ท้าทายสมาธิอีกระดับ กับยิงธนูเป้าบิน

โดย...สมแขก ภาพ : คลังภาพโพสต์ทูเดย์/สนามยิงธนูพระราม 2

ใครที่ชื่นชอบกีฬาเกี่ยวกับความแม่นยำ ใช้สมาธิจดจ่อ ต้องต่อสู้กับจิตใจและการรอคอยของตัวอง และต้องใช้­พละกำลังของแขน จะต้องไปลองเล่นกีฬายิงธนู ซึ่งเป็นกีฬาที่เคยใช้ในการล่าสัตว์มาตั้งแต่สมัยโบราณ และกีฬาชนิดนี้เป็นที่นิยมในประเทศไทยมานานหลายสิบปีแล้ว มีสนามฝึกซ้อมหลายแห่งที่มาตรฐานเทียบเท่าระดับโลก ปัจจุบันความแม่นยำกับเป้าที่อยู่กับที่อาจจะท้าทายน้อยเกินไป จึงเห็นสนามยิงธนูแบบเป้าบินเพิ่มจำนวนมากขึ้น

 ความแตกต่างของการยิงธนูเป้านิ่ง และการยิงธนูเป้าบินคือ การยิงธนูแบบเป้าบินจะใช้ธนูแบบ Traditional Archery คือเป็นธนูที่ไม่มีอุปกรณ์ช่วยในการยิง และต้องใช้ทักษะของนักธนูมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังบ่งบอกจิตวิญญาณของนักยิงธนูได้มากกว่าเป้านิ่ง เพราะการฝึกยิงเป้าบินให้อารมณ์เหมือนการได้ปลุกสัญชาตญาณการล่าของผู้ยิง เหมือนได้ย้อนกลับไปเข้าใจความรู้สึกของคนสมัยก่อนที่ใช้ธนูเป็นอาวุธในศึกสงครามและใช้ล่าสัตว์ ในขณะที่การยิงธนูแบบเป้านิ่งจะใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า Modern Archery คือจะมีอุปกรณ์ช่วยยิง เช่น ศูนย์เล็ง อุปกรณ์ถ่วงน้ำหนักเพื่อให้เกิดความสมดุล (Stabilizer) รวมถึงอุปกรณ์ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนต่างๆ ทำให้ยิงได้แม่นยำขึ้น

เทพพิสุทธิ์ แก้วเกาะ นักกีฬายิงธนูเป้าบิน และผู้ฝึกสอนนักยิงธนู สนามยิงธนูพระราม 2 ให้ข้อมูลว่า กีฬาธนูเป้าบินมีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่ง พงษ์ศักดิ์ ศรีสมทรัพย์ ผู้จัดการสนามยิงธนู พระราม 2 นำเข้ามาให้เป็นที่รู้จักในเมืองไทยเมื่อประมาณสามปีก่อน โดยสร้างสนามมาตรฐานการแข่งสากลและอุปกรณ์ทั้งหมดมาจากประเทศฝรั่งเศส

“การยิงธนูเป้าบิน หลักการเล่นจะคล้ายการยิงธนูเป้านิ่ง เพียงแต่คันธนูและลูกธนูจะแตกต่างกันไป อย่างที่บอกข้างต้นว่าคันธนูจะเป็นแบบไม่มีศูนย์ถ่วง และปลายลูกธนูไม่แหลมเหมือนเป้านิ่งซึ่งจะมียางใส่ครอบบริเวณปลายไว้ ทั้งนี้เพื่อให้มีแรงปะทะยิงเข้าเป้าได้ และเพื่อป้องกันอุบัติเหตุหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการยิง เพราะเป้าบินจะไม่อยู่นิ่ง ส่วนเป้านั้นจะเป็น 3D เป็นแบบสามมิติ ทำจากแผ่นยาง มีน้ำหนักเบา สามารถอยู่ในอากาศได้นานทำให้ผู้เล่นได้มีเวลาสำหรับคำนวณการยิงจุดตกมากขึ้น”

สำหรับกติกาของกีฬาชนิดนี้ตามมาตรฐานสากลตัวผู้ยิงกับเป้ายิงจะอยู่ห่างกัน 10 เมตร แต่ทั้งนี้ต้องแล้วแต่ความเหมาะสมกับเพศ วัยและพละกำลังของผู้เล่น เพื่อปรับระยะให้ดูเหมาะสม ซึ่งการแข่งขันระดับโลกจะยิงเป้าบินในพื้นที่โล่ง และปล่อยให้เป้าลอยสูง 70 เมตร และลูกธนูจะเป็นหัวแหลม แต่ในเมืองไทยซึ่งเป็นทั้งสนามซ้อมและสนามแข่งจะใช้ลูกธนูหัวทู่ เพื่อป้องกันความปลอดภัย

“เวลาแข่งขันในเมืองไทยตอนนี้แข่งแบบ 6 เป้าต่อ 1 เซต ถ้ายิงหลายคนก็ยิงคนละ 6 เป้า วนไปเรื่อยๆ ใครยิงเข้าเป้าได้แต้มมากที่สุดก็เป็นผู้ชนะในเกมนั้น แต่ในต่างประเทศ 1 เซตก็ยิง 6 เป้าเช่นเดียวกัน แต่วิธีการนับคะแนนจะแตกต่างกัน คือ ลูกธนูของใครปักที่เป้าคนนั้นก็จะได้คะแนนไป วิธีการแข่งจะเริ่มโดยการปล่อยเป้าบินด้วยเครื่องอัตโนมัติให้เป้าลอยสู่อากาศ จากนั้นผู้เล่นก็ใช้ธนูยิงให้โดน ซึ่งผู้เล่นจะต้องใช้ทั้งสายตา การคำนวณ การจับความรู้สึกของการปล่อยลูกธนู ใจเย็น ลืมการคาดเดาทุกอย่าง ยิงธนูเป้าบินจำเป็นต้องฝึกสมาธิ ใช้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อควบคุมทิศทางของลูกธนู รู้จักการวางแผน รอบคอบ จิตใจและสายตาของเราจะต้องจดจ่ออยู่กับปัจจุบันให้ได้มากที่สุด”

 มือใหม่ที่อยากลองฝึกความแข็งแรงของพละกำลังแขน และทดสอบความแม่นยำ กีฬายิงธนูสามารถไปฝึกฝนได้หลายแห่ง ติดตามข้อมูลสนามซ้อมและการแข่งขันได้ที่สมาคมกีฬายิงธนูแห่งประเทศไทย หรือหากอยากทดลองยิงเป้าบิน สามารถเรียนทักษะพื้นฐานได้ที่สนามยิงธนูพระราม 2 ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำตั้งแต่ทำความรู้จักกับอุปกรณ์และพื้นฐานการยิงที่ถูกต้องให้ โดยคิดราคาเรียน 30 นาที 250 บาท จากนั้นก็สามารถร่วมประลองในสนามได้เลย ใครที่ชื่นชอบกีฬาแปลกใหม่และท้าทาย ไม่ควรพลาด