posttoday

ไปเรียนรู้จากธรรมชาติที่ ฟาร์ม เดอ เล็ค

29 พฤศจิกายน 2558

จะดีแค่ไหนถ้าเด็กๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมือง อยู่กับสิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีความเจริญทางวัตถุ

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ Farm De Lek

จะดีแค่ไหนถ้าเด็กๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมือง อยู่กับสิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีความเจริญทางวัตถุ จะได้มาสัมผัสกับธรรมชาติบ้าง ได้มีโอกาสเรียนรู้และเล่นสนุกในสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้ปรุงแต่ง ได้อยู่ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ พื้นดินพื้นทราย ผักหญ้าต้นไม้ดอกไม้ สัตว์เลี้ยงและแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่นับวันเด็กรุ่นใหม่ๆ จะห่างไกลออกไปทุกที

ไม่เฉพาะแต่เด็กๆ หากคุณพ่อคุณแม่ที่ทำงานเหนื่อยมาตลอดสัปดาห์ ก็จะได้ชาร์จพลังจากธรรมชาติไปด้วยพร้อมกัน เวลาฟิน วันนี้พาไปใกล้ๆ กรุงเทพฯ ที่ฟาร์มตาเล็ก หรือฟาร์ม เดอ เล็ค (Farm de Lek) ตั้งอยู่ที่คลอง 15 ถนนองครักษ์-นครนายก ที่นี่เป็นฟาร์มที่พัฒนามาจากสวนเกษตรแนวผสมผสาน ที่มีทั้งพืชไร่ พืชผักสวนครัว ฟาร์มปศุสัตว์หลากหลาย เลี้ยงไก่เลี้ยงปลา แถมมีเป็ด มีกระต่าย แพะ แกะ แถมมีม้าด้วย น่ารักที่สุด

ไปเรียนรู้จากธรรมชาติที่ ฟาร์ม เดอ เล็ค

 

ฟาร์ม เดอ เล็ค หรือเรียกแบบไทยๆ ว่าฟาร์มตาเล็ก มาจากฟาร์มของตาเล็กหรือคุณตาเล็กของเก๋-เปรมฤดี ตันติเวชกุล พันธุ์รัตน์ เจ้าของฟาร์มคนปัจจุบัน ที่พัฒนาสวนมะม่วงเดิมของคุณตาให้กลายมาเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้บนพื้นที่กว่า 44 ไร่ เด็กๆ ได้สนุกกับธรรมชาติ งานเกษตรและการเล่นสนุกกลางแจ้ง

เปรมฤดี เล่าว่า ที่นี่เด็กๆ จะได้เรียนรู้และสัมผัสธรรมชาติผ่านกิจกรรมหลายรูปแบบ ตั้งแต่การทำเกษตร การรักษาสิ่งแวดล้อม การทำงานศิลปหัตถกรรมจากวัสดุในธรรมชาติ การทำอาหารจากวัตถุดิบที่ปลูกได้เอง การออกกำลังกาย การผจญภัย การฝึกทักษะและการพัฒนาความมั่นใจ รวมถึงกิจกรรมสันทนาการอื่นๆ ที่ช่วยพัฒนาทักษะด้านกีฬา เช่น ขี่ม้า พายเรือ ขี่จักรยานและการขับรถเอทีวี

ไปเรียนรู้จากธรรมชาติที่ ฟาร์ม เดอ เล็ค

 

“เราไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว แต่เราเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ เราทำกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ กิจกรรมส่วนใหญ่มุ่งเน้นที่เด็ก หากกิจกรรมต่างๆ ในฟาร์มได้ออกแบบเผื่อไว้สำหรับการใช้เวลาร่วมกันทั้งครอบครัวด้วย” เปรมฤดี เล่า

