ฮวงจุ้ยนั้นสำคัญ?
ศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยนั้นนับว่าสำคัญอย่างยิ่งในการเริ่มต้นทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อความสบายใจของผู้ที่จะเริ่มต้นกิจการ
ศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยนั้นนับว่าสำคัญอย่างยิ่งในการเริ่มต้นทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อความสบายใจของผู้ที่จะเริ่มต้นกิจการ ดังที่ปรากฏในการเปลี่ยนการปกครองและการดำเนินธุรกิจที่ผู้นำประเทศและผู้นำธุรกิจใช้หลักฮวงจุ้ยในการจัดวางทิศทางสถานที่ทำงาน
ในยุคที่มี ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีบันทึกไว้ว่ามีการปรับเปลี่ยนปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลมากที่สุด ตามความเชื่อของท่านผู้นำในยุคนั้น โดยได้มีการย้ายกำแพง ปรับเปลี่ยนทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ย้ายศาลพระภูมิจากหน้าทำเนียบรัฐบาลไปไว้ที่อื่น ย้ายต้นไม้ ตัดต้นไม้ ปลูกต้นไม้ใหม่ตลอดเวลา ฯลฯ
แต่ก็ไม่ใช่ในยุค ทักษิณ คนเดียวเท่านั้นที่มีการเปลี่ยนฮวงจุ้ยทำเนียบรัฐบาล ในยุคของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีการปรับฮวงจุ้ยทำเนียบรัฐบาลเช่นกัน
สมัยของ พล.อ.สุรยุทธ์ มีการติดตั้งอ่างน้ำพุ ปรับย้ายทิศโต๊ะ เก้าอี้ทำงานในห้องต่างๆ และจัดสวนหย่อม นำไม้มงคลมาปลูกปรับภูมิทัศน์โดยรอบให้สวยงาม นำเอาพระสังกัจจายน์และปี่เซียะไปติดตั้งคู่กันเอาไว้บนหลังคาตึกไทยคู่ฟ้าตรงกับบริเวณที่เป็นห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี โดยตั้งหันหน้าไปทางทิศเหนือ นอกจากนี้ยังได้ตั้งพระสังกัจจายน์และปี่เซียะอีกคู่หนึ่งเอาไว้บนหลังคาจุดที่ตรงกับห้องทำงานของทีมงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นต้น
ฮวงจุ้ยของทำเนียบรัฐบาลนั้น ซินแสภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล เคยดูไว้ว่า ตามหลักฮวงจุ้ยหมดยุคความรุ่งเรืองของทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่ปี 2547 สำหรับตัวตึกทำเนียบรัฐบาล หากหันหน้าเข้าหาตึกไทยคู่ฟ้า จุดไม่ดีคือห้องกึ่งกลางซ้ายมือ กับห้องมุมขวาด้านใน เวลานั่งทำงานควรหันหน้าไปทางพระบรมรูปทรงม้า หรือด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งโดยภาพรวมของหลักฮวงจุ้ยแล้วถือว่าจุดโหงวกุ้ย หรือจุดเจ้าที่ไม่ดี ใครเข้าไปอยู่จะมีแต่ความวุ่นวาย ปวดหัว ต้องตามแก้ปัญหากันตลอดเวลา
แต่เมื่อกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (คนเสื้อเหลือง) ได้บุกยึดทำเนียบรัฐบาล และขึ้นปราศรัยโจมตีรัฐบาลมาร้อยกว่าวันแล้ว ก็พิสูจน์ได้อย่างหนึ่งว่า แม้จะมีการแก้ไขฮวงจุ้ยเพื่อความสบายใจของผู้ที่เข้าไปทำงาน แต่ปัญหาบ้านเมืองอยู่ที่คนไม่ใช่สถานที่
นักธุรกิจใหญ่ท่านหนึ่งที่ได้ชื่อว่าเชื่อถือในศาสตร์ฮวงจุ้ยมาก คือ บัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ธนาคารกสิกรไทย ที่ได้มีการปรับปรุงธนาคารตลอดเวลา
หลังจากที่ ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ลาออกจากกรรมการผู้จัดการแบงก์รวงข้าวไปเป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติ กฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการ ไม่ยอมรับตำแหน่งแทน แถมพ่อของเขา ไพโรจน์ ล่ำซำ ที่ปรึกษากรรมการธนาคาร มาร่วมนั่งประชุมทุกวัน จะหักหาญน้ำใจตั้งลูกชายเป็นกรรมการผู้จัดการโดยเจ้าตัวไม่สมัครใจก็กระไรอยู่
ดังนั้น บัณฑูรจึงปรึกษาที่ปรึกษาด้านเหนือธรรมชาติจึงพบทางออก แนะนำให้ตั้งจตุรเทพขึ้นมาเพื่อดูแลธุรกิจของธนาคารให้ครบทั้ง 4 ทิศ โดยคุณปั้นจะเรียกรองกรรมการผู้จัดการอาวุโสทั้ง 4 หรือจตุรเทพ ว่า “ภูมิ” เป็นเทพผู้ดูแลงาน 4 ด้านของธนาคาร
กฤษฎา ล่ำซำ นั้นเรียกว่า ภูมิธุรกิจ
ธีรนันท์ ศรีหงส์ เป็น ภูมิโครงสร้างพื้นฐาน
ปรีดี ดาวฉาย เป็น ภูมิความเสี่ยง
สมเกียรติ ศิริชาติไชย เป็น ภูมิทรัพยากร
นอกจากนี้ ทางเข้าออกหน้าธนาคารกสิกรไทย ราษฎร์บูรณะ ได้ติดภาพวาดนางฟ้าโปรยดอกไม้ 4 องค์ ทั้งด้านในกระจกและด้านนอกกระจกอย่างสวยงาม
แถมมีช้างเพิ่มเกือบทุกสำนักงานที่สำคัญของธนาคารกสิกรไทย ทั้งศูนย์สำรองระบบคอมพิวเตอร์ที่ถนนแจ้งวัฒนะ สำนักราษฎร์บูรณะ ยังขาดแต่สำนักพหลโยธินเท่านั้น ที่ยังไม่มีพลายปัญญา-บารมีไปยืนเด่นเป็นสง่า
เดิมชั้น 38 ของสำนักงานใหญ่ จะแยกเป็นห้องๆ แต่ตอนนี้ได้ทำการทุบรื้อใหม่ให้เป็นห้องโถงใหญ่ เป็นการปรับเปลี่ยนตามความเชื่อของบัณฑูรในเรื่องฮวงจุ้ย เนื่องจากแบบแปลนเดิมของอาคารจะลาดเทลงแม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งนี้ ได้ยกส่วนที่ลาดซึ่งเป็นหลังคาให้เสมอกัน เหลือเฉพาะส่วนบนของอาคารที่ยังเป็นรูปสามเหลี่ยมขนมเปียกปูน ที่เห็นเป็นตราสัญลักษณ์ธนาคารกสิกรไทย
การเปลี่ยนฮวงจุ้ยที่ลือลั่นของธนาคารกสิกรไทยอีกเรื่องก็คือ มีการตั้งสิงโตคู่ที่หน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารกสิกรไทย ราษฎร์บูรณะ เมื่อเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ช่วงนั้นธนาคารต้องขยันเหมือนสิงโตที่เช้าต้องออกล่าเหยื่อ
แต่ในช่วงที่สถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ก็เปลี่ยนจากสิงโตคู่มาเป็นช้างพลายปัญญา-บารมี เพื่อให้แข็งแกร่ง แข็งแรง เป็นต้น
ซีอีโอแบงก์กสิกรไทย กล่าวว่า เรื่องโหราศาสตร์กับธุรกิจในปีหน้านั้น คำพยากรณ์จะว่าอย่างไร จะดีหรือไม่ดีก็แล้วแต่ แต่ในเรื่องการจัดการธุรกิจเป็นเรื่องของมนุษย์ ต่อให้ไม่ต้องเช็กหรือนำเอาคำทำนายมาดูก็รู้ว่าโลกมันกำลังเกิดรวนไปหมด
ใครก็รู้ว่าขณะนี้โลกเปลี่ยนแปลง เกิดภาวะโลกร้อนสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน การทำธุรกิจก็ต้องเตรียมความพร้อมตลอดเวลาว่าหากสถานการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นอีกรอบ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว น้ำท่วม ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นมาเราจะทำอย่างไรให้เราอยู่ต่อไปได้โดยได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกอีก ที่เกิดเรื่องที่หนึ่งก็ส่งผลกระทบไปถึงอีกที่หนึ่ง การวางแผนก็ต้องคิดถึงปัจจัยเหล่านี้ไปด้วย ไม่ต้องให้โหรมาดูก็รู้ว่ามันมีความเสี่ยง
บัณฑูร กล่าวว่า การวางแผนรับมือความเสี่ยงเหล่านี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่าฟังคำพยากรณ์แล้วก็คิดไปต่างๆ นานา
ออมสินเปลี่ยนโลโก้
ด้าน ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ก็เชื่อในหลักฮวงจุ้ยเช่นกัน เขาได้ปรับเปลี่ยนโลโก้ของธนาคารเล็กน้อย เพื่อให้เป็นไปตามหลักฮวงจุ้ย
ที่ว่าปรับเปลี่ยนเล็กน้อยนั้น เพราะตราสัญลักษณ์ธนาคารออมสินนั้น เป็นตราพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้ก่อตั้งธนาคาร เพื่อให้เป็นที่ออมเงินของปวงชนชาวไทย โดยแค่ผสมสีที่เป็นธาตุดินเข้าไปในตราสัญลักษณ์ธนาคารเพิ่มขึ้น แบบถ้าไม่สังเกตคงไม่รู้
สีของธาตุดิน ได้แก่ สีเหลือง ส้ม น้ำตาล ครีม อิฐ สีในกลุ่มนี้เป็นสีแห่งอำนาจ ความมั่นคง เข้มแข็ง สมดุล