A Thin Fine Line
ตีห้าสี่สิบ ขณะที่กำลังนั่งตาจะปิดรอรถไฟยูโรสตาร์เที่ยวแรกของวันไปทำธุระที่ปารีส อยู่ดีๆ ตาก็ตื่นใจก็เต้น
โดย...katieismonster (ใส่รูปนักเขียนด้วยนะคะ) ภาพ : handinfire
ตีห้าสี่สิบ ขณะที่กำลังนั่งตาจะปิดรอรถไฟยูโรสตาร์เที่ยวแรกของวันไปทำธุระที่ปารีส อยู่ดีๆ ตาก็ตื่นใจก็เต้น เหมือนดื่มกาแฟดำแรงๆ ไปสักสามแก้ว เมื่อมองไปเห็นสาวเอเชียหน้าตาสวยคนหนึ่ง แต่งตัวหัวจรดเท้าดีไซเนอร์ แถมถือกระเป๋าแอร์เมสเคลลี่หนังจระเข้สีดำบัคเคิ้ลทองไซส์พิมพ์นิยม ใส่รองเท้าเปรี้ยวจี๊ด มีดีเทลพื้นสีแดงแปร๊ด มองปราดก็รู้เลยว่าลาบูแน่ๆ ของแท้ไม่ใช่ของปลอม แจ็กเกตสีดำแพตเทิร์นแปลกตาพะยี่ห้อ ริก โอเวน
เสื้อผ้าหน้าผมสวยเป๊ะตั้งแต่ตีห้าขนาดนี้ แอบมองเธอคนสวยอยู่พักใหญ่ สักพักเธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดสีทองชมพูมาถ่ายเซลฟี่ตัวเอง เราฝ่ายคนดูก็แอบยิ้มในใจคนไทยหรือเปล่าน้อ ความคิดยังไม่ทันหมดจากสมองที่ยังเบลอๆ เพราะตื่นเช้าก็ได้ยินเสียงเธอพูดกับแฟนหนุ่มเป็นภาษาไทยของเราด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า เธอๆ ถ่ายรูปให้หน่อยเอาให้เห็นกระเป๋าแบบไม่ตั้งใจนะ ให้เห็นชุดเต็มตัวด้วย ว่าแล้วเธอก็ลุกขึ้นยืนพร้อมหยิบเคลลี่หนังจระเข้ใบสวยราคานี่คงเหยียบล้าน พร้อมสวมแว่นตาดำนี่ถ้าให้เดาร้อยยี่สิบทีก็คงเดาถูกว่าคุณน้องคนสวยคงกำลังถ่ายรูปลงสื่อโซเชียลเป็นแน่แท้
ยังแอบมองเธอด้วยความตะลึงไม่ทันเต็มที่ ก็ถึงเวลาเรียกผู้โดยสารว่ารถไฟกำลังจะออก เราก็เลยรีบเก็บของขึ้นรถไฟมุ่งหน้าไปทำธุระ แต่ระหว่างเดินทางขณะนั่งอยู่บนรถไฟก็นึกถึงเธอขึ้นมา พร้อมมีคำถามหลายอย่างผุดขึ้นมาในหัว แต่มีคำถามหนึ่งที่ถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะบอกตรงๆ ก็ไม่แน่ใจกับความรู้สึกของตัวเอง คือถ้าฉันมีเงินที่จะเนรมิตหรือซื้ออะไรก็ได้ ฉันจะอยากแต่งตัวให้ดูร้วยรวยเหมือนเธอคนนี้มั้ยน้อ????
เก็บคำถามนี้ไว้ในใจ เพราะคิดไม่ตกของดีๆ สวยๆ แพงๆ ใครๆ ก็อยากได้ โดยเฉพาะยิ่งคนชอบแฟชั่น ใครล่ะจะปฏิเสธไอเท็มเด็ดไอเท็มรันเวย์ หรือความหรูหราเป็นที่สุดของกระเป๋าราคาหลักล้าน
พอถึงปารีสหลังจากยังไม่ทันทำธุระเสร็จดี ก็มีข่าวของผู้ก่อการร้ายเข้าโจมตี อุ๊ต๊ะ เกิดอะไรขึ้นมองลงมาจากหน้าต่างโรงแรม ตายละนี่ฉันจะรอดมั้ยนี่ ทำอะไรไม่ถูก เก็บของใส่กระเป๋าไว้ก่อนดีกว่า เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นจะได้พุ่งทัน นั่งๆ นอนๆ ถ่างตาถึงสว่างมองลงมาที่ถนนคนนี่เงียบกริบล้างหน้าล้างตาแต่งตัวสวยข่มจิตใจกลัวๆ กล้าๆ ลงมาเดินดูสถานการณ์ด่านล่างตายแล้วนี่เมืองร้าง นี่เหมือนอยู่ในหนังเรื่องเรสซิเดนต์อีวิลเลย ไหนๆ ก็ไหนสวมวิญญาณ มิลล่า โยโววิช เดินสำรวจปารีส
ว่าแล้วก็เดินไปตรงเส้นร้านเปรี้ยวอย่าง Colette ดีกว่า พระเจ้าช่วยกล้วยอบน้ำซอส... นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย คนค่ะคนคนมาจากไหนเดินช็อปปิ้งกันหน้าตาเฉยให้แน่นร้าน แถมคนเยอะไม่เท่าไหร่ สาวเปรี้ยวสาวแฟชั่นทั้งนั้นนั่งกันสวยๆ จิบชากาแฟเมาท์มอย แถมบ้างก็ลองเสื้อกันสนุก ไม่ได้การละขอใช้ทักษะความหน้าด้านระดับ 7 เดินเข้าไปคุยกับพวกนางเหล่าบรรดาสาวแฟชั่นทั้งหลายว่าไม่กลัวกันเหรอจ้ะ?! คำตอบที่ได้คือกลัวนะ แต่ทำไงได้ถึงอยู่บ้านถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตายอยู่ดี สู้ออกมาแต่งตัวสวยๆ ทำจิตใจให้สบายๆ พบปะเพื่อนๆ ซื้อของเก๋ๆ ถ้าจะมีอะไรร้ายๆ เกิดขึ้นอยู่ตรงไหนก็มี อย่าซีเรียส อย่าตื่นตูม
โอ้ยยยยยยยยยยอยากจะกรี๊ดออกมาเป็นภาษาฝรั่งเศส กำลังกรี๊ดๆ อยู่กับคำตอบผู้หญิงหน้าตาเอเชียลุคอวอร์ดอีกแล้ว แต่ไม่ใช่คนเดิม คนนี้หน้าออกลูกครึ่งเดินเข้ามาดูดีหรือเปล่าไม่รู้ แต่สายตาของดิฉันสะกดที่เธอจนไม่อยากวางตา เธอใส่ทุกอย่างโอเวอร์ไซส์ กางเกงทรงหลวมขาใหญ่ๆ สีกรม มีดีเทลปะต่อแบบสไตล์ Indigo workwear ใส่กับเสื้อสเวตเตอร์ทรงหลวมสีตัดกันพองาม คลุมทับด้วยโอเวอร์โค้ตทรงหลวมคัลเลอร์บล็อกปังๆ ที่มองที่เดียวก็รู้ว่า ร็อคซานด้าแน่ๆ รองเท้าที่ควรจะเป็นส้นสูงแต่เธอกลับเลือกใส่รองเท้าแบบสวมทรงผู้ชาย ถ้ามองไม่ผิดน่าจะเป็นของอัลเดน และแล้วก็เหลือบไปเห็นเธอถือกระเป๋า Moynat ที่สวยคลาสสิกแถมไม่ดูเอะอะ
ถึงแม้ตอนนี้สาวไทยจะเริ่มถือกันเยอะขึ้น แต่ก็ยังน้อยถ้าเทียบกับยี่ห้อหลักแสนหลักล้านยี่ห้ออื่น ทันใดนั้นคำถามที่เคยถามตัวเองว่า ถ้ารวยแล้วเนรมิตอะไรก็ได้แล้วจะอยากแต่งตัวดูรวยมั้ย ก็ได้คำตอบกระจ่างแล้วว่าไม่ละค่ะ ขอสวยแต่ดูแพงแบบเธอคนนี้ดีกว่า เธอเป็นใครมาจากไหนไม่ได้มีการพูดจากันเกิดขึ้น แต่เธอทำให้นึกถึงสาวหน้าสวยที่เจอบนรถไฟ ถึงแม้จะดูดีใช้ของแพงเหมือนกัน แต่ต่างกันคือสไตล์ในการเลือกของหยิบและแมตช์อะไรต่างกัน
เธอคนแรกดูสวยรวย เพราะเล่นดีไซเนอร์หัวจรดเท้า คนหลังสวยแพงเพราะเลือกดีไซเนอร์ที่ไม่มีใครรู้จักมาก แบบม้านอกสายตา ว่าแล้วเธอก็เดินหายเข้าไปนั่งกับแก๊งสาวเปรี้ยวฝรั่ง ที่ไม่กลัวกับสถานการณ์อันตรายที่เกิดขึ้นใดๆ เป็นสาวหน้าเอเชียหนึ่งเดียวที่นั่งเปรี้ยวเคียงบ่าเคียงไหล่ฝรั่ง แล้วดูสวยเก๋ไม่สะทกสะท้าน แต่เปรี้ยวกระเด้งเด่นออกมา เห็นแล้วก็ปลื้มแทนคนเอเชีย
ดิฉันเดินออกจากร้านพลางนึกกับตัวเองว่า ฉันได้คำตอบอีกอย่างให้กับเหตุผลที่สาวแฟชั่นเอเชียบ้านเรายังไงก็ดูไม่เหมือนต่างประเทศ คือสาวไทยและสาวเอเชียนะเก๋นะคะ ไม่เชย แต่สาวบ้านเรากลัวน้อยไม่พึงความเรียบโก้ แถมชอบใช้ไอเท็มที่ดูแล้วรู้ว่าฮิต ชอบดูเป็นคุณนายแบบดูสวยรวยลุคไฮโซ แล้วมีความคิดและค่านิยมแบบผิดๆ ว่า นี่แหละการแต่งตัวดูคุณนาย ใช้ไอเท็มฮิตๆ แบบนี้นี่แหละแปลว่าฉันชอบแฟชั่น
เอาอย่างง่ายๆ ถ้าสังเกตยี่ห้อซีไขว้ยักษ์ใหญ่ให้ลองสังเกตรันเวย์และฟรอนต์โรว์ของเขา ที่พยายามเลี่ยงความหรูหราแบบดูรวย แต่ใส่ความหรูหราแบบดูโก้ดูแพงดูไฮแฟชั่น สังเกตดีๆ ทุกซีซั่นนางจะดึงเอาเซเลบแนวสตรีทเด็กๆ มานั่งหน้าโชว์ เพื่อให้ลุคของงานไม่ดูคุณนายจนเกินไป หรือกระทั่งดิออร์เอง ก็ดึงริฮานนานักร้องแบดเกิร์ลผิวสีมาเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ ส่วนตัวดิฉันเองก็ไม่ได้มีใจฝักใฝ่ริฮานนาแต่ประการใด แต่ลุคนางได้เป็นคนผิวสีที่ดูไม่คุณนาย แต่ดูแพงและไม่ดูร้วยรวยแต่ดูไฮแฟชั่น เริ่มเห็นภาพลางๆ กันแล้วใช่มั้ย
ดูรวยหรือดูแพงดูคุณนายไฮซ้อหรือดูสาวแฟชั่นโก้เก๋ หรือกระทั่งดูบ้าหรือดูเปรี้ยวจริงๆ เหมือนมีเส้นบางๆ แบ่งกั้นกันอยู่นิดเดียว บางคนเก๋มีรสนิยมดีติดตัวมาแต่เกิด บางคนค่อยๆ ฝึกฝนค่อยๆ เรียนรู้ค้นหา บางคนทำยังไงก็ดูแล้วยังงงๆ หยิบผิดหยิบถูก แต่เอาจริงๆ ก็อย่างที่ว่ามันเหมือนเป็นเส้นบางๆ กั้นอยู่ ถูกก็ถูกเลย แต่ถ้าพลาดก็พลาดเลย รื้อกันยาว ก็เหมือนความดีความเลวที่เราต้องคอยเตือนสติตัวเองตลอด ฝึกและหมั่นทำความดี ความดีก็จะอยู่ติดตัวฉันใด แฟชั่นก็คงไม่ต่างกันฉันนั้น
อุ๊ต๊ะ ยิ่งช่วงนี้สิ้นเดือน ตัดสินใจกันเองนะคะว่าอยากดูรวยหรืออยากดูแพง อิอิอิ...


