิลปะการต่อสู้แบบนินจุสสุหรือวิชานินจาอีก 3 สายวิชา

“วิชาทั้งหมดได้สืบทอดมายังอาจารย์มะซะอะกิ ฮะซึมิ ผู้ก่อตั้งโรงฝึกบูจินกันในญี่ปุ่น โดยสายวิชาการต่อสู้ที่สืบทอดกันมายาวนานที่สุดมีอายุเกือบ 900 ปี และมีสายวิชานินจาที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกส่งทอดกันมาถึง 34 รุ่น คือ นินจุสสุของสำนักโตกาคุเระ โดยอาจารย์มะซะอะกิ ฮะซึมิเป็นผู้สืบทอดวิชาลำดับที่ 34”

ชื่อโรงฝึกบูจินกัน มีความหมายถึงโรงฝึกเทพนักรบ เพื่อเป็นเกียรติแก่อาจารย์ของท่านฮะซึมิ โดยได้สอนวิชาทั้งเก้าเรียกรวมๆ กันว่า บูจินกัน บูโด ไทจุสสุ หรือวิชาต่อสู้ที่พัฒนาขึ้นในยุคสงครามโบราณ ท่วงท่าต่างๆ เกิดขึ้นในสนามรบที่แต่ละฝ่ายเข้าต่อสู้เพื่อเอาชีวิตของอีกฝ่าย ผู้มีชีวิตรอดต่อมาจึงนำมาสั่งสอนจากรุ่นสู่รุ่น

“นินจุสสุสายโตกาคุเระ จะมองถึงการเอาตัวรอดหรือหลบหนีจากสถานการณ์ที่เสี่ยงภัยหรือคับขัน มากกว่าที่จะเข้าต่อสู้กับคู่ต่อสู้ เพราะภารกิจของนินจาในอดีตมักเป็นภารกิจข่าวกรอง ทำการสืบหาข่าวและนำข่าวกลับไปให้เจ้านาย การเอาชีวิตรอดจึงเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด”

ด้านนินจุสสุสำนักคิคุชินเด็นเป็นวิชาที่ถูกใช้ในสนามรบอย่างเต็มรูปแบบ นอกจากการต่อสู้มือเปล่าจึงมีการฝึกอาวุธที่หลากหลาย เช่น ดาบ ง้าว หอก และ พลอง เน้นการต่อสู้ที่รวดเร็ว ดุดันรุนแรง การฝึกฝนวิชาในปัจจุบันไม่ต่างจากอดีต แม้ปัจจุบันรูปแบบการรบจะไม่สามารถนำมาใช้งานได้ แต่ก็ประยุกต์ได้ 

“เริ่มต้นจากแนวคิดในการหลีกเลี่ยง ต้องเตรียมพร้อมและวางแผนล่วงหน้าว่า หากเกิดสถานการณ์ขึ้นจะหลบหลีกไปทางไหน จะสามารถนำสิ่งรอบตัวใดๆ มาช่วยในการเอาตัวรอดได้บ้าง กระทั่งถึงสถานการณ์ที่ต้องใช้กำลังหรือจะออกจากสถานการณ์คับขัน จะหยุดยั้งอีกฝ่ายและพาตัวเองออกมาอย่างไร”

คิฮอนแฮปโป (Kihon Happo) แปลตรงตัวว่าพื้นฐานแปด ในบูจินกันถือเป็นฐานของเทคนิคการต่อสู้ทั้งหมด ส่วน Happo Hiken (Biken) หรือพื้นฐานวิชา ประกอบด้วย การใช้ร่างกาย กระโดด ขว้างเชือก ต่อสู้มือเปล่า การหักกระดูก การทุ่ม การใช้หอก การใช้ง้าวและพลอง การขว้างเซ็นบัง (ดาวกระจายชนิดหนึ่ง) ขว้างมีด ศิลปะการใช้ไฟ-น้ำ เทคนิคทางทหาร การพรางและการปลอมแปลง

สำหรับโรงฝึกบูจินกันในประเทศไทย ก่อตั้งโดยอาจารย์เอก ซึ่งฝึกวิชาบูจินกัน บูโด ไทจุสสุมากว่า 20 ปีที่โรงฝึกหลักในญี่ปุ่น ได้รับสายดำระดับสูงสุดขั้นสิบระดับคุ ได้รับตำแหน่ง ยูชู ชิฮัน (ผู้สอนอาวุโสที่มีความสำคัญ) และได้รับเหรียญเกียรติยศมังกรทองจากอาจารย์มะซะอะกิ ฮะซึมิ ขณะเดียวกันก็มีผู้ฝึกสอนสายดำระดับ 5 อีก 6 คน โรงฝึกตั้งอยู่ที่ตึกช้าง, บางแค, หลักสี่, สมุทรปราการ และชลบุรี

“ผู้ฝึกฝนควรมีความเข้าใจในวิชา ผู้ฝึกใหม่จำนวนมากคิดว่าจะเหมือนในหนัง ในการ์ตูน ที่สามารถเล่นเป็นนินจาด้วยความสนุกสนานได้ หลายคนคิดว่าการฝึกคือการเข้ามาปาดาวกระจายหรือฟันดาบเท่านั้น ทำให้เมื่อต้องฝึกในแบบของศิลปะการต่อสู้ก็ไม่มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ”

สนใจดูรายละเอียดการฝึก www.bujinkan-thailand.com  หรือ facebook.com/bujinkanthailand/