posttoday

แวนด้าแห่งเหมันต์

06 ธันวาคม 2558

ลมเย็นเริ่มมีสัญญาณมาต้องกายในช่วงปลายปี หลายคนหลบเมืองขึ้นยอดดอยไปชื่นชมธรรมชาติและความงามจากดอกไม้เมืองหนาว

โดย...พาแลง

ลมเย็นเริ่มมีสัญญาณมาต้องกายในช่วงปลายปี หลายคนหลบเมืองขึ้นยอดดอยไปชื่นชมธรรมชาติและความงามจากดอกไม้เมืองหนาว แต่สำหรับนักนิยมกล้วยไม้ที่ไม่อยากเดินทางไกล ก็มีนิทรรศการแห่งความสดชื่นรอคอยให้ชื่นชมอยู่เช่นเดียวกัน ที่พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ ซึ่ง สกุล อินทกุล นักจัดดอกไม้และผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ได้หยิบยกเรื่องราวของแวนด้า กล้วยไม้สกุลหนึ่งที่หาชมยาก และมักออกดอกสะพรั่งในช่วงปลายปี จัดเป็นเทศกาลชมดอกแวนด้ารับหน้าหนาวใจกลางกรุงขึ้น

“วัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เม.ย. 2558 พร้อมต้อนรับเหมันตฤดูที่กำลังจะมาเยือนในอีกไม่ช้านานนี้ เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ชื่นชมความงดงามของดอกแวนด้าสายพันธุ์ต่างๆ ซึ่งมีสีสันหลักคือสีม่วง ซึ่งเป็นสีของวันพระราชสมภพมาจัดแสดงให้เป็นนิทรรศการ” สกุล บอกที่มาที่ไปของการจัดเทศกาลครั้งนี้

แวนด้าแห่งเหมันต์

 

ดอกแวนด้าชูช่อรอให้คนที่ชื่นชอบดอกไม้มาชื่นชม ดอกสีม่วงในเฉดต่างๆ ของแวนด้ากว่า 30 ชนิด รวมถึงฟ้ามุ่ย กล้วยไม้หายากจากภาคเหนือถูกนำมาจัดแต่งให้เข้ากับโครงสร้างไม้ไผ่ที่ถูกออกแบบให้กลมกลืนกับสถานที่ ทั้งสุ่มไก่ ไซดักปลา หรือไม้ไผ่สานเข้ากันเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่แล้วนำดอกไม้ไปเรียงร้อยจนกลายเป็นอุโมงค์ดอกไม้ เชื่อมทางเดินระหว่างบ้านไปสู่สวน เป็นธรรมชาติสองสิ่งที่สอดรับและขับความโดดเด่นของกันและกันได้เป็นอย่างดี

ศิลปินนักจัดดอกไม้ชื่อดัง บอกแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ที่เริ่มต้นจากภาพร่างในความคิด แปรเป็นภาพวาด และทดลองทำเป็นต้นแบบเป็นโครงสร้างจริง เพื่อจะได้รู้ปัญหาและอุปสรรค นำไปสู่การปรับปรุงให้ชิ้นงานสวยและสมบูรณ์ที่สุด พร้อมกล่าวถึงคอนเซ็ปต์ในการนำงานหัตถกรรมจักสานไม้ไผ่ของภาคอีสานมาออกแบบ เพื่อใช้ในการประดับตกแต่งร่วมกับแวนด้า ว่า

แวนด้าแห่งเหมันต์

 

“คอนเซ็ปต์ของนิทรรศการครั้งนี้จะเป็นการจัดวางดอกแวนด้ากับงานหัตถกรรมจักสานไม้ไผ่อีสาน ในรูปแบบ Installation Art ประดับประดาทั่วบริเวณพิพิธภัณฑ์ฯ เช่น ชิ้นงานอุโมงค์ดอกไม้ขนาดใหญ่ระหว่างทางเชื่อมสู่บริเวณสวน ที่จะสร้างความตื่นตา ที่เลือกไม้ไผ่มาเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการ เพราะว่านอกจากไม้ไผ่จะเป็นวัสดุธรรมชาติที่แสดงถึงความเป็นเอเชียแล้ว เรายังสามารถนำสิ่งที่มีในท้องถิ่นมาประยุกต์เป็นงานโครงสร้างสถาปัตยกรรมในรูปแบบต่างๆ ได้ เช่น อุโมงค์ไม้ไผ่ที่มีความแข็งแรงสามารถคงรูปอยู่ได้เป็นปี

“หรือการใช้สุ่มจับปลามาเรียงต่อกันเป็นแนวยาว ซึ่งสามารถนำมาแขวนหรือวางราบกับพื้น ก็เป็นการตกแต่งอีกรูปแบบหนึ่งที่สวยแปลกตา หรือนำงานจักสานไม้ไผ่ที่ใช้ในชีวิตประจำวันตามชนบท ไม่ว่าจะเป็น จ่อ (สำหรับเลี้ยงไหม) สุ่มไก่ รังไก่ ไซดักปลา หรือลูกหวาย ที่ใช้เล่นกีฬาตะกร้อ ก็สามารถนำมาสร้างสรรค์ร่วมกับดอกแวนด้าได้อย่างลงตัว” สกุล อธิบาย

แวนด้าแห่งเหมันต์

 

คุณลักษณะเด่นของแวนด้านอกจากความสวยงามที่สะพรั่งเป็นประจักษ์แล้ว อีกคุณลักษณะพิเศษของแวนด้าอีกประการหนึ่งก็คือ ฟอร์มดอกของแวนด้าเป็นแบบหน้าเดียว ดังนั้น จึงสามารถนำมาออกแบบ Installation ในนิทรรศการให้ดูโมเดิร์นได้ดี ซึ่งเจ้าของงานจะแยกแวนด้าเป็นดอกเดี่ยว แล้วจึงจัดประกอบให้เข้ากับโครงสร้างที่จัดวางไว้ จนกลายเป็นงานศิลปะจัดวางได้แปลกตา ซึ่งผลงานโครงสร้างไม้ไผ่ตลอดจน Installation อื่นๆ จะจัดตามจุดต่างๆ กระจายทั่วพิพิธภัณฑ์

เสน่ห์ของดอกไม้ใช่จะมีแต่ความสวยงามที่ตรึงตาเท่านั้น สีและกลิ่นของดอกไม้ยังส่งพลังบวกให้กับคนที่มาชม ให้มีความสุขสดชื่น และได้รับความอิ่มเอมใจกลับไป พร้อมชื่นชมความงดงามของดอกแวนด้าสวยสะพรั่ง หลากสายพันธุ์ ในงานเทศกาลชมดอกแวนด้ารับลมหนาว ซึ่งเริ่มจัดขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. และจะมีไปจนถึง 13 ธ.ค.นี้ ระหว่างเวลา 10.00-18.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้โดยค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ สำหรับผู้ใหญ่คนละ 150 บาท เด็กและผู้สูงอายุคนละ 75 บาท สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งในการเข้าร่วมกิจกรรม ได้ที่โทร. 02-669-3633-34 เวลา 10.00-18.00 น. (หยุดวันจันทร์) ติดตามรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ www.floralmuseum.com  และเฟซบุ๊ก www.facebook.com/TheMuseumofFloralCulture

แวนด้าแห่งเหมันต์

 

แวนด้าแห่งเหมันต์

 

ข่าวล่าสุด

ประเสริฐยันจบด้วยดี “ไชยา” ลาเพื่อไทยเหตุจำเป็นการเมือง