2 พี่น้องต่างเจน ‘แชร์’ กันทุกเรื่องราว

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

2 คู่พี่น้อง “พบไชยส์” และ “พาเมรา” ทายาทตระกูล “จิวะวิศิษฎ์นนท์” เจ้าของธุรกิจร้านเครื่องประดับวังไข่มุก และเชนโรงแรมแบรนด์โนโวเทล จ.ภูเก็ต ที่ทั้งคู่กำลังขยับตัวเข้ามารับช่วงบริหารกิจการต่อจากรุ่นพ่อและแม่ (บุญชัย-กรรณิกา จิวะวิศิษฎ์นนท์) ในฐานะทายาทรุ่น 2 โดยพี่ชายเข้ามาดูแลบริหารธุรกิจโรงแรมของครอบครัวอย่างโรงแรมโนโวเทล ภูเก็ต รีสอร์ท และโนโวเทล ภูเก็ต วินเทจ พาร์ค ส่วนน้องสาวมุ่งไปยังธุรกิจร้านวังไข่มุก

น้องสาวสุดอะเลิร์ท

พบไชยส์ วัย 35 ปี เล่าถึง “ปิ๊ง” น้องสาวคนเล็กของครอบครัว ที่มีอายุห่างกัน 11 ปี ซึ่งกำลังจับธุรกิจที่บ้านด้านเครื่องประดับร้านวังไข่มุก ด้วยตอนนี้ร้านได้เข้ามาเปิดสาขาให้บริการในกรุงเทพฯ แล้ว เพื่อขยายตลาดและฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้น ซึ่งเห็นว่าเป็นธุรกิจที่น่าจะเหมาะกับน้องสาว ด้วยเป็นธุรกิจความสวยความงาม แต่อันที่จริงโดยส่วนตัวมองว่าน้องปิ๊งมีศักยภาพการทำงานที่สามารถบริหารจัดการได้ดีในธุรกิจทั้งสองอย่างของครอบครัว

“น้องปิ๊งเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นเด็กในยุคที่เรียกว่าเจเนอเรชั่นมี ซึ่งข้อดีที่แตกต่างไปจากคนรุ่นผมที่มีอายุห่างกันถึง 11 ปี คือ เค้าจะเป็นเด็กที่มีความกระตือรือร้นในการทำงานสูงมาก ซึ่งการที่น้องปิ๊งได้เข้ามาดูแลธุรกิจร้านเครื่องประดับวังไข่มุกร่วมกับพี่สาวอีกคนต่อจากที่บ้าน เห็นได้ชัดเลยว่าเค้าจริงจัง มีความอะเลิร์ท มุ่งมั่นกับงานมาก”

ในตอนนี้ถือเป็นช่วงการเรียนรู้การทำงานต่างๆ ของปิ๊ง ซึ่งเค้าจะโชคดีมากกว่าพวกพี่ๆ ด้วยครอบครัวทั้งคุณพ่อ คุณแม่ จะปูพื้นฐานเอาไว้ให้แล้ว ส่วนที่เหลือจากนี้ คือ เค้าจะต้องทำเอง สานต่อเอง โดยเฉพาะในเรื่องของธุรกิจว่าเค้ามีความชอบแบบไหน ซึ่งจะได้จากทั้งพี่สาวที่ดูแลร้านวังไข่มุก หรือตัวผมเองที่อยู่ในธุรกิจโรงแรม 

อย่างในช่วงแรกของการเข้ามาจับธุรกิจ เห็นว่ายังไม่อยากให้น้องปิ๊งเร่งจนเกินไป เพราะอยากจะให้เค้ามีความเข้าใจในธุรกิจที่จับอย่างถ่องแท้ก่อน ซึ่งก็เชื่อว่าในที่สุดแล้วเค้าจะรู้ทางของตัวเองอย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันตัวปิ๊งเองก็จะเข้ามาร่วมประชุมในฐานะผู้บริหารฝั่งธุรกิจโรงแรมอยู่เสมอ ซึ่งปิ๊งเค้าจะเรียนรู้เรื่องต่างๆ ได้เร็ว แต่สุดท้ายหากตัวน้องปิ๊งจะสนใจทำงานทางด้านอื่นที่ชอบหรือถนัดมากกว่า ทางบ้านก็จะเปิดโอกาสให้กับเค้าเช่นกัน     

