ตื่นบ่อย ไม่เป็นสุข

โดย...กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย ภาพ AP, NYT

การนอนหลับที่มีประสิทธิภาพไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณนอนนานแค่ไหน แต่ปัจจัยสำคัญคือคุณนอนต่อเนื่องหรือไม่ต่างหาก วารสารสลีป (Journal Sleep) เผยแพร่ผลวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ค้นพบว่า ผู้ที่สะดุ้งตื่นกลางดึกหลายครั้ง ทำให้มีอารมณ์ขุ่นมัวกว่าคนที่นอนน้อยแต่ไม่สะดุ้งตื่นเลย และยังอยู่ในภาวะหลับลึกน้อยกว่าปกติ

อีกหนึ่งงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์ก เผยว่า การรับรู้ของคนสูงวัยจะบกพร่องลงเมื่อนอนหลับไม่สนิท เช่นเดียวกับการค้นพบในอิสราเอลเมื่อปีที่แล้ว พบว่า การนอนหลับๆ ตื่นๆ แม้จะมีเวลานอนยาวนานก็มีผลต่ออารมณ์และสมาธิพอๆ กับการนอนเพียง 4 ชั่วโมง

รองศาสตราจารย์ แพทริก เอช. ไฟแนน คณะจิตเวชและพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ ทำการทดลองโดยให้คนจำนวน 62 คน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ถูกก่อกวนเวลานอน กลุ่มนอนดึก และกลุ่มที่ถูกควบคุมโดยผู้ทำการทดลอง กลุ่มที่ถูกก่อกวนจะถูกปลุกทุกชั่วโมง ชั่วโมงละ 20 นาที และชั่วโมงที่แปดจะตื่นตลอด 60 นาที ผลปรากฏว่าอารมณ์ของคนกลุ่มนี้ผิดปกติตั้งแต่คืนแรกและแย่ลงเรื่อยๆ ผิดกับกลุ่มที่นอนดึกจะมีอารมณ์คงที่กว่าในระยะเวลา 3 วันที่ทำการทดลอง จึงยืนยันได้ว่าคนที่ตื่นกลางดึกบ่อยครั้งส่งผลต่ออารมณ์ด้านลบมากกว่าคนนอนน้อยอย่างชัดเจน นอกจากนี้คนกลุ่มแรกจะหลับลึกน้อยลง 42% ส่วนกลุ่มอื่นน้อยลง 19%

เช่นเดียวกับการวิจัยจากมหาวิทยาลัย Tel Aviv ประเทศอิสราเอล ให้ผู้ร่วมการทดลอง 61 คน หลับรวดเดียว 8 ชั่วโมง และในคืนถัดมาจะถูกปลุกด้วยเสียงโทรศัพท์ให้ลุกขึ้นมาตอบอีเมลทุกๆ 90 นาที การวัดผลให้ผู้ร่วมการทดลองประเมินตัวเองปรากฏว่า ทุกคนมีความรู้สึกซึมเศร้ามากขึ้น และรู้สึกเหนื่อยล้ามากกว่าการนอนทั่วไป

บุคคลที่อาจประสบปัญหาเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นแม่ลูกอ่อนที่ต้องตื่นกลางดึกมาให้นมลูก คนที่ดื่มเครื่องดื่มกาเฟอีนและแอลกอฮอล์มากเกินไป คนเป็นโรคนอนไม่หลับ  (Insomnia) คนที่มีภาวะหยุดหายใจชั่วคราวขณะนอนหลับ (Apnea) หรือแม้แต่คนที่มีอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป ก็จะมีประสิทธิภาพในการนอนหลับน้อยลง ทั้งนี้การนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพสามารถทำได้ด้วยการออกกำลังกาย (ไม่ใกล้เวลานอนมากเกินไป) ปิดกั้นเสียงรบกวนและแสงไฟ และผู้เชี่ยวชาญบางคนยังแนะนำให้วางสมาร์ทโฟนไว้นอกห้องนอนก็จะทำให้หลับลึกมากขึ้น