หนูเล็ก เบญจวรรณ โภคทรัพย์ ชีวิตที่ก้าวตามเสียงสูง
แฟนเพลงลูกทุ่งทั้งเก่าและใหม่ คงไม่แปลกใจในความเป็นตัวจริงของสาวสวยคนนี้
โดย...พงศ์ พริบไหว ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช
แฟนเพลงลูกทุ่งทั้งเก่าและใหม่ คงไม่แปลกใจในความเป็นตัวจริงของสาวสวยคนนี้ แต่หากใครที่ไม่เคยได้รู้จักเธอลองมาฟังเรื่องราวความตั้งใจของสาวนางนี้แล้วจะรู้ว่าอะไรที่นำพาให้เธอมาถึงจุดนี้ได้
หนูเล็ก-เบญจวรรณ โภคทรัพย์ หนึ่งในสมาชิกวงบลูเบอร์รี่ แห่งค่ายอาร์สยามปัจจุบันจากสมาชิกเริ่มต้นที่มีกันสามคนก็เหลือเพียงสอง แม้หลายสิ่งที่ผ่านมาจะเปลี่ยนไป แต่สาวคนนี้ยังคงเชื่อและรักในการเป็นนักร้องไม่เปลี่ยนแปลง และในวันที่พบกันเธอเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นความเป็นลูกทุ่งด้วยรอยยิ้มแสนหวาน...
“ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก ก็ร้องเพลงสตริงมาก่อน แต่จริงๆ แล้วชอบเพลงลูกทุ่งมาก เพราะพ่อกับแม่ร้องให้ฟังตลอด มันทำให้เราอยากร้องได้บ้าง เลยให้แม่สอนร้องเพลงลูกทุ่งมาตั้งแต่เด็ก พอเริ่มสอนเราได้จุดหนึ่งพ่อกับแม่ก็พาเราไปเรียนร้องเพลงตามที่ต่างๆ คงเห็นแววและความตั้งใจของเรา (หัวเราะ) จากนั้นก็เริ่มเข้าประกวดตามเวทีต่างๆ ได้รางวัลบ้าง ตกรอบบ้าง แต่ก็ไม่เคยหยุดร้องเพลง จนมาถึงการประกวดโครงการดาวรุ่งลูกทุ่งไทยแลนด์ เป็นรายการเรียลิตี้ลูกทุ่ง พอชนะก็ได้เข้ามาอยู่กับค่ายอาร์สยาม ช่วงนั้นก็ยังเรียน ม.6 อยู่เลยค่ะ”
ด้วยความเป็นตัวของตัวเอง บวกน้ำเสียงร้องที่ทรงเสน่ห์ ทำให้สาวน้อยก้าวเข้ามาเป็นนักร้องอาชีพ กว่าจะมาถึงตรงนี้เธอเองต้องฝึกฝนอย่างหนัก หากไม่รักจริงสาวผอมบางคนนี้คงมาไม่ถึงจุดที่เรียกว่าเล็กพริกขี้หนูสวยเผ็ดและแซบเช่นปัจจุบัน
ในสังกัดเธอถูกผลักดันให้เป็นตัวแทนของลูกทุ่งยุคใหม่ ซึ่งมีสไตล์เพลงที่ร่วมสมัย และมีการเต้นที่สุดสวิง เป็นหนึ่งในสมาชิกของ “บลูเบอร์รี่” ที่หลังจากออกอัลบั้มแรก พวกเธอก็แจ้งเกิดเต็มตัว ในเวลานั้นไม่มีใครไม่รู้จักเพลง “ชิมิ” ที่บทเพลงของพวกเธอได้กลายเป็นแนวทางของลูกทุ่งยุคใหม่ ที่เข้าถึงกลุ่มคนฟังวัยรุ่น
“มาเป็นนักร้องก็เลยทำงานและเรียนไปด้วยมาตั้งแต่นั้น เลือกเรียนที่ มศว คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกการแสดงและกำกับการแสดงค่ะ คือรู้สึกว่าเราอยากเรียนอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการร้องเพลง ซึ่งเรียนมาเยอะมาก คืออยากเรียนอีกศาสตร์เพื่อให้ตัวเองมีความรู้ ตอนนี้ก็เรียนจบแล้วล่ะ ช่วงเรียนก็ถือว่าหนักมากเลย แต่ก็กัดฟันสู้จนเรียนจบ ซึ่งภูมิใจนะ คือมีแต่คนบอกกับเราว่าจะทนเหนื่อยทำไม ทำงานหาเงินเยอะๆ ก็พอแล้ว แต่เราไม่ได้คิดแบบนั้นไง เราว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือเราไม่รู้หรอกว่าในอนาคตมันจะเป็นเช่นไร และความรู้มันทำให้เราสามารถไปทำอย่างอื่นได้”
เร็วๆ นี้เราจะได้เห็นหนูเล็กโชว์ศาสตร์ที่เธอร่ำเรียนมา นั่นคือบทบาททางการแสดง ซึ่งจะเป็นละครเรื่องอะไรนั้น ยังตอบไม่ได้ แต่เธอบอกกับเราว่า มีทางผู้จัดเข้ามาคุยๆ บ้างแล้ว แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เธอกำลังวุ่นๆ อยู่กับโปรเจกต์ใหญ่ของค่ายอาร์สยามอย่าง “สโมสรชิมิ 3” ลูกทุ่งรวมดาวแห่งปี งานนี้นอกจากได้เห็นหนูเล็กมาร้องกับเพื่อนๆ แล้ว เธอเองจะได้โชว์เดี่ยวในซิงเกิ้ลใหม่ในต้นปีหน้านี้ แฟนเพลงเตรียมกรี๊ดกันได้เลย
สาวตากลมยิ้มหวานขณะเล่าถึงผลงานและความสำเร็จของเธอในวันนี้ให้ฟัง... “คือเมื่อก่อนเราคิดแค่ว่า เราชอบร้องเพลง ไม่คิดว่าจะต้องมีชื่อเสียงหรือมีคนรู้จัก คือแค่นั้นก็มีความสุขแล้ว แต่พอเรามาถึงจุดนี้ได้ มันก็ภูมิใจนะ ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน คือพ่อแม่เราไม่ได้ตั้งความหวังเลยว่า เราจะต้องมีชื่อเสียงจะต้องเป็นที่รู้จัก แต่แค่เขาได้ปล่อยให้เราทำในสิ่งที่เรารักเขาก็ภูมิใจแล้ว พอเราประสบความสำเร็จก็เหมือนเป็นรางวัลให้พ่อกับแม่มากกว่า เพราะพวกเขาเหนื่อยกับเรามาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะสอนเราหรือแม้แต่พาเราไปเรียนต้องขับรถหลายชั่วโมงเพื่อเรียนร้องเพลงแค่ชั่วโมงเดียว หรือแม้แต่พาไปประกวดร้องเพลงตามที่ต่างๆ ถึงตรงนี้สิ่งที่พ่อกับแม่ทำมาก็ไม่เสียเปล่า”


