posttoday

พลังของความกลัว

20 ธันวาคม 2558

ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เขียนมีโอกาสได้ดูหนัง 2 เรื่อง ซึ่งต่างมีแนวทางและเนื้อหาที่แตกต่างกันออกไป

โดย...แหนง-ดู

ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เขียนมีโอกาสได้ดูหนัง 2 เรื่อง ซึ่งต่างมีแนวทางและเนื้อหาที่แตกต่างกันออกไป แต่ระหว่างความแตกต่างนั้น เราก็ได้พบกับประเด็น “คล้ายคลึง” ที่ซ่อนอยู่ในงานทั้งคู่

ซึ่งทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่า In the Heart of the Sea และ Star Wars คล้ายคลึงกัน คือ “ความกลัว”

หนัง In the Heart of the Sea ซึ่งดัดแปลงมาจากงานเขียนเรื่อง In the Heart of the Sea : The Tragedy of the Whaleship Essex ของ นาธาเนียล ฟิลบริก ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดวรรณกรรมอมตะ Moby Dick ของ เฮอร์แมน เมลวิลล์ ตามมา

นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเรือล่าวาฬเอสเซ็กซ์ซึ่งออกเดินทางสู่มหาสมุทร เพื่อต้อนและฆ่าสัตว์ทะเลตัวมหึมาเพื่อน้ำมัน ต่อมาเรือก็ถูกวาฬยักษ์ตัวหนึ่งโจมตีจนเรือแตก พวกเขาต้องย้ายตัวเองไปอยู่ในเรือเล็กลอยเท้งเต้งกลางทะเล ณ วินาทีนั้นผู้ล่าจึงกลายเป็นเหมือนผู้ถูกล่า เวลานั้นลูกเรือทั้งหมดตกอยู่ในความกลัว พวกเขาอยู่ไกลบ้านเป็นหมื่นไมล์ แผ่นดินที่ใกล้ที่สุดก็ไกลเป็นพันไมล์ พวกเขาหวั่นที่จะเข้าฝั่งซึ่งใกล้ที่สุดเพราะกลัวพบกับมนุษย์กินคน ขณะอาหารและน้ำมีจำนวนจำกัด ที่สุดพวกเขาก็กลายมาเป็นมนุษย์กินคนเสียเอง!!!

ถึงแม้จะไม่เคยอยู่ในสถานการณ์เดียวกับชายเหล่านั้น แต่ว่าเราต่างก็รู้จักความกลัว ยิ่งถ้าย้อนไปเมื่อครั้งยังเป็นเด็กๆ ก็จะพบว่า เรากลัวอะไรมากมาย ในช่วงเวลานั้นเรามักจะถูกบอกถูกสอนว่า ความกลัว คือ ความอ่อนแอ ซึ่งเราจะต้องเอาชนะ ต่อสู้ และข้ามพ้นไปให้ได้ นอกจากจะกลัวสิ่งซึ่งอาจจะไม่มีจริงแล้ว เราก็ยังกลัวสิ่งที่มองไม่เห็น เมื่อเติบโตขึ้นความกลัวหลายๆ อย่างก็หายไป เพราะเราได้เรียนรู้จักว่า บางสิ่งบางอย่างนั้นไม่ได้น่ากลัว ที่ผ่านมาเราเพียงแต่ไม่รู้หรือคิดไปเอง

ความกลัว คือ อารมณ์ของมนุษย์ที่เก่าแก่เข้มแข็งที่สุด และความกลัวที่เก่าแก่เข้มแข็งที่สุด ก็คือ ความกลัวที่เราไม่รู้จัก

และความกลัวจากจินตนาการของตัวเอง หลายคนกลัวผีทั้งๆ ที่ในชีวิตนี้ไม่เคยเจอผีมาก่อนเลย เราเพียงแต่นำเรื่องเล่าต่างๆ ที่รับรู้มาเกี่ยวกับผีมาผูกเป็นเรื่อง สร้างเป็นภาพในหัว ฝังลงไปในความรู้สึกนึกคิด และทำให้ตัวเองกลัว

