กับการค้นหาความเหมือนเป๊ะ The Cover เหมือนขั้นเทพ
โดย...ตุลย์ จตุรภัทร
โดย...ตุลย์ จตุรภัทร
คนรุ่นใหม่ที่ฝันอยากจะเป็นศิลปินโด่งดังมีชื่อเสียง มักมีศิลปินในดวงใจเป็นต้นแบบที่ดี ซึ่งกว่าเขาจะมีแนวทางเป็นของตนเองได้ เขาย่อมต้องผ่านการร้อง เต้น เล่น และใส่ลีลาให้เหมือนต้นแบบของตนเองให้ได้มากที่สุด เพื่อปูทางไปสู่การมีลีลา น้ำเสียง เทคนิคการร้องที่เป็นแบบฉบับของตนเอง
หากรายการ The Cover เหมือนขั้นเทพ ที่ออกอากาศทุกวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี เวลา 13.15-13.43 น. ทางช่อง 7HD จะนำเอาหัวใจสำคัญของการใช้ศิลปินต้นแบบเป็นทางผ่านเพื่อก้าวไปสู่การมีแบบฉบับเป็นของตนเองมาเป็นรูปแบบของรายการ ก็นับได้ว่า ผู้สร้างสรรค์รายการได้เข้าถึงแก่นสารสำคัญของการเฟ้นหาศิลปินหน้าใหม่ที่จะมาประดับวงการบันเทิงไปอีกขั้น
ว่ากันว่า รายการ The Cover เหมือนขั้นเทพ เป็นการประกวดร้องเพลงเพื่อเฟ้นหาผู้ที่มีเสียงเหมือน ลีลาได้ แต่งกายเป๊ะ ถอดแบบจากนักร้องที่ผู้เข้าแข่งขันคิดว่าเหมือนมากที่สุด โดยผู้ดำเนินรายการจะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่คนที่คัฟเวอร์เพลงของคริสติน่า อากีลาร์ ได้เหมือนที่สุด นั่นคือ เอกกี้-เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์ นั่นเอง
ทางรายการตระเวนไปคัดเลือก เดอะ คัฟเวอร์ ทั่วประเทศไทย ทั้งเหนือ กลาง อีสาน และใต้ และในแต่ละสัปดาห์ ทางรายการก็หาศิลปินต้นแบบมาเป็นโจทย์ เพื่อเฟ้นหาผู้ที่จะเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ เช่น ไชยา มิตรชัย พุ่มพวง ดวงจันทร์ สุนารี ราชสีมา เจินเจิน บุญสูงเนิน อี๊ด วงฟลาย ฯลฯ โดยมีทั้งกรรมการที่เป็นศิลปินต้นแบบเอง หรือผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิง เช่น เสนาหอย-เกียรติศักดิ์ อุดมนาค หรือ ท็อป-ดารณีนุช โพธิปิติ
ความสนุกของรายการอยู่ที่กรรมการจะไม่ได้เห็นหน้าผู้เข้าแข่งขัน แต่จะฟังเสียงร้องก่อนว่าเหมือนหรือไม่เหมือน ถ้าเหมือนก็จะกดปุ่มเขียว เพื่อจะได้เห็นรูปร่างหน้าตา ลีลาการร้องการแสดง และการแต่งกาย ว่าเหมือนเป๊ะหรือเปล่า หลังจากนั้นกรรมการก็จะกดปุ่มเขียวหรือแดงอีกที ถ้ากรรมการสองในสามกดปุ่มเขียว ก็ผ่านเข้ารอบไปชิงความเหมือนศิลปินต้นแบบ
เมื่อได้ผู้ชนะในแต่ละศิลปินครบ 8 คน ก็เข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ โดยเป็นการจับคู่ชิงให้เหลือ 4 คน จากนั้นทุกคนก็แสดงความสามารถอีกที แล้ววัดดวงกันว่าใครจะได้ขึ้นไปนั่งบัลลังก์เหมือนขั้นเทพที่มีอยู่ 2 ที่เท่านั้น เมื่อได้คนนั่งบัลลังก์แล้วก็มาชิงความเหมือนในรอบสุดท้าย จนได้ผู้ชนะเลิศที่คว้าเงินรางวัลกว่า 1 แสนบาทไปครอบครอง
ทางรายการได้จบซีซั่นที่ 1 ไปแล้ว และกำลังเข้าสู่ซีซั่นที่ 2 อย่างเข้มข้น เอาเป็นว่า ใครชอบรายการแนวนี้ ก็อยากให้ติดตามดู หรือใครอยากเข้าร่วมแข่งขันก็สามารถทำได้ เพราะความฝันอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม นี่คือเรื่องจริง


