พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ ที่ชอบๆ ของคนรักเครื่องบิน
หากเอ่ยถึงชื่อดอนเมือง ทุกคนก็มักจะนึกถึงสนามบินเป็นอันดับแรก แต่ที่จริงแล้วเขตดอนเมืองนี้มีสถานที่ดีๆ
โดย...โยโมทาโร่
หากเอ่ยถึงชื่อดอนเมือง ทุกคนก็มักจะนึกถึงสนามบินเป็นอันดับแรก แต่ที่จริงแล้วเขตดอนเมืองนี้มีสถานที่ดีๆ คือพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ ที่รวบรวมเครื่องบินรบไทยตั้งแต่รุ่นแรกไปจนถึงกริพเพน เครื่องบินขับไล่รุ่นล่าสุดของกองทัพอากาศไทย และนอกจากจะมีผู้คนนิยมเดินทางมาชมเครื่องบินแล้ว ยังนิยมใช้เป็นสถานที่ถ่ายภาพตั้งแต่นักศึกษากำลังหัดถ่ายภาพบุคคล ไปจนถึงมืออาชีพมาถ่ายพรีเวดดิ้งอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศแบ่งออกเป็น 4 อาคาร โดยอาคารแรกจัดแสดงส่วนประวัติศาสตร์ด้านการบินและส่วนจัดแสดงเครื่องบินโบราณตั้งอยู่นอกโรงเก็บ ซึ่งเป็นส่วนจัดแสดงที่ช่างภาพให้ความสนใจ เพราะมีฉากหลังเป็นเครื่องบินโบราณที่ได้รับการดูแลให้อยู่ในสภาพที่สวยงามและฉากหลังเป็นโรงเก็บเครื่องบิน
เมื่อเดินเข้ามาในตัวอาคาร 1 ด้านซ้ายมือจะเป็นห้องจัดแสดงประวัติศาสตร์การบินโลกเริ่มตั้งแต่ 2 พี่น้องตระกูลไรต์สร้างเครื่องบินลำแรกของโลก เดินอ่านเรื่องราวผ่านภาพตัวอักษรและเครื่องบินจริงจากการบินโลกมาถึงกิจการการบินของไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2454 ที่วันเดล เบอร์น ชาวฝรั่งเศส นำเครื่องบินแบบออร์วิลล์ ไรต์ ปีก 2 ชั้น มาแสดงการบินครั้งแรกในประเทศไทยที่สนามม้าสระปทุม ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์จุดประกายด้านการบินในประเทศไทยอย่างเต็มตัว
ห้องจัดแสดงทางขวามือเป็นโซนจัดแสดงเครื่องบินขับไล่ยุคใหม่ของกองทัพอากาศไทย โดยมีเครื่องเด่นประจำห้องคือ กริพเพน ที่รัฐบาลสวีเดนมอบให้กองทัพอากาศไทยนำมาจัดแสดงโดยเฉพาะ ซึ่งเราจะได้เห็นความล้ำสมัยของเครื่องบินรบยุคใหม่ ที่เน้นการรบด้วยการยิงพิสัยไกล
สมัยนี้หมดยุคการรบแบบตะลุมบอน เครื่องบินรบยุคใหม่จะเน้นระบบเรดาร์หาศัตรูระยะไกล และการส่งข้อมูลให้ฐานยิงสนับสนุนและเครื่องบินอื่นๆ ในทีมทราบตำแหน่งข้าศึกโดยที่เครื่องบินในทีมไม่จำเป็นต้องเปิดเรดาร์ก็จะทราบตำแหน่งและข้อมูลเดียวกัน หรือว่าง่ายๆ ก็คือ เครื่องกริพเพนแม้สเปกเครื่องจะด้อยกว่าเครื่องบินรุ่นอื่นในเรื่องสมรรถนะ แต่มีดีกว่าตรงที่สามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมเวิร์ก และล็อกเป้าได้ตั้งแต่ยังไม่เห็นตัวนั่นเอง
ออกจากอาคารแรกเดินมาตามทางออกด้านหลัง จะเห็นพระเอกของงานวันเด็ก เครื่องบินลำเลียง ซี-123 และเครื่องบินต้นแบบที่กองทัพอากาศไทยได้พัฒนาเพิ่มเติม จากปีที่แล้วที่ยังคงเป็นลานจัดแสดงกลางแจ้ง ปีนี้กองทัพอากาศได้สร้างหลังคาเชื่อมต่อระหว่างอาคาร ทำให้ไม่จำเป็นต้องเดินตากแดดตากฝนชมเครื่องบินเหมือนแต่ก่อน
มาถึงตัวอาคาร 4 จะเป็นส่วนจัดแสดงเครื่องแบบและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับทหารอากาศในอดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนอาคาร 5 นั้นจะเป็นส่วนการจัดแสดงเฮลิคอปเตอร์ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่เครื่องเบลล์ 212 เฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง และสุดท้ายจบที่อาคาร 2 จะเป็นส่วนจัดแสดงเครื่องบินที่เคยปฏิบัติภารกิจสำคัญที่มีชื่อเสียงในอดีต ซึ่งส่วนอาคาร 2 นี้เป็นอีกจุดที่ช่างภาพนิยมถ่ายรูป เพราะตัวเครื่องบินอยู่ในสภาพสมบูรณ์ราวกับว่าพร้อมออกปฏิบัติภารกิจได้ตลอดเวลา (อาคาร 3 เป็นอาคารซ่อมบำรุง ไม่เปิดให้เข้าชม)
ก่อนกลับแนะนำให้ไปร้านขายของที่ระลึกของพิพิธภัณฑ์ ที่มีโมเดลเครื่องบิน เครื่องหมาย และป้ายห้อยพวงกุญแจสวยๆ ของกองทัพอากาศไทย จำหน่ายในราคาถูก แนะนำให้มาในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์พิพิธภัณฑ์จะเปิดให้บริการครบทุกโซน มีจัดแสดงแสงสีเสียงเต็มรูปแบบกว่าวันธรรมดา ซึ่งบอกได้เลยว่าคนรักเครื่องบินไม่ควรพลาด
พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนนายเรืออากาศ เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โทร. 02-534-1853 และ 02-534-2113