เราไม่เพียงถูกจินตนาการของตัวเองทำให้กลัว หลายๆ ครั้งเราถูกจินตนาการของคนอื่นหลอก รวมทั้งนักเขียนและคนทำหนังที่ใช้ถ้อยคำ ภาพ และเสียง มาทำให้เรากลัว หนังสือหรือหนังบางเรื่องทำให้เรากลัวตั้งแต่เล็กจนโต ซึ่งเราก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า เราได้เรียนรู้และเติบโตจากความกลัวเหล่านั้นด้วย

ขณะที่ปรมาจารย์โยดาแห่ง Star Wars เคยกล่าววาทะอันลือเลื่องของเขาว่า “Fear is the path to the dark side. Fear leads to anger. Angers leads to hate. Hate leads to suffering.” และใน Star Wars หลายภาค เราก็ค้นพบบางมุมของความกลัว เป็นความกลัวในเบื้องลึกของตัวเราเอง เป็นความกลัวที่อาจจะนำเราไปสู่ด้านมืด

ในบางแง่มุมความกลัวก็เป็นสิ่งที่ดี ถ้าไม่รู้สึกกลัว เราคงจะเดินข้ามถนนตอนไฟเขียว เราคงไม่สวมหมวกกันน็อกเวลาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ ไม่รัดเข็มขัดเวลานั่งรถยนต์ เราคงจะทำอะไรงี่เง่ามากมาย เราควรจะกลัวที่จะไปเดินโดดเดี่ยวในซอยมืด หรืออยู่ในบ้านซึ่งไม่มีระบบป้องกันอย่างเพียงพอ แต่ความกลัวไม่ใช่สิ่งดี ถ้าหากว่าเรามีเป้าหมายบางอย่าง แต่ก็ไม่กล้าเดินข้ามอุปสรรคไปข้างหน้า ส่วนใหญ่แล้วความกลัวดูเหมือนจะไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตเรา

แต่ว่าความกลัวแบบ “ดาร์กไซด์” นั้นแตกต่างออกไป ความกลัวแบบนี้ที่ทำให้เกิดสงคราม รวมทั้งความขัดแย้ง ซึ่งมีผลรบกวนจิตใจของเรา ทำให้เราเครียด เกิดความกังวล ความกลัวซึ่งเป็นเหมือนปีศาจในตัวตนของเรานี้เป็นสิ่งที่ต่อกรด้วยยากที่สุด เพราะมันจะไม่จากไปไหน ความกลัวและความกังวลจะผูกติดอยู่กับเราตลอดไป แต่สิ่งที่เราควบคุมได้ คือ อารมณ์ ซึ่งเป็นผลกระทบของความกลัว และอย่าปล่อยให้มันผลักดันเราสู่ด้านมืด

กับชีวิตที่ดำเนินไปในสังคมทุกวันนี้ เราต่างมีทางเลือกว่าจะอยู่กับความกลัว แล้วป้องกันตัวเองจากทุกสิ่ง ใช้เวลาทั้งชีวิตกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่อาจจะไม่เกิดขึ้น หรือเราจะเปิดตัวเองได้เห็นถึงความรัก ความเมตตา ความดีงามในธรรมชาติของมนุษย์และสิ่งมีชีวิต ใช้ชีวิตอย่างความสุข และไม่ห่วงกังวลมากจนเกินไป

แทนที่จะสนใจแต่อดีตที่ผ่านไปแล้ว หรือกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เราควรเรียนรู้จักความกลัวของตัวเอง เพื่อจะก้าวพ้นความกลัวไปให้ได้ ความกลัวจะกลายเป็นเรื่องธรรมดา และเป็นเรื่องไม่จำเป็น หากเราสามารถเปลี่ยนความกลัวให้กลายเป็นพลัง และพลังนี้จะทำให้เราก้าวไปข้างหน้า

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา