posttoday

Fashionology เมื่อเส้นแบ่งกำลังถูกทำให้เบลอ

12 มกราคม 2559

สัปดาห์ที่แล้ว เลดี้ กาก้า ประกาศการทำงานร่วมกับ Intel ในโปรเจกต์ที่ยังไม่ได้เปิดเผยชื่อ

โดย...เอกศาสตร์ สรรพช่าง [email protected] 

สัปดาห์ที่แล้ว เลดี้ กาก้า ประกาศการทำงานร่วมกับ Intel ในโปรเจกต์ที่ยังไม่ได้เปิดเผยชื่อ ในงานแสดงเทคโนโลยี CES 2016 ที่ลาสเวกัส ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่าว่า นี่คือความร่วมมือที่จะทำอะไรใหม่ๆ และสร้างสรรค์มาก ดูทรงแล้วมันน่าจะเข้าไปเอี่ยวกับการประกาศผลรางวัลแกรมมี่ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงกลางเดือน ก.พ.นี้อย่างแน่นอน

ปีนี้นักวิเคราะห์เทรนด์ทั้งหลายเทคะแนนให้กับเทคโนโลยี Visual Reality ที่จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้นเรื่อยๆ ปีที่แล้วก็เริ่มมีกลิ่นๆ ออกมาแล้วบ้าง และบทบาทก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในวงการแพทย์และวงการทหาร เพื่อช่วยในการซ้อมมือของบรรดาบุคลากรเพื่อลดความเสี่ยง

เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่ของใหม่นะครับ แต่เป็นของแพง เดิมทีมีใช้กันในอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนสูงอย่างอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ ในกีฬาแข่งรถยนต์สูตร 1 พวกเขาก็อาศัยเทคโนโลยีพวกนี้จำลองการฝึกซ้อมในสนามเหมือนจริงก่อนลงสนามจริง แต่ตอนนี้เทคโนโลยีนี้นอกเหนือจากมันถูกทำให้ราคาถูกลงแล้ว มันกำลังท้าทายโลกด้วยการทำให้เส้นแบ่งระหว่างเทคโนโลยีกับวิถีชีวิตของเราเบลอมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากการผลิตหน้ากากเสมือนจริงของหลายค่ายใหญ่ๆ ทั้งเฟซบุ๊กที่ซุ่มพัฒนา Oculus VR ไมโครซอฟท์ก็มี HoloLens ซัมซุงก็ออกมาแล้วเป็น Galaxy Gear VR headset ซึ่งก็คล้ายๆ กับกูเกิล คือสวมเข้ากับสมาร์ทโฟน และใช้สมาร์ทโฟนเป็นจอภาพ แต่ที่ดูจะใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุดตอนนี้ก็คือ HoloLens เพราะอธิบายวิธีการใช้ให้เห็นภาพได้มากที่สุด

ความพยายามในการจะทำลายเส้นกั้นก็มีมาตลอด ไม่ได้แค่มาจากฝั่งของบริษัทผู้สร้างเทคโนโลยีเท่านั้น หากแต่ว่ายังมาจากอีกฝั่งหนึ่งแม่น้ำด้วยเช่นกัน

ปีที่แล้วในงานเทศกาลหนังซันแดนซ์มีการจัดนิทรรศการย่อยชื่อ “The New Frontier Showcase” จากผู้ผลิตหนังทางเลือก ซึ่งผลิตหนังขึ้นมาสำหรับการชมแบบ Virtual Reality โดยเฉพาะ หนังที่น่าสนใจก็อย่างเช่น หนังสารคดีของ Chris Milk ที่ใช้กล้องถ่ายทำหนังแบบ 360 องศาถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับการประท้วงของคนที่ออกมาต่อต้านการใช้ความรุนแรงของตำรวจในแมนฮัตตัน อีกเรื่องที่น่าสนใจคือของบริษัทผู้ผลิตหนัง Felix & Paul ก็ไปถ่ายทำสารคดีชีวิตของชาวมองโกเลียนในเขตชนบท แล้วเอามาฉายในหน้ากากแบบ Virtual Reality เช่นกัน ผู้กำกับเหล่านี้เห็นว่า การทำงานหนังแบบนี้คืออนาคต มันสามารถเข้าถึงผู้คนได้จากมือถือหรือสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวกับพวกเขามากขึ้นกว่าโรงหนัง ในขณะที่อรรถรสในการชมไม่ต่างจากโรงหนัง ที่สำคัญมันสร้างการรับรู้ได้ดีกว่าหนังไอแมกซ์เสียอีก เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวเราจริงๆ สร้างอารมณ์ร่วมได้มากกว่า