พี่ชายยอดนักบริหาร

ด้าน “พาเมรา” วัย 24 ปี บอกเล่าเกี่ยวกับตัวเองเล็กน้อย หลังจบปริญญาโทจากอังกฤษ ด้าน Service Management and Design ซึ่งเห็นว่าการเรียนสาขาดังกล่าวจะตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจของครอบครัวได้อย่างดี ทั้งธุรกิจโรงแรมและการบริการที่ร้านวังไข่มุก ด้วยรู้ตัวดีอยู่แล้วว่าเรียนจบออกมาเมื่อไหร่ ก็จะต้องออกมาช่วยเหลือธุรกิจที่บ้าน

ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างพี่ชาย (เป๋า พบไชยส์) และพี่สาว (เปิ้ล พิมมาลา) ซึ่งจริงๆ แล้วมีความสนิทสนมด้วยกันทั้งคู่ ด้วยจะต้องเข้าไปร่วมทำงานในทั้งสองธุรกิจอยู่แล้ว แต่หากพูดถึงความใกล้ชิดแล้วจะไปทางฝั่งพี่เป๋ามากกว่า จากการที่จะต้องแลกเปลี่ยนไอเดียการทำงาน จากการเข้าร่วมประชุมในส่วนของธุรกิจโรงแรมบ่อยครั้งเกือบทุกเช้า

ในสายตาของปิ๊ง เห็นว่าพี่เป๋าเป็นผู้ชาย เป็นพี่ชาย เป็นผู้บริหารที่มีความมุ่งมั่นมากๆ โดยเฉพาะในเรื่องการทำงาน ที่เค้าจะทำงานด้วยใจรักจริงๆ ซึ่งเห็นเค้าเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กเลย เพราะพี่เป๋าเค้ามีความฝันมาตั้งแต่เด็กว่าจะต้องเข้ามาบริหารงานโรงแรมของครอบครัวต่อจากคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งพอโตขึ้นมาพี่เค้าก็ทำได้จริง แถมยังทำได้ดีอีกด้วย ซึ่งเราก็มองเป็นแบบอย่างส่วนหนึ่ง

“พี่เป๋าน่าทึ่งตรงที่เวลาเค้าจะทำอะไรทุกอย่างด้วยความตั้งใจ หรืออย่างถ้าพี่เค้าจะช่วยอะไร ก็จะไปศึกษาอย่างจริงจังมาก่อนจนรู้จริงแล้วมาบอกเรา”

แต่ในส่วนของการทำงาน พี่เป๋าจะเป็นคนที่มีความยืดหยุ่นกับพนักงาน มีความใส่ใจในตัวพนักงานจริงๆ ว่ามีความสุขไหม เป็นคนให้ความสำคัญกับรายละเอียดต่างๆ พร้อมยกตัวอย่างให้ฟังถึงการทำธุรกิจบริการที่ดี จะต้องมาจากระบบหลังบ้าน (แบ็กออฟฟิศ) ด้วย ถ้าแบ็กออฟฟิศมีปัญหาอะไรก็ต้องรีบบอกกัน ไม่เก็บไว้ ต้องรีบเข้าไปแก้ไขเพราะจะส่งผลดีต่อหน้าบ้านอย่างงานบริการด้วย ซึ่งเป็นหัวใจของธุรกิจโรงแรมจริงๆ ซึ่งจุดนี้พี่เค้าก็จะเอามาสอนเราต่อ ก็จะค่อยๆ เรียนรู้ซึมซับไปจากเค้า ซึ่งรวมไปถึงการใช้ชีวิต ที่จะแชร์ทุกเรื่องราวที่สามารถพูดคุยกันได้ด้วย  

ปัจจุบันแม้ฝั่งพี่ชายจะใช้เวลาส่วนใหญ่ทำงานอยู่ที่ภูเก็ต แต่หากมีโอกาสทั้งสองพี่น้องก็มักจะหาเวลามาแบ่งปันโมเมนต์เรื่องราวต่างๆ ทั้งชีวิตส่วนตัวและการทำงานอยู่เสมอ