โจทย์คือธรรมชาติและการเรียนรู้จากธรรมชาติ ที่นี่มีสนามหญ้าโล่งกว้างกลางแจ้งให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่นอย่างอิสระ ของเล่นทำจากวัสดุธรรมชาติ ไฮไลต์คือบ้านต้นไม้ บึงมรกต (บึงน้ำตามธรรมชาติ) เด็กได้ฝึกทักษะความกล้า ผจญภัยปีนป่าย สร้างจินตนาการ สัมผัสสายลมและท้องทุ่งแท้ๆ อีกไฮไลต์หนึ่งคือปศุสัตว์เล็กๆ ที่มีตั้งแต่เป็ด ไก่ แกะ แพะ หมู กระต่าย รวมทั้งม้า น่าสนุกจริง

ไปเรียนรู้จากธรรมชาติที่ ฟาร์ม เดอ เล็ค

 

ฟาร์มจัดกิจกรรมในลักษณะของ Day Program และ Half day Program สำหรับเดย์โปรแกรมเริ่มตั้งแต่เวลา 09.30-15.30 น. ช่วงเช้าเป็นการให้ความรู้เรื่องฟาร์มและต่อด้วยการทำกิจกรรมที่เด็กๆ ได้ลงมือทำ ตอนเที่ยงพักกินอาหารกลางวัน จากนั้นเป็นช่วงที่เด็กสนุกเต็มที่ คือการได้เล่นในสนามเด็กเล่น ปีนบ้านต้นไม้ เล่นน้ำ กระโดดน้ำ ว่ายน้ำ พายเรือ ขี่ม้า ขี่จักรยาน ฯลฯ ก่อนกลับบ้านทุกคนจะได้รับของฝากจากฟาร์ม เช่น ไข่สดจากฟาร์ม ผักสดจากแปลง ฯลฯ

ส่วนฮาร์ปเดย์โปรแกรม เริ่มต้นกันที่ช่วงบ่ายเวลา 13.30 น. เด็กมารวมตัวกันที่โรงนา ฟังบรรยายเสร็จแล้วแยกย้ายกันไปทำกิจกรรมที่เตรียมไว้ พักดื่มน้ำกินไอศกรีมช่วงเวลา 15.00 น. แล้วปล่อยเด็กเล่นในสนามเด็กเล่น หรือเล่นน้ำต่อจนถึงเวลา 17.00 น.

ไปเรียนรู้จากธรรมชาติที่ ฟาร์ม เดอ เล็ค

 

สำหรับอัตราค่าบริการ เด็กคนละ 500-800 บาท ส่วนผู้ใหญ่คนละ 300-450 บาท ทั้งนี้การเข้าชมหรือการทำกิจกรรมในฟาร์มจะต้องผ่านการจองล่วงหน้าเท่านั้น สอบถามโทร.02-539-1857, 09-8463-8223 และ 08-1832-7848 หรือดูรายละเอียดที่เพจเฟซบุ๊ก farmdelek

ตบท้ายด้วยคำเชิญชวนจากฟาร์มตาเล็ก ที่หวังว่าคุณพ่อคุณแม่และน้องๆ หนูๆ เยาวชนจะได้มาเยือนฟาร์มเกษตรที่เต็มไปด้วยแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติแห่งนี้สักครั้ง ปีหน้าเตรียมพบ Night Camp และกิจกรรมวันเด็ก (9 ม.ค. 2559) ที่จะเปิดตัวเต็มรูปแบบ ตั้งแต่กิจกรรมในฟาร์ม พาเหรดขบวนม้า กิจกรรมเรียนรู้ โดยล่าสุดเตรียมจับมือกับสนามบินเอกชนในพื้นที่ (BAC) ให้เด็กๆ ได้รับประสบการณ์ในการขี่เครื่องบินเล็ก (Simulator) ด้วย

ไปเรียนรู้จากธรรมชาติที่ ฟาร์ม เดอ เล็ค

 

ไปเรียนรู้จากธรรมชาติที่ ฟาร์ม เดอ เล็ค