การรุกคืบของเทคโนโลยีเหล่านี้จึงเป็นเรื่องน่าจับตามอง ดูจากทรงแล้วปีนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของจุดเปลี่ยนอย่างจริงจัง การกระโดดเข้าร่วมงานกันระหว่างผู้นำด้านเทคโนโลยีอย่าง Intel กับป๊อปสตาร์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคนยุคนี้ ที่มีทัศนคติที่เปิดกว้างอย่างเลดี้ กาก้า (ต้องบอกว่าไม่มีใครเหมาะสมเท่าเธอจริงๆ) หากทำถึงก็น่าสนใจว่าเส้นแบ่งของธุรกิจเทคโนโลยีกับเรื่องอื่นๆ ในชีวิตของเรา เห็นจะเป็นเส้นที่เบลอมากขึ้น มากขึ้นจนกระทั่งท้ายที่สุดมันอาจโดนลบออกไป

แนวโน้มล่าสุดที่เราเห็นก็คือแคมเปญโฆษณาชิ้นใหม่ของหลุยส์ วิตตอง ภายใต้การดูแลของ นิโคลัส เกสกิเยร์ ที่เลือก Claire Farron หรือที่นักเล่นเกมส่วนใหญ่รู้จักเธอในชื่อ Lightning มาเป็นพรีเซนเตอร์สำหรับคอลเลกชั่นประจำฤดูร้อน/ใบไม้ร่วงปีนี้ แน่นอนว่าเบื้องหลังของการทำแคมเปญนี้ ไม่ใช่แค่เรียกความน่าสนใจเท่านั้น หากแต่ว่ายังเป็นการตอกย้ำความผูกพันกันของแบรนด์หลุยส์ วิตตองกับคนญี่ปุ่นซึ่งถือเป็นลูกค้าชั้นดี (มาก) ของแบรนด์ ยังเป็นการเปิดมุมมองใหม่ของแบรนด์ที่อาจดูเก่าไปแล้วให้สดใส ทันสมัยขึ้น และไม่แน่ว่าเขาอาจได้กลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่เด็กลงด้วย

นี่ไม่ใช่งานแรกของ Claire Farron ในฐานะนางแบบ ก่อนหน้านี้เธอเคยรับงานแสดงแบบให้กับ Prada ในญี่ปุ่นมาแล้ว ในการถ่ายแบบลงนิตยสาร แต่นี่อาจเป็นการทำงานเป็นนางแบบในระดับโลกครั้งแรกของเธอ

เทคโนโลยี Virtual Reality กำลังถูกนำมาใช้ในโลกของแฟชั่นมากขึ้นเรื่อยๆ ปีที่แล้วก็มีดีไซเนอร์หลายคนที่นำเอาเทคโนโลยีนี้มาใช้ Misha Nonoo ดีไซเนอร์จากนิวยอร์กถือเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ เธอบอกว่าด้วยวิธีการนี้ ทุกคนจะได้นั่ง “แถวหน้า” เท่าๆ กัน Nick Knight ช่างภาพ ศิลปินหัวก้าวหน้าและบรรณาธิการของเว็บไซต์ showstudio.com ก็ยังให้ความเห็นกับเรื่องนี้กับ CNN ว่า

“ยุคนี้เป็นยุคที่ดีไซเนอร์ทุกคนกำลังพยายามเรียนรู้เทคโนโลยีมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะบางครั้งมันก็เป็นเรื่องยากมากที่สื่อมวลชนและผู้ซื้อจากทั่วโลกจะเดินทางไปตามที่ต่างๆ เพื่อดูแฟชั่นโชว์ ซึ่งมีมากขึ้น แต่เอาจริงๆ แค่เมืองหลักๆ สี่เมือง (นิวยอร์ก ปารีส มิลาน และลอนดอน) ก็ยุ่งมากพอแล้ว แต่คอลเลกชั่นเกิดใหม่อย่างรีสอร์ทคอลเลกชั่นหรือแฟชั่นโชว์จากเมืองที่มาแรงและน่าสนใจอย่าง โคเปนเฮเกน ซิดนีย์ สตอกโฮล์ม หรือโตเกียว ก็เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะแทรกตัวเข้ามาในตารางงานของผู้ซื้อหรือผู้สื่อข่าวระดับหัวแถว เทคโนโลยีกำลังจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงธุรกิจนี้ทีละนิดๆ”

นั่นอาจเป็นเหตุผลว่านิทรรศการและงานกาล่ามหากุศลที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 พ.ค.นี้ของ Metropolitan Museum of Art ที่นิวยอร์ก จึงได้แก่หัวข้อ “Manus x Machina : fashion in an age of technology” พูดถึงเรื่องของเทคโนโลยีที่เข้ามามีผลกับธุรกิจแฟชั่นและเสื้อผ้า ว่ากันตั้งแต่การตัดเย็บจนถึงการแสดงผลงานของดีไซเนอร์ ชื่อของแชร์แมนที่ร่วมจัดงานนี้ นอกเหนือจากจะมี แอนนา วินทัวร์ คาร์ล ลาร์เกอร์เฟลด์ มิวเซีย พราด้า แล้ว ยังมีชื่อของโจนาธาน อีฟ โผล่เข้ามาด้วย...สงสัยไหมครับว่าทำไม

ก็เพราะงานนี้คนจะที่สร้างนิทรรศการนี้ให้เป็นจริงชื่อ “Apple” ไงครับ

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด เอฟเวอร์ตัน พบ อาร์เซน่อล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 20 ธ.ค